กระทบสูง “โครงการหลวง” แจ้งปิดระบบบน “ลาซาด้า”? “นารา เครปกะเทย” ยังไม่สำนึกผิด อ้างเฉยไม่ศรัทธาอะไรในประเทศไทย ฝากถึง “สลิ่ม” ดูแลตัวเองให้ดีก่อนห่วงคนอื่น “พี่ศรี” จัดหนัก 112 พร้อม “ตัวการร่วม”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (7 พ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น โครงการหลวงฮือ! แห่ปิดระบบบน “ลาซาด้า”?
โดยระบุว่า จากกรณีโลกโซเชียลมีเดีย ได้เกิดกระแสแบนลาซาด้าแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซชื่อดัง หลังจากลาซาด้าได้มีแคมเปญลดราคาสินค้าพิเศษ
แต่ นายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือ นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลชื่อดัง กลับทำคลิปวิดีโอ และภาพนิ่งโปรโมตแคมเปญดังกล่าวของลาซาด้า อันมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันเบื้องสูง
ล่าสุด ทางเพจ โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา Royal Chitralada Project ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่จะมีการปิดระบบที่จำหน่ายสินค้าบนลาซาด้า โดยระบุว่า
โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ขอแจ้งปิดระบบจำหน่ายผลิตภัณฑ์ บนแพลตฟอร์ม Lazada ท่านสามารถซื้อผลิตภัณฑ์โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา ได้ที่ : Line Shop คลิก : https://shop.line.me/@rcp2021
Shopee คลิก : shopee.co.th/royalchitraladaproject ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
ในขณะที่ เพจ ดอยคำ - DoiKham ก็ได้โพสต์ข้อความว่า ดอยคำ ขอแจ้งปิดระบบเพื่อปรับปรุงร้านค้า Doikham Official Shop : Lazada ท่านสามารถซื้อผลิตภัณฑ์ดอยคำได้ที่ : ดอยคำ คลิก : https://bit.ly/3aPziCy Shopee คลิก http://bit.ly/2A82d5e JD Central คลิก https://bit.ly/3on51mX ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ. ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวตอบโต้การกระทำของ “นารา เครปกะเทย” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
ผู้บริหารของ Lazada ออกแถลงการณ์ แสดงว่า ยังไม่ได้ดู live ของนาราเมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ภาพอินโฟกราฟิกคำพูดที่เจ้าตัวออกมาพูดผ่านคลิปไลฟ์สด โดยในข้อความนั้นระบุว่า
... “ไม่ได้ใส่ใจเพราะว่าเราไม่ได้ลบหลู่ใคร ไม่ได้ว่าใคร และไม่ได้ทำให้ใครเสียหาย ทำอะไรตนรู้อยู่แก่ใจ และอยากทำแรงกว่านี้ด้วย แต่กลัวโดนจับ ไม่ได้ศรัทธาอะไรในประเทศไทยอยู่แล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคลิปการชี้แจงของ นารา เครปกะเทย เผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก โดยบางรายถึงกับระบุว่า ถึงใครจะออกมาขอโทษ ก็ไม่ยกโทษให้ค่ะ แบนทุกอย่างที่คนพวกนี้ขาย ทำไม่ซื้อไม่ติดตามจบนะ รวมทั้งยังวิจารณ์ว่า จากคำพูดในคลิปดังกล่าวไม่ได้มีการสำนึกผิดที่คิดและทำไปเลยแม้แต่น้อย
