ชาวเน็ตแห่แชร์โพสต์และชื่นชมท่าอากาศยานเชียงใหม่ เผยให้ความช่วยเหลือผู้โดยสารชายชาวอเมริกันวัย 63 ปี บนเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ส เกิดหมดสติไม่รู้สึกตัว และไม่มีชีพจรจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ต่อไป
วันนี้ (3 ธ.ค.) บนโซเชียลฯ แชร์โพสต์จากเฟซบุ๊ก "Chiang Mai International Airport-CNX" ของท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกรณีทีมแพทย์และทีมกู้ภัยท่าอากาศยานเชียงใหม่ช่วยฟื้นคืนชีพชายชาวอเมริกัน หลังหมดสติและชีพจรหยุดเต้นบนเครื่องบิน ขณะเตรียมลงจอดสนามบินเชียงใหม่ ระบุว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ธ.ค. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้รับแจ้งเหตุจากหอบังคับการบิน ว่ามีผู้โดยสารชาวต่างชาติหมดสติอยู่ในอากาศยาน ระหว่างเดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน PG 225 ซึ่งหลังได้รับการประสานเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไปยังส่วนงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติงานรองรับเหตุอากาศยานฉุกเฉินด้านการแพทย์ (Airport Medical Emergency)
เมื่ออากาศยานลงจอดเรียบร้อยแล้ว ทีมแพทย์และทีมกู้ภัยได้ขึ้นไปบนอากาศยาน พบผู้โดยสารชายชาวอเมริกัน อายุ 63 ปี หมดสติไม่รู้สึกตัว และไม่มีชีพจร จึงได้ทำการช่วยเหลือฟื้นคืนชีพ (CPR) และได้ใช้เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) จนทำให้ผู้โดยสารกลับมามีชีพจร หัวใจเต้น และรู้สึกตัวอีกครั้ง จากนั้นทีมแพทย์ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้นำผู้ป่วยส่งต่อไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่เพื่อทำการรักษาต่อไป
สำหรับภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) ถือเป็นภาวะที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะบนอากาศยานขณะทำการบิน หากไม่ได้รับการช่วยเหลือมีโอกาสที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิตค่อนข้างสูง การช่วยเหลือด้วยการฟื้นคืนชีพ CPR และการฝึกปฏิบัติจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตได้สูง ทั้งนี้ ทอท.ได้มีแผนการฝึกอบรมการฟื้นคืนชีพให้แก่บุคลากรด่านหน้า เพื่อให้บุคลากรมีศักยภาพในการช่วยเหลือเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว และมีทีมแพทย์ประจำทุกท่าอากาศยานของ ทอท.เพื่อช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อการดูแลอำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ และการทำงานเป็นทีมของเจ้าหน้าที่จากส่วนงานต่างๆ ในท่าอากาศยานเชียงใหม่แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการดูแลด้านการแพทย์ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป