xs
xsm
sm
md
lg

เอสซี แอสเสท ยื่นโนติสทีวีดาวเทียม หยุดนำเสนอข่าวครอบครัวรัตนพันธ์ ให้ลบข้อมูลทิ้งทันที

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขานุการบริษัท เอสซี แอสเสท ทำหนังสือถึงสำนักข่าว ที่เป็นทีวีดาวเทียมช่องหนึ่ง ขอให้ยุติการนำเสนอข่าว และลบข้อมูลออกจากสื่อออนไลน์ทันที กรณีกลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์แถลงข่าว-ร้องเรียนเรื่องที่ดิน 34 ไร่ ย่านถนนรัชดา-รามอินทรา อ้างว่าข้อมูลอันเป็นเท็จ และอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล

วันนี้ (4 มี.ค.) นายสมบูรณ์ คุปติมนัส เลขานุการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือถึงบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News (หรือสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมท็อปนิวส์) เรื่อง ขอให้ยุติเสนอข่าวข้อมูลอันเป็นเท็จ ลงวันที่ 3 มี.ค. 2566 ระบุว่า ตามที่สำนักข่าว Top News ได้เสนอข้อมูลการแถลงข่าวของกลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ นำโดยนายศรายุทธ รัตนพันธ์, นางสาวลัดฟ้า รัตนพันธ์ และนางสาวฐานิดา รัตนพันธ์ กล่าวหาโดยข้อมูลอันเป็นเท็จว่า ถูกครอบครัวชินวัตร และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โกงในการซื้อที่ดิน ทำให้สูญเสียบ้านมูลค่า 200 ล้านบาท โดยสำนักข่าว Top News ได้เคยสัมภาษณ์ กลุ่มครอบครัว “รัตนพันธ์” ออกสื่อออนไลน์ ในรายการ Top News Talk เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามหนังสือที่อ้างถึงแล้วว่า ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกกล่าวหาเป็นความเท็จทั้งสิ้น แต่สำนักข่าว Top News ยังคงเพิกเฉย ไม่ยุติในการนำเสนอข่าวข้อมูลอันเป็นเท็จของบุคคลกลุ่มนี้ และเป็นการกระทำโดยเจตนาจงใจ ร่วมกันหมิ่นประมาทครอบครัวชินวัตร และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ได้รับความเสียหาย รวมถึงเป็นการกระทำผิดโดยทุจริต นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ครอบครัวชินวัตร และบริษัท เอสซี แอสเสท ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (แก้ไข โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560)

โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าขอเรียนให้ท่านทราบว่า ข้อมูลทั้งหมดที่กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์แถลงเป็นข้อมูลความเท็จทั้งสิ้น และข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีกลุ่มบุคคลนี้ ในข้อหาหมิ่นประมาท ในศาลอาญา ตามคดีหมายเลขดำที่ อ.2986/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ.930/2564 และเป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีแพ่ง ในศาลแพ่ง ตามคดีหมายเลขดำที่ มย.66/2563 ขณะนี้ อยู่ในกระบวน การพิจารณาของศาล จึงขอแจ้งให้สำนักข่าว Top News ยุติการนำเสนอข่าวข้อมูลอันเป็นเท็จนี้ และนำออกจาก สื่อออนไลน์ระบบคอมพิวเตอร์โดยทันทีด้วย มิฉะนั้น บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับตามกฎหมายต่อไป






รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 มี.ค. กลุ่มครอบครัวรัตนพันธ์ ได้เปิดแถลงข่าวที่ห้องกมลพร โรงแรมเดอะสุโกศล กรุงเทพฯ ระบุว่า ถูกบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย เนื้อที่กว่า 34 ไร่ บริเวณถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ ฉบับวันที่ 11 พ.ย. 2559 ขณะนั้นที่ดินแปลงที่ตนเองถือครองอยู่ มีคดีอยู่ในศาลกับนายทุนเงินกู้ ทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา จึงตัดสินใจไปถอนฟ้องคดีอาญา และเร่งทำสัญญาประนีประนอมยอมความในศาลกับกลุ่มนายทุน เพื่อนำที่ดินมาโอนให้เอสซี แอสเสท ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขบันทึกข้อตกลง แต่เมื่อใกล้ครบกำหนดเวลาตามบันทึกข้อตกลง ปรากฏว่าเอสซี แอสเสท กลับเปลี่ยนแปลงข้อตกลง โดยการแจ้งยกเลิกซื้อที่ดิน และเริ่มแสดงความไม่แน่นอนในการซื้อที่ดิน

ภายหลังเอสซี แอสเสท ได้นำเงินทุนไปซื้อที่ดินแปลงอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่า และราคาถูกกว่าในบริเวณใกล้เคียงกัน เป็นเหตุให้ครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องสูญเสียบ้านและที่ดินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และต้องบ้านแตกสาแหรกขาดมาจนถึงทุกวันนี้ เนื่องจากทรัพย์สินทั้งหมดตกไปเป็นของนายทุนเงินกู้ ที่ผ่านมา นายศรายุทธ รัตนพันธ์ ทำหนังสือถึงผู้บริหารและผู้ถือหุ้น อาทิ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร, น.ส.พินทองทา ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง แม้จะมีการประชุมร่วมกับ นายณัฐพงศ์ และผู้บริหารเอสซี แอสเสท เพื่อจ่ายเงินชดเชยความเสียหาย สรุปเบื้องต้นที่ 20 ล้านบาท แต่กลับอ้างว่าเป็นบริษัทมหาชน ให้อำพรางเป็นสัญญากู้ ก่อนจะฟ้องเป็นคดีแพ่งต่อครอบครัวรัตนพันธ์ เมื่อเดือน ก.พ. 2563

ทั้งนี้ ครอบครัวรัตนพันธ์ต่อสู้คดีกันด้วยตนเอง มายาวนานกว่า 3 ปี เพราะกลัวการโดนแทรกแซง โดยมีการยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง เรียกค่าเสียหายทั้งหมด 1.5 พันล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2565 ซึ่งศาลได้ไต่สวนพร้อมหลักฐานแล้ว เห็นว่ามีมูล มีคำสั่งรับฟ้องแย้งของครอบครัวรัตนพันธ์จำนวน 1,503 ล้านบาทแล้วเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องไปยัง น.ส.แพทองธาร ในฐานะที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อยากจะมาอาสารับใช้ประเทศชาติ แก้ปัญหาของประชาชน อยากให้ถอยกลับมองถึงที่บ้านของตัวเอง ปัญหาที่บริษัทฯ และครอบครัวตัวเองทำไว้แก้ได้หรือยัง อย่าคิดที่จะมาอาสาแก้ปัญหาประเทศชาติ แก้ปัญหาปากท้องประชาชน รับผิดชอบดูแลคนอีก 70 กว่าล้านคน ถ้าเรื่องเล็กๆ แค่นี้ยังกลับมาดูแลและรับผิดชอบอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้
















กำลังโหลดความคิดเห็น