สำหรับคลิปคำพูดบางช่วงบางตอนของ นารา เครปกะเทย ที่มีการวิจารณ์บนโลกโซเซียลดังนี้
“...ก่อนอื่นนาราไม่อยากขอโทษใครเลย เพราะว่าสิ่งที่นาราทำ พูดตรงๆ นะ หลายคนจะเห็นภาพ หนูรัตน์ ที่ถ่ายรูปบนวีลแชร์แล้วก็มองหม่อมดิว ซึ่งมันก็กลายเป็นคนที่แชร์เยอะ คนที่ดรามา คนที่ด่านารา จนมันกลายเป็นถึงในเรื่องของการโปรโมตแอปๆ หนึ่ง ซึ่ง นารา ก็โดนยกเลิกงานไปแล้ว แต่ครั้งนี้อยากจะมาบอกให้ฟังว่า มันเกิดอะไรขึ้นทั้งหมด และปัจจัยที่เราทำนั่นคืออะไร
เพราะฉะนั้น สลิ่มไม่ต้องมาด่าแรง มาแบนแอป ปกติก็ไม่เคยใช้แอปเค้าหรอก ดูก็รู้แล้ว นาราไม่ขอโทษใครอยู่แล้ว เรื่องนี้
....เรื่องเกิดจากที่ นารา ได้พาหนูรัตน์กับหม่อมดิว มาถ่ายรูป โดยการที่นาราเอาเซรัมให้ ซึ่งนารารู้สึกว่า สิ่งที่นาราทำไป อันดับแรก นารามีความตั้งใจที่อยากจะทำภาพนี้อยู่แล้ว แล้วนาราก็ทำได้ จะไม่แอ๊บแอ้โกหกว่าไม่มีเจตนา แล้วก็มีความคิดที่จะทำมันอยู่แล้ว
แต่สิ่งแรกที่ลงภาพไป ไม่ได้บอกว่า หนูรัตน์ แต่งเป็นใคร หม่อมดิว แต่งเป็นใคร ทุกคนสามารถใส่ชุดไทยได้ และคนที่ใส่ชุดไทยนั่งวีลแชร์ก็มีเป็นพันคนบนโลกนี้
ชุดไทยมันเป็นสิ่งที่เค้าไม่ได้ห้าม คนนี้ห้ามใส่ คนนู้นห้ามใส่ เราใส่ชุดไทยเพราะความสวยงาม บุคลิกที่ทำไป ตัวละครมีมากมายบนโลกทีวี หญิงเล็ก, เล่นเป็นคนพิการ
.....สุดท้ายแล้วคนในโซเชียลโยงเองว่าเป็นคนนู้นเป็นคนนี้เป็นคนนั้น แล้วมีสิทธิอะไรมาด่าฉัน มาผิดหวังตัวนาราเพราะอะไร ก็เพราะคุณคิดไปเอง คิดว่าคนนั้นเค้าคือใคร คนเกิดมากัดลิ้นไม่ได้มีคนเดียวบนโลก
คนเกิดมานั่งวีลแชร์ก็ไม่ได้มีคนเดียวบนโลก ใส่ชุดไทยนั่งวีลแชร์ก็ไม่ได้มีคนเดียวบนโลก แต่มันคือสิ่งที่คุณคิดกันไปเอง
นาราให้หนูรัตน์เป็นหม่อมแม่ นาราให้หนูรัตน์เป็นหญิงเล็ก นาราให้หนูรัตน์เป็นใคร นารายังไม่ได้ระบุเลย
...และก็ฝากถึงสลิ่มนะ ดูแลตัวเองให้มันดีก่อน ก่อนไปห่วงคนอื่นเค้า ตักน้ำแล้วดูตัวสิว่า อนาคตตัวเองไปถึงไหนแล้ว เค้าไปถึงไหนแล้ว เค้ามีเงินมากมาย ไม่ต้องไปนั่งห่วงเค้า ถ้าเค้าห่วงตัวเธอ เธอต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น เค้าจะต้องช่วยเหลือเธอ ให้เธอไม่หาเช้ากินค่ำ เค้าต้องประเคนเงินเดือนให้เธอ แล้วค่อยไปปกป้องเค้า
....ส่วนในเรื่องของแอปพลิเคชันที่ยกเลิก เค้าก็โทร.มาหานารา ให้ซ่อนคลิป บอกตรงๆ แอปไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มาล้อเลียน แต่ก็ต้องจ่ายเงินมา เพราะทุกวันนี้ไม่ได้รับรีวิวแล้ว บอกตรงๆ คลิปนั้นรับมา 35,000 บอกตรงๆไม่อยากรับด้วยซ้ำไป ส่วนตัวไม่สนใจอยากจะรับงานจากแอปนี้อยู่แล้ว แต่เขาอยากให้ทำ
โดยส่วนตัวไม่ได้ศรัทธาอะไรในประเทศไทยอยู่แล้ว เพราะมีแต่ข่าวพระมีอะไรกันในรถ หรือพระกินเหล้าฉันหมูกระทะ พระขโมยเงินเอาผู้หญิงมาในวัด ฉะนั้น ทำให้ตนเองรู้ว่า ไม่มีอะไรที่เราศรัทธาได้
แล้วบางคนบอกว่า ทำอะไร รู้อยู่แก่ใจ!
