พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เผยมือปืนป็อปคอร์นพ้นโทษแล้ว กลับบ้านต่างจังหวัด ให้ศีลให้พรเป็นคนดีของสังคม อดทนขยันขันแข็งประกอบอาชีพ อะไรที่ผ่านมาแล้วขอให้ผ่านไป อย่าไปคิดถึงมันอีก
วันนี้ (17 ก.ย.) เฟซบุ๊ก "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" ของ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความระบุว่า "การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เมื่อปี 56 ต่อเนื่องมาถึงปี 57 นั้น ฝ่ายต่อต้าน ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลในขณะนั้นได้มีการใช้อาวุธสงครามในลักษณะที่รุนแรงโดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจะเป็นใครหรืออะไร มุ่งหวังให้เกิดความเสียหาย บาดเจ็บ ล้มตาย เพื่อให้ผู้คนเกิดความหวาดกลัว ไม่กล้าเข้ามาร่วมชุมนุม ซึ่งเป็นการใช้ผู้บริสุทธ์เป็นเหยื่อ เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นติดต่อกัน ทั้งที่ จ.ตราด, ราชประสงค์, ศาลอาญา, ศาลแพ่ง, อนุสาวรีย์ฯ, ถนนราชดำเนิน, ถนนแจ้งวัฒนะ, หน้าทำเนียบรัฐบาล ฯลฯ
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็น “ปกติ” เพราะมันไปเข้าองค์ประกอบของการก่อการร้ายทุกประการแล้ว แต่ทาง จนท.ตร.ก็ไม่สามารถจะควบคุมได้ เหตุการณ์รุนแรงครั้งสุดท้ายที่เป็นจุดที่ทำให้ทางฝ่ายผู้ที่ถูกกระทำต้องเตรียมป้องกันตัวเองขึ้นมาบ้าง คือกรณีการเข้าล้อมยิงขบวนรถของ นายแพทย์ รวี มาศฉมาดล จากบุคคลกลุ่มหนึ่ง จนเป็นผลทำให้นายสุทิน ธราทิน ผู้ควบคุมขบวนรถ ถูกล้อมยิงตายในรถขบวน เรื่องนี้ส่งผลสะเทือนใจต่อประชาชนโดยทั่วไปมาก และกลายเป็นเหตุทำให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมก็เริ่มหาทางป้องกันตัวเองขึ้นมาบ้าง
ต่อมามีการนำมวลชนโดยนายโกตี๋ (นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ) เข้าปิดล้อมขบวนมวลชนของหลวงพ่อพุทธะอิสระ (สิบตรี สุวิทย์ ทองประเสริฐ) ทุกทิศทาง และเริ่มมีการใช้อาวุธยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมก่อน จึงเกิดการใช้อาวุธของบุคคลที่ได้รับชื่อในเวลาต่อมาว่า “ป็อปคอร์น” ตอบโต้ขึ้น เพื่อชะลอการบุกของกลุ่มโกตี๋ ในลักษณะของการป้องกันตัวเอง แต่เมื่อการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการผิดกฎหมายแล้ว จะอ้างเรื่องการป้องกันตัวเองให้พ้นผิดย่อมไม่ได้ “ป็อปคอร์น” จึงถูกศาลพิพากษาจำคุก
วันนี้ ผมได้รับโทรศัพท์จาก “ป็อปคอร์น” และบิดาแจ้งว่าพ้นโทษแล้ว กำลังเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ผมจึงให้พรว่า “ต่อไปนี้ขอให้ทำตัวเป็นคนดีของสังคม มีความอดทน ขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ขอให้มันผ่านพ้นไป อย่าไปคิดถึงมันอีก” ผมเชื่อว่า มนุษย์เราทุกคนควรได้รับโอกาสกลับตัวกลับใจ เมื่อก้าวพลาดไปแล้ว ก็สามารถกลับมาเริ่มต้นเป็นกำลังของสังคมไทยได้ทุกคน ทุกสีเสื้อครับ"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
สำหรับมือปืนป็อปคอร์น คือ นายวิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2561 ศาลฎีกาพิพากษากลับตามศาลชั้นต้น จำคุก 37 ปี 4 เดือน ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีการปะทะกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ที่นำโดย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงปทุมธานี ที่เป็นกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 เหตุการณ์นี้มีนายอะแกว แซ่ลิ้ว วัย 72 ปี พ่อค้าขายน้ำหวาน น้ำอัดลม หน้าโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 2 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวนาน 8 เดือน ก่อนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2557 นอกจากนี้ยังมี น.ส.สมบุญ สักทอง, นายนครินทร์ อุตสาหะ และนายพยนต์ คงปรางค์ ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนนายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋ หลังรัฐประหารปี 2557 ได้หลบหนีไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ใช้ฉายาจัดตั้งว่า "สหายหมาน้อย" ภายหลังตำรวจออกหมายจับโกตี๋พร้อมพวกหลายคดี ทั้งคดีครอบครองยุทธภัณฑ์อาวุธสงครามและความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน คดีร่วมกันปาระเบิดใส่บ้านพักนายสำราญ รอดเพชร สื่อมวลชนอาวุโสและแกนนำ กปปส. รวมทั้งคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ แต่เมื่อปี 2560 มีข่าวลือในกลุ่มคนเสื้อแดงว่า โกตี๋ถูกอุ้มฆ่า แต่ถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีใครยืนยันการเสียชีวิตแต่อย่างใด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก “มือปืนป็อปคอร์น” 37 ปี 4 เดือน
- มือปืนป็อปคอร์น ฮีโร่ที่ถูกทิ้ง??!! และคิดถึง “ลุงกำนัน”
