สำนักข่าวใหญ่ต่างประเทศตีข่าวตำรวจไทยเรียกรับเงินนักท่องเที่ยวผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า พร้อมเผยแพร่คำขอโทษของ สตช. แนะนักท่องเที่ยวอย่ามาประเทศไทยหากต้องการเลี่ยงอันตราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนักแสดงสาวชาวไต้หวัน อัน หยูชิง ที่ออกมาถ่ายทอดประสบการณ์สุดเลวร้ายระหว่างการมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จากการถูกเรียกค่าปรับใต้โต๊ะเป็นจำนวนเงินถึง 27,000 บาท โดยอ้างเหตุว่าดาราสาวคนนี้พกพาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศไทยนั้น ขณะนี้สำนักข่าวใหญ่ในต่างประเทศกำลังให้ความสนใจกับข่าวดังกล่าวและเริ่มรายงานข่าวออกไปในหลายภาษาทั่วโลก โดยสำนักข่าว AP สื่อใหญ่ของสหรัฐอเมริกา รายงานคำขอโทษของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ย้ำว่าจะลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกับสำนักข่าว The Straits Times สำนักข่าวชั้นนำของสิงคโปร์ ที่ได้เพิ่มความเห็นของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ใช้หน้าที่โดยมิชอบอย่างเด็ดขาด เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นมีสาเหตุที่ซับซ้อน จึงควรแบ่งแยกนายตำรวจชั้นดีออกมา และไม่ปล่อยปละละเลยกับนายตำรวจที่ไม่ดี
ด้านสำนักข่าว South China Morning Post จากประเทศจีน หยิบยกประเด็นพยานชายชาวสิงคโปร์ที่อยู่ในแท็กซี่คันดังกล่าวออกมายืนยันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่าเงินค่าปรับที่ต้องจ่ายให้ตำรวจนั้นเป็นการปรับเนื่องจากมีบุหรี่ไฟฟ้าในครอบครองและเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่มีหนังสือเดินทางติดตัว โดยเขายอมจ่ายเพื่อแลกกับการไม่ถูกจำคุกและดำเนินคดี
เรื่องราวของดาราสาวไต้หวันยังได้รับความสนใจจากสำนักข่าว The Star สื่อใหญ่ในมาเลเซีย ประเทศที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเป็นอันดับ 1 ของปี พ.ศ. 2565 ซึ่งได้รายงานความเห็นของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่เห็นควรทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายในประเทศไทย และพร้อมผลักดันให้เป็นนโยบายของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง
สื่อด้านธุรกิจในต่างประเทศอย่างสำนักข่าว ET Edge Insights ให้ความเห็นที่น่าสนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า หากคุณเป็นหนึ่งที่ต้องการลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ที่อาจเกิดกับสุขภาพของตนเองด้วยการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและพกพาติดตัวคุณไว้ ดูเหมือนว่าประเทศไทยจะเป็นสถานที่สุดท้ายที่คุณควรจะไปเยี่ยมเยียน เพราะเคยมีกรณีเช่นเดียวกับที่เกิดกับดาราสาวไต้หวันเกิดขึ้นแล้วกับนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2562 โดยครั้งนั้นเธอสูญเงินกว่า 286,000 บาท ให้กับกระบวนการทางกฎหมายเพื่อสู้คดีที่ถูกจับเพราะบุหรี่ไฟฟ้า สะท้อนให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลไทยต้องพิจารณานโยบายเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าใหม่ และให้ความสำคัญต่อข้อเสนอของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ เกี่ยวกับการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ถูกกฎหมายในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายตามประเทศที่ประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ด้วยการใช้แนวทางการลดอันตราย เช่น สหราชอาณาจักร ได้
นอกจากนี้ เรื่องราวการรีดไถเงินจากดาราสาวไต้หวัน และคำขอโทษจากตำรวจไทยยังถูกแปลเป็นภาษาเวียดนาม และนำเสนอผ่านสำนักข่าวในประเทศอย่างสำนักข่าว VN Express สื่อออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม สำนักข่าว Vietnamnet และสำนักข่าว Tienphong ด้วย