วันนี้ (4 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตดินแดง พรรคไทยศรีวิไลย์ นำโดย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานพรรคและประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจพรรคไทยศรีวิไลย์ นางสาวภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายวิวัฒน์ เจริญพาณิชย์ศิริ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค นางสาวกษิฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ กรรมการยุทธศาสตร์ด้านนโยบายและรองโฆษกประจำหัวหน้าพรรค นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรคไทยศรีวิไลย์ นางสาวณัฐปภัสร์ วรธันผาสุข รองโฆษกพรรค พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร ของพรรค 3 คน ได้แก่ นางสาวพัทธนันท์ ฤทธิ์ชัยเรืองเดช เขต 7 นางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ เขต 29 นางสาวกฤษยากร สรชัย เขต 1 และผู้สนับสนุนพรรค ได้มารออยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร เพื่อรอเวลา 08.30 น. ซึ่งเป็นเวลายื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ ได้แต่งตัวแบบ “เจมส์ บอนด์” คือ ชุดสูทสุดเนี้ยบ สมกับฉายาประจำตัว “พี่เต้ 007” ซึ่งถือเป็นสีสันให้กับประชาชนและสื่อมวลชนจำนวนไม่น้อย โดยในบริเวณดังกล่าวมีหลายพรรคการเมืองต่างที่จะรอที่จะยื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เมื่อถึงเวลา 08.30 น. พรรคการเมืองที่รออยู่บริเวณดังกล่าว ได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อที่จะรีบนำรายชื่อผู้สมัครฯ ส่งให้คณะกรรมการ แต่ทาง กกต. เห็นว่า ทุกพรรคการเมือง รวมถึงพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้มาก่อนเวลาที่กำหนด จึงได้ดำเนินการขั้นตอนจับสลากเพื่อหาหมายเลขให้แต่ละพรรคการเมือง เพื่อใช้เป็นลำดับการยื่นรายชื่อ และเป็นหมายเลขประจำพรรคในการหาเสียงต่อไป ซึ่งผลปรากฏว่า นายมงคลกิตติ์ ได้หมายเลข 42 จากนั้น นายมงคลกิตติ์และผู้ติดตามตามที่ กกต. กำหนด ได้ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร จำนวน 21 คน ให้กับทางคณะกรรมการเลือกตั้ง และได้ยื่นรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ก็คือ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรค
ทั้งนี้ หลังจากที่ได้มีดำเนินการสมัครตามขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้นแล้ว นายมงคลกิตติ์ ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้หมายเลข 42 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของพรรค ว่า ก็ไม่ได้มีความรู้สึกแปลกประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะหลายพรรคก็มีคนที่มีฝีมือดีในการจับสลาก โดยตนมองว่า การที่มีพรรคการเมืองมาจำนวนมากถึง 49 พรรคการเมืองที่มายื่นรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถือเป็นเรื่องที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางความคิดของประชาชนต่อระบอบประชาธิปไตย เพราะหลายๆ พรรคที่มาสมัคร ต่างมีแนวทางและนโยบายเป็นการเฉพาะ ซึ่งต้องการขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนทั้งประเทศในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ สำหรับพรรคไทยศรีวิไลย์ เอง หมายเลข 42 ถือเป็นตัวเลขที่ยังสามารถสื่อสารกับประชาชนได้ผ่านมือทั้งสองข้าง เพราะข้างหนึ่งชู 4 นิ้ว อีกข้างก็ชู 2 นิ้ว ประชาชนก็สามารถจดจำเบอร์ของพรรคไทยศรีวิไลย์ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากจะให้ประชาชนทั้งประเทศ ได้จดจำนโยบายดีๆ ที่พรรคไทยศรีวิไลย์พร้อมทำได้ทันที และถือเป็นนโยบายสำหรับการบริหารราชการแผ่นดิน หากได้มีโอกาสเป็นพรรครัฐบาลภายหลังจากการเลือกตั้ง เช่น นโยบายอัดฉีดเงินจากรากหญ้าพลิกฟื้นเศรษฐกิจ โดยมีการปล่อยกู้ครัวเรือนละ 150,000 บาท 22 ล้านครัวเรือน วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ดอกเบี้ย 0.01% ผ่อน 4 ปี ไม่คิดเครดิตบูโร มีประกันค้ำวงเงิน จะทำให้ประชาชน สามารถนำเงินไปใช้หนี้นอกระบบ ชำระหนี้ผ่อนในระบบ เหลือเงินหมุนเวียนธุรกิจค้าขาย ทำให้เศรษฐกิจทั้งประเทศเคลื่อนไปได้ นโยบายโครงการรับประกันชีวิตทุกชีวิตที่เกิดเป็นคนไทย ถ้าเสียชีวิตทุกเหตุการณ์ ทุกกรณี ทุกโรคจะได้รับเงิน 500,000 บาท เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกเดือนละ 3,000 บาท การลดค่าภาษีน้ำมัน 10 บาท การลดค่าไฟฟ้า เหลือเพียง 4 บาทต่อหน่วย การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีสิทธิเท่าเทียมกันทางกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตั้งสำนักงานทนายแห่งรัฐขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนทั่วไปที่มีความรู้ทางกฎหมายน้อย และไม่มีเงินจ้างทนายมาต่อสู้คดีได้ ซึ่งจะทำให้วลี ‘คุกมีไว้ขังคนจน’ หายออกไปจากสังคมไทย เพิ่มเงินค่าตอบแทนสำหรับอาสาสมัครในด้านต่างๆ และเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 5,000 บาท เป็นต้น รวมทั้ง ขณะนี้ผู้สมัครแบบแบ่งเขตของพรรค ก็ได้มีการลงพื้นที่เพื่อบอกหมายเลขประจำพรรค ทันทีที่ทราบผลการจับสลากเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่า หากประชาชนสนับสนุนพรรคไทยศรีวิไลย์ ทั้งคนทั้งพรรคแล้ว ก็จะได้นโยบายดีๆ ที่ทำได้จริง และได้ตนเป็นนายกรัฐมนตรี บริหารประเทศให้พ้นจากความขมขื่นที่ผ่านมาด้วย