"ทนง ขันทอง" ชี้ "จีน-รัสเซีย" ร่วมมือกันดึงตะวันออกกลางออกจากอิทธิพลสหรัฐฯ นำโดย "ซาอุฯ-ยูเออี" ซึ่งมีบทบาทสำคัญมากในภูมิภาค
วันที่ 6 มิ.ย. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "ซาอุฯ+ยูเออี ทิ้งเปโตรดอลลาร์ นำพาตะวันออกกลางออกจากอิทธิพลสหรัฐฯ"
นายทนงกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ผู้นำทั้งสองประเทศ ซาอุฯ กับยูเออี มีบทบาทอย่างสูงในการนำพาตะวันออกกลางไปสู่การเปลี่ยนแปลงชนิดพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน โดยบุคคลที่มีความสำคัญมากที่สุดในเกมนี้ ก็คือ เชค มูฮัมมัด บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อีกท่านก็ เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน อัล-ซาอูด ผู้นำของซาอุดีอาระเบีย ที่ร่วมมือกันภายใต้การชักชวนของ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย ที่เดินเกมมาช้านาน เพื่อต้องการเปลี่ยนอิทธิพลของโลกตะวันออกกลาง จากสหรัฐฯ-ยุโรป หันมาอยู่ค่ายรัสเซีย-จีนแทน
โดยที่ผู้นำของซาอุฯ กับยูเออีเห็นพ้องกันว่าถ้าอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯ ต่อไป ภูมิภาคนี้จะถูกแบ่งแยก และกดดันให้ซื้ออาวุธของทางโลกตะวันตก เรื่องราคาน้ำมัน ตัวเองเป็นเจ้าของน้ำมันแต่ไม่สามารถกำหนดราคาน้ำมันเองได้ เพราะกำหนดโดยวอลล์สตรีท และซิตี้ออฟลอนดอน ทำให้ยากที่จะพัฒนาประเทศต่อไปข้างหน้าได้ จึงมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านความมั่นคง นโยบายการต่างประเทศ ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าสองประเทศเดินเกมลดความขัดแย้งทั้งกับ อิหร่าน ซีเรีย เยเมน โดยตกลงกันใหม่ ให้อภัยกัน ลืมเรื่องบาดหมางในอดีต เพื่อตะวันออกกลางเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง
นายทนงกล่าวอีกว่า จีนและรัสเซียต่างมีบทบาทในการผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงในตะวันออกกลาง เพราะลำพังตะวันออกกลางเองไม่มีเอกภาพ ไม่มีพลังเพียงพอในการสลัดตัวเองให้ออกจากอิทธิพลของสหรัฐฯ ต้องได้รับแรงหนุนจากต่างประเทศ
ซึ่งจีนและรัสเซียกำลังผงาดขึ้นเป็นมหาอำนาจโลก ร่วมมือกันดึงตะวันออกกลางมาเป็นพวก ซึ่งทำให้ตะวันตกคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
