อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ยกเหตุการณ์โกงบ้านโกงเมืองและจาบจ้วงสถาบันในอดีต รอดพ้นปลอดภัยมาได้เพราะกลุ่ม "ไทยไม่เฉย" หวังจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" ระบุถึงกรณี ลาซาด้า จัดจ้างกะเทยรายหนึ่งทำโฆษณาที่มีลักษณะก้าวล่วงสถาบัน จนคนไทยจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม และโดนหลายหน่วยงานแบนตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น โดย ดร.ไตรรงค์ได้ระบุข้อความว่า
"ไทยไม่เฉย ไทยเฉย VS ไทยขายชาติ
จากกรณีที่บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทยบริษัทหนึ่ง ได้บังอาจทำการตลาดด้วยการโฆษณาก้าวล่วงสถาบัน จนคนไทยจำนวนมากรู้สึกสะเทือนใจ ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบัน คุณเปลว สีเงิน (คนปลายซอย) ได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ไว้ยืดยาว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ผมขออนุญาตตัดบางส่วนมาให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ครับ
ลำพัง "รัฐบาล" ฝ่ายเดียว ถึงแม้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จะผนึกแน่นในการควบคุมสถานการณ์รักษาชาติบ้านเมืองก็เถอะ ถ้ามีแต่คน "รักชาติ-รักสถาบัน" อยู่แต่ในที่ตั้ง ใครจะขึ้นช้าง-ลงม้าอย่างไร จ้วงจาบหยาบช้าสถาบัน-ล่มชาติ ขนาดไหน?
กู "ไทยเฉย" อย่างเดียวละก็ ไม่มีคน "รักชาติ-รักสถาบัน" กลุ่มหนึ่งออกมาต้านสู้ ด้วยหัวจิต-หัวใจอย่างที่เห็น ป่านนี้ "เสร็จไอ้สามสัส" กับพวกไอ้จานจัญไรไปนานแล้ว! เพราะลำพังเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วย "กฎ-กรอบ-กติกา" มันมัดมือ-มัดเท้า จะทำอะไรกับ "พวกมากลากไป" เฉพาะหน้าได้ไม่ถนัดหรอก
ยิ่งมาเห็นชัดวันนี้-ตอนนี้ กรณีโฆษณานี้ ทำให้อบอุ่นใจ มีความมั่นใจมากขึ้นว่า ต่อให้ลูกหลานไทยเข้าสู่ระบบ "รุ่นใหม่" อีกกี่ร้อยรุ่น-พันรุ่น ก็ไม่ต้องห่วงว่าใครจะ "ล่มชาติ/ล้มสถาบัน" ไทยเราไปได้
เพราะ "เนื้อแท้" แล้ว.........ไทยขายชาติ กับไทยเฉย และไทยคอยฉกฉวยโอกาส ที่เราเห็น มันมีตามวิสัย "สัตว์นรกมาเกิด" กระหย่อมหนึ่งเท่านั้น แต่โดยมนุษย์แก่นไทย.......คนรักชาติ-บ้านเมือง จะเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาจะออกมาป้องชาติ-ป้องสถาบัน ด้วยใจมันสั่งมา โดยไม่มีใครต้องนัดหมาย
"เลือดไทย" นั่นแหละ มันไหลออกมาผนึกรวมกันเอง!
(อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipost.net/columnist-people/137783/)
ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและขอคารวะในความคิดเห็นของคุณเปลว สีเงิน ที่พูดตรงไปตรงมาครับ ที่คุณพูดถึงมันตรงกับปัญหาของชาติ และตรงกับความรู้สึกของคนไทยอีกจำนวนมาก รวมทั้งตัวของผมด้วย จุดประกายจากสิ่งที่คุณพูด ขอชวนมาลองย้อนอดีตดูกันสักหน่อยดีไหมครับ
เมื่อสมัยเรามีรัฐบาลเผด็จการรัฐสภาในปี พ.ศ. 2544-2549 โกงบ้านโกงเมืองและไม่ให้เกียรติสถาบันเท่าที่ควรจะเป็น ไทยไม่เฉย สวมเสื้อเหลืองออกมาปกป้องชาติ-สถาบัน กันมืดฟ้ามัวดิน โดยการนำของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล (ผู้นำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย)
เมื่อสมัยเผด็จการรัฐสภา ปี พ.ศ. 2555-2557 โกงบ้านกินเมืองผ่านโครงการหลายโครงการ เฉพาะโครงการจำนำข้าวก็โกงกินกันไปหลายแสนล้าน แถมยังใช้อำนาจเผด็จการรัฐสภาพยายามออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พวกปล้นชาติปล้นแผ่นดินจน ไทยไม่เฉย ออกกันมาท่วมฟ้าท่วมแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ออกกันมาในนามของ “กปปส.”
สรุปว่า ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์ จะอยู่รอดปลอดภัยได้ ก็ต้องหวังพึ่ง ไทยไม่เฉย ส่วนใหญ่ของคนไทยนี่แหละครับ มันเป็นจริงมาแล้ว และหวังได้เลยว่ามันจะเป็นจริงเช่นนั้นตลอดไป
ผมขอเรียนว่าความเห็นที่ลงในเฟซบุ๊ก เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ปชป.แต่อย่างใด"