”หมอมนูญ” แพทย์จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความหนุนนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจไทย-จีน เชื่อจากนี้จำนวนคนติดเชื้อจะเพิ่มอย่างรวดเร็ว พร้อมให้กำลังใจทีมแพทย์
หลังมีข่าวจีนจะหยุดบังคับนักเดินทางขาเข้าจากการเข้าสู่การกักกันโรค เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมเป็นต้นไป จากการเปิดเผยของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติในวันจันทร์ (26 ธ.ค.) ความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในการมุ่งหน้าสู่การผ่อนปรนมาตรการควบคุมชายแดน ซึ่งถูกปิดตายเป็นส่วนใหญ่มาตั้งแต่ปี 2020
ล่าสุดวันนี้ (28 ธ.ค.) เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ออกมาโพสต์ข้อความสนับสนุนจีนนโยบายโควิดเป็นศูนย์ โดยได้ระบุข้อความว่า
“ผมสนับสนุนและเห็นด้วยที่ประเทศจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ จีนยอมรับการอยู่ร่วมกับไวรัสเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนลดความรุนแรงลง ต่างจากสายพันธุ์เดลตาปีที่แล้ว ที่ทำให้คนอินเดียและคนทั่วโลกป่วยหนักและเสียชีวิตจำนวนมาก ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่จะมีอาการน้อย พักรักษาตัวที่บ้านได้ คนป่วยหนักส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ไม่เคยได้รับวัคซีน หรือยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังจากผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ เศรษฐกิจ สังคม และชีวิตของคนในประเทศจีนจะได้เดินหน้าต่อไป
ประเทศจีนได้ยกเลิกการล็อกดาวน์ เลิกการแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนที่จะเดินทาง หรือเข้าทำกิจกรรมต่างๆ เลิกการสุ่มตรวจหาเชื้อไวรัสคนจำนวนมากที่ไม่มีอาการ เลิกการกักตัวผู้ป่วยยาวนาน ซึ่งส่งผลต่อชีวิตของประชาชนจีนมาเกือบ 3 ปี การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มโควิดจะช่วยกระตุ้นทั้งเศรษฐกิจภายในจีนเอง และยังช่วยประเทศอื่นๆ ในเอเชียรวมถึงประเทศไทย
ผลกระทบของการผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์แน่นอนคือ จำนวนคนติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะคนจีนส่วนใหญ่ไม่เคยติดเชื้อตามธรรมชาติมาก่อน และจำนวนคนป่วยหนักจะขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มของวัคซีนป้องกันโควิดที่คนกลุ่มเสี่ยงได้รับ ยิ่งรับมากโอกาสป่วยหนักยิ่งน้อย ผมขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์จีนทุกคนที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ดูแลผู้ป่วยหนักจำนวนมากที่กำลังเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลในช่วงเวลานี้”