"ทนง ขันทอง" ชี้ไม่มีเหตุบังเอิญ ตั้งข้อสังเกต หนัง "007 Goldfinger" ในปี 1964 บอกอีก 58 ปี ทองคำจะกลับมาพุ่งทะยาน ซึ่งตรงกับปี 2022 พอดีที่ธนาคารกลางทั่วโลกแห่ซื้อทองคำมากเป็นประวัติการณ์ คาดถ้าราคายืนเหนือ 2,000 เหรียญอยู่อย่างนี้มีโอกาสทำนิวไฮได้อีก
วันที่ 10 เม.ย. 2566 นายทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "หนัง 007 Goldfinger บอกใบ้ว่ายุคทองคำจะกลับมาในปี 2023"
ซึ่งหนัง 007 Goldfinger สร้างในปี ค.ศ. 1964 โดยอังกฤษใช้หนังเจมส์ บอนด์ สร้างภาพให้อังกฤษเป็นพระเอกปกป้องโลก เนื้อหาเกี่ยวกับระบบการเงินโลกที่อิงทองคำ ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลก โดยเฉพาะเรื่องระบบการเงิน ถูกวางแผนล่วงหน้ามาแล้วเป็นเวลาหลายร้อยปี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบัง
เอิญ
โดยเจมส์ บอนด์ ได้รับมอบหมายให้ไปสืบขบวนการขนทองระดับโลก โดยมีนิ้วทองเป็นผู้ร้ายอยู่เบื้องหลังการลักลอบขนทองจากอังกฤษไปสวิส
และนิ้วทองมีแผนปฏิบัติการจู่โจมเข้าไปที่ฟอร์ตน็อกซ์ ซึ่งเป็นค่ายทหารที่อเมริกา เป็นที่เก็บทองคำของอเมริกา 10,500 ตัน เพื่อเอาระเบิดกัมมันตรังสีทำลายทองคำสำรองทั้งหมดของอเมริกาให้กลายเป็นตะกั่ว แต่ฤทธิ์จะอยู่แค่ 58 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะกลับมาเป็นทองคำดังเดิม ในระหว่างนั้นก็จะมีทองคำของนิ้วทอง ทำให้ราคาพุ่งกลายเป็นมหาเศรษฐีเพราะซัปพลายหายไป ที่สำคัญ หลังจากทองคำไร้ค่าไปดอลลาร์ก็ไม่มีอะไรมาหนุนหลัง ระบบการเงินสหรัฐฯ ก็จะมีปัญหา ค่าเงินดอลลาร์ดิ่งเหว ระบบการเงินของอเมริกาและโลกพังพินาศ แต่ในหนังเจมส์ บอนด์ ก็เป็นผู้ชนะ ล้มปฏิบัติการนิ้วทองได้สำเร็จ
นายทนงกล่าวว่า แต่ในโลกความเป็นจริง ผู้ร้ายคือ ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 1971 เขาประกาศยกเลิกมาตรฐานทองคำเรียกว่า “Nixon Shock” โดยที่สหรัฐฯ จะไม่เอาดอลลาร์ผูกกับทองคำอีกต่อไป เนื่องจากสหรัฐฯ มีการใช้จ่ายเกินตัว พิมพ์ดอลลาร์เดินทองสำรอง
ส่วนทองคำในฟอร์ตน็อกซ์ถูกขโมยไปหรือไม่ มีรายงานสื่อของบอสตัน ในปี 1973-1974 มีการขนทองคำไปเกลี้ยงโดยไม่มีใครไปตรวจสอบ อย่าลืม ริชาร์ด นิกสัน ยกเลิกทองคำหนุนหลังในปี 1971 ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ทองคำ จึงแอบขโมยทองคำไป ซึ่งสื่อก็รายงานว่าคนที่ทำขนาดนี้ได้ น่าจะเป็นตระกูลร็อกกีเฟลเลอร์ หรือไม่ก็รอธส์ไชลด์ ซึ่งคาดกันว่า ปัจจุบันในฟอร์ตน็อกซ์อาจไม่มีทองคำอยู่เลย หรือมีอยู่ 8,113 ตัน
นายทนงกล่าวอีกว่า เป็นที่น่าสังเกต 58 ปีผ่านมา หลังจากหนังเจมส์ บอนด์ คือปี 2022 เป็นปีที่ธนาคารกลางทั่วโลกตะลุยซื้อทองคำรวมกันทั้งหมด 1,136 ตัน ถือว่าเป็นการซื้อทองคำของธนาคารกลางมากเป็นประวัติการณ์ในรอบ 70 ปี ย้อนไปดูสถิติปีก่อนๆ ขายทองทิ้งหันถือดอลลาร์ และมีขบวนการด้อยค่าทองคำมาตลอด อย่างไอเอ็มเอฟก็มีทองคำมาก แต่ต้องการให้ประเทศอื่นถือดอลลาร์
อยู่ดีๆ ปี 2022 ทองคำโดดขึ้นมาเลย ในหนังกับโลกแห่งความเป็นจริงเริ่มจะเชื่อมโยง ซึ่งตนไม่เคยเชื่อเหตุการณ์บังเอิญ ปี 2022 ถือว่าเป็นปีที่สิ้นสุดการสร้างฟองสบู่ของอเมริกา ทำให้ต้องขึ้นดอกเบี้ย เป็นที่มาทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกหันมาซื้อทองคำ จนราคายืนเหนือ 2,000 เหรียญ ซึ่งถ้ายืนเหนือ 2,000 เหรียญอยู่อย่างนี้ ไม่ขึ้นๆ ลงๆ ก็มีโอกาสทำนิวไฮได้อีก
ถ้าเฟดลดดอกเบี้ยราคาทองคำจะพุ่งเลยในเดือนหน้า ช่วงนี้เฟดเจอทางสองแพร่ง จะขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ หรือลดดอกเบี้ยเพื่อปกป้องระบบการเงิน ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินเฟ้อมาก็พัง และถ้าลดดอกเบี้ยเพื่อปกป้องระบบการเงิน ทำให้พังเหมือนกันเพราะเงินเฟ้อก็จะเข้ามากิน