สธ.ลงนามร่วม กกต. ดัน อสม.พลเมืองคุณภาพเป็นวาระชาติ ปั้นเป็นแกนนำกระจายความรู้การปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ให้คนในชุมชน การใช้สิทธิเลือกตั้ง ไม่ขายเสียง รักชาติบ้านเมือง ไม่หวั่นเรื่องหัวคะแนน เชื่อ อสม.มีวุฒิภาวะ ทำงานบนความเสียสละ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ศูนย์ราชการฯ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระดับนโยบายการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
นายอนุทินกล่าวว่า กกต.สนับสนุนให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง ขณะที่ สธ.มี อสม.ที่ดูแลสุขภาพ คุณภาพชีวิตของคนในชุมชน การลงนามในครั้งนี้เป็นความตั้งใจของ 2 หน่วยงาน ซึ่ง กกต.ทราบว่า สธ.มีเครือข่าย อสม. ประมาณ 1.05 ล้านคนกระจายทั่วประเทศ หลายคนมีความรู้ความเข้าใจการพัฒนาการเมือง จึงลงนามเพื่อสนับสนุนให้เครือข่าย อสม.เป็นผู้กระจายความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้ประชาชนเข้าใจคุณค่าของการมีประชาธิปไตยในประเทศ และนึกถึงประเทศเป็นหลัก ไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง ไม่ขายเสียง ทำความเข้าใจให้เลือกคนที่ดี ทุ่มเท เลือกพรรคที่ดี มีนโยบายทำเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ
"เรานำข้อมูลของ กกต.ต่อยอดเข้าไปให้ อสม.ช่วยทำความเข้าใจชาวบ้าน บอกว่าต้องรักชาติบ้านเมือง สงวนสิทธิ์ที่ตัวเองมี เลือกคนที่ดีที่สุดเป็นตัวแทนของเขา เป็นปากเสียงมาออกกฎหมาย มาบริหารบ้านเมือง มาตรวจสอบการทำงาน ทุกมิติก็จะครบ ถือเป็นการริเริ่ม กุศโลบายที่ดี เพราะ อสม.มีศักยภาพในการกระจายข่าว อย่างการมีโรคระบาดต่างๆ ก็ช่วยกระจายข่าวให้ชาวบ้านเข้าใจปฏิบัติตนและมีความปลอดภัยจากโรค ครั้งนี้ก็จะใช้เครือข่าย อสม.ในการให้ข้อมูล โดยมีการฝึกอบรมต่างๆ จาก กกต. ซึ่ง สธ.จะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ และให้ อสม.เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการและอาสาสมัครพัฒนาการเมืองที่ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) ซึ่งตั้งอยู่ในทุกตำบล" นายอนุทินกล่าว
ถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหัวคะแนนการเมืองในพื้นที่ นายอนุทิน กล่าวว่า กกต.ถึงต้องมาลงนามร่วมกับ สธ. ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า อสม.โดยพื้นฐานทุ่มเทเสียสละอยู่แล้ว รักชาติรักบ้านเมืองอยู่แล้ว เป็นอาสาสมัครที่มาทำงานโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงค่าตอบแทนค่าจ้างอะไรเลย เชื่อว่าวุฒิภาวะของ อสม. ก็คงจะช่วยเหลือภารกิจและปณิธานของ กกต. เพื่อให้เกิดความสะอาด โปร่งใสในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเลือกตั้งสภาเล็ก สภาใหญ่ใดๆก็ตาม
ถามต่อว่าเป็นการเพิ่มภารกิจ อสม.มากไปหรือไม่ หรือต้องมีค่าตอบแทนอะไรเพิ่มเติม นายอนุทินกล่าวว่า ชื่อของ อสม.คืออาสาสมัคร เป็นผู้ที่มีจิตสาธารณะจิตอาสาเข้ามาทำงานให้ส่วนรวม เรื่องค่าตอบแทน ค่าเสี่ยงภัย ขอให้เป็นหน้าที่ของ สธ.ที่จะหาโอกาสที่เหมาะสม ถ้ามีโอกาสทำได้ก็ไม่เคยละเลย ซึ่งการตอบแทนไม่ใช่แค่รูปแบบของเงิน อาจเป็นรูปแบบของการชื่นชม แจกประกาศนียบัตร สิทธิรักษาพยาบาลต่างๆ แก่ อสม.และครอบครัว เช่น ห้องพิเศษ เป็นต้น มีระบบกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ให้ อสม. หากเสียชีวิต ทายาทก็จะมีเงินมาดูแลประมาณ 4 แสนกว่าบาท นอกจากนี้ สถาบันพระบรมราชชนกยังเปิดหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลให้ อสม.เรียนฟรีปีแรก 3 พันคน เพื่อให้ อสม.มีความรู้ทางการแพทย์การพยาบาลเพิ่มขึ้น ไปดูแลชาวบ้านในหมู่บ้านของตนเองมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ อสม.เป็นหมอคนแรกของประชาชนมีความหมายมีคุณค่ามากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราทำให้ อสม.ในเรื่องของตอบแทนคุณงามความดี ไม่ใช่ตอบแทนด้วยเงิน ทำแบบนั้นบ่อยๆ ไม่ได้ แต่รัฐบาลพร้อมทำทันทีที่มีโอกาส ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย นายกฯ ก็ให้ความสำคัญเป็นอันมาก