ใช่! รู้อยู่แก่ใจ แล้วคืออะไรรู้ปะ อยากทำแรงกว่านั้นด้วย ก็กลัวโดนจับเหมือนกัน จริงๆ แล้ว ทุกคนรู้ว่านารา อยากจะสื่อถึงอะไร ....!!!(จากไทยโพสต์)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น บุกแจ้งผิด ม.112 “นารา” แล้ว พบหลักฐานเด็ด! ลาซาด้า-เอเยนซีโดนด้วย ข้อหาหนัก
เนื้อหาระบุว่า วันนี้เวลา 10.00 น.ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมาแจ้งความร้องเรียนกล่าวโทษ นารา เครปกะเทย และพวก ฐานดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ตาม ปอ.มาตรา 112 ประกอบ มาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 และแก้ไขปี 2560
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย มีการนำภาพและข้อมูลจาก ข้อความจากแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ของ LAZADA และเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อ “นารา เครปกะเทย” มากล่าวถึงกันอย่างแพร่หลายในลักษณะที่ไม่เหมาะสม โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์พุ่งเป้ากันไปที่ผู้ที่ได้จัดทำและเผยแพร่คลิปวิดีโอ และภาพนิ่งโปรโมตแคมเปญหรือการประชาสัมพันธ์สินค้าให้กับ “ลาซาด้า” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา
โดยแคมเปญลดราคาของลาซาด้าดังกล่าว ได้โพสต์ลงในติ๊กต็อก @nara.aniwat700 ที่แสดงโดย นารา เครปกะเทย เน็ตไอดอลสายตลก และหนูรัตน์ หรือ น.ส.ธิดาพร ชาวคูเวียง อันมีลักษณะไม่เหมาะสม เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามผู้ป่วยหรือผู้พิการกลายเป็นตัวตลก ซึ่งปุถุชนทั่วไปมองว่าโฆษณาดังกล่าวมีเนื้อหาล้อเลียน เสียดสีบุคคลอันเป็นที่เคารพสักการะ
“หลายคนเห็นแล้วไม่สบายใจ เพราะมีรูปภาพ หรือการแสดงที่มีลักษณะอาจตีความได้ว่า เป็นการเจตนาจะพาดพิง ดูหมิ่น สถาบันเบื้องสูง หรือสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย อีกทั้งเมื่อตรวจสอบเพจเฟซบุ๊ก “นารา เครปกะเทย” ยังมีการโพสต์ภาพโปรโมตสินค้าที่อาจเข้าข่ายดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ของไทย โดยมีบรรดาแฟนคลับแนวร่วมเข้ามาคอมเมนต์ ด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสม สมทบอีกเป็นจำนวนมาก
การกระทำดังกล่าว แม้ทางบริษัทเอเยนซีโฆษณา และลาซาด้า จะออกแถลงการณ์ออกมาขอโทษแล้วก็ตาม แต่การกระทำทั้งหมดถือว่าเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว เข้าองค์ประกอบตาม ปอ.มาตรา 83 ซึ่งล้วนเป็น “ตัวการร่วม” ในฐานะผู้ผลิต ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน อันอาจมีความผิดตามกฎหมาย อีกทั้งเป็นการบูลลี่ และดูหมิ่นผู้พิการ อันเป็นการกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 4 ประกอบ มาตรา 27 ให้การคุ้มครองไว้
สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงไม่อาจปล่อยผ่านให้บุคคล หรือ บริษัทใด ทั้งบริษัทคนไทย หรือต่างชาติ เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย โดยใช้วิธีการที่สกปรก อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามสถาบันเบื้องสูง ด้อยค่า ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือ คุณค่าความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) อันเป็นการทำธุรกิจที่ขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน (Business and Human Rights)
รวมทั้งเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการอีกด้วย จึงจำเป็นต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลหรือบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตามครรลองของกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป” นายศรีสุวรรณ กล่าว
แน่นอน, สิ่งที่เกิดขึ้น ถือว่า ท้าทายความสนใจ และความเชื่อถือศรัทธาของคนไทยส่วนใหญ่อย่างมาก แค่ดูผิวเผินก็แทบจะไม่ต้องวิเคราะห์อะไรเลยว่า ต้องการสื่อถึงอะไร
ส่วนที่อ้างว่าไม่ได้เจาะจงจะสื่อถึงใคร พาดพิงใครนั้น เวลานี้คงต้องไปแก้ตัวกับเจ้าพนักงานสอบสวน หรือถ้าถูกฟ้อง ก็ต้องไปแก้ตัวที่ศาล เพราะ “พี่ศรี” ได้จัดหนักให้เต็มอัตราศึกเรียบร้อย
เหนืออื่นใด ยิ่งมีการทำผิด ม.112 มากเท่าใด ก็เท่ากับตอกย้ำความจำเป็นที่ต้องมี ม.112 เอาไว้ และกรณีนี้ก็เห็นได้ชัดว่า ไม่มีนักการเมือง หรือ ผู้มีอำนาจใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือแต่อย่างใด หากแต่เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคล ที่จงใจจาบจ้วงล่วงละเมิดอยู่แล้ว?
เพราะฉะนั้น ที่มีการรณรงค์ให้ยกเลิก ม.112 เพราะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า ใครกันที่เป็นคนริเริ่มทำผิดกฎหมาย จึงจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หรือไม่จริง!?