คนไทยน้ำตาไหล! โซเชียลแห่แชร์คลิป “กรมพระศรีสวางควัฒน” ทรงขอลูกของผู้ป่วยเป็น “บุตรบุญธรรม” รับสั่งจะดูแลอย่างดี “โบว์ ณัฏฐา” ฉะ “นารา” รสนิยมต่ำ “ดี้ นิติพงษ์” จวก “เป็นการกระทืบเหยียบย่ำน้ำใจคนไทย”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 พ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น คนไทยน้ำตาไหล! โซเชียลแห่แชร์คลิป “กรมพระศรีสวางควัฒน” ทรงขอลูกของผู้ป่วยเป็น “บุตรบุญธรรม” รับสั่งจะดูแลอย่างดี!
โดยระบุว่า จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (5 พ.ค. 65) นายสกลธี ภัททิยกุล ได้โพสต์ข้อความระบุว่า พระองค์ทรงงานมาตลอดชีวิต ผมจึงขอใช้ทั้งชีวิตปกป้องพระเกียรติของพระองค์ท่าน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นายสกลธี ภัททิยกุล
อย่างไรก็ตาม ก็มีบุคคลที่มีชื่อเสียงอีกหลายคน ได้ออกมาโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกัน พร้อมทั้งมีการโพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวสุดปลื้มปีติของ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงมีพระเมตตาต่อพสกนิกรชาวไทย หนึ่งในนั้นคือ เรื่องราวที่พระองค์ทรงรับลูกของผู้ป่วย เป็นบุตรบุญธรรม
โดยเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 60 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จฯไปยังโรงเรียนฝายกวางวิทยาคม ตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เพื่อทรงเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. ประจำจังหวัดพะเยา ที่โปรดให้ไปทำการตรวจรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่
โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมราษฎรบ้านทุ่งหล่มใหญ่ ที่ไปเฝ้ารับเสด็จฯ ซึ่งหมู่บ้านนี้มี 145 หลังคาเรือน ประชากร 580 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เมื่อเจ็บป่วยจะเดินทางไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลฝายกวาง หรือไปที่โรงพยาบาลเชียงคำ ในการนี้ พระราชทานของเล่น สื่อการเรียนรู้แก่เด็กๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาความคิดและสมาธิ ด้วยมีพระประสงค์ที่จะให้เด็กปฐมวัยในพื้นที่ชนบทห่างไกลได้มีพัฒนาการและทักษะที่เหมาะสมวัย
ทั้งนี้ ยังโปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไปบริการตรวจรักษาโรคแก่ประชาชน ร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิ พอ.สว. ด้วย โดยมีผู้ไปรับการบริการ ตรวจรักษาโรคทั่วไป และรับบริการด้านทันตกรรม รวมจำนวน 220 คน ปัญหาสุขภาพที่พบส่วนใหญ่ คือ โรคกระดูกและข้อ
โอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้แพทย์ผู้ทำการตรวจรักษาผู้เจ็บป่วย นำผู้เจ็บป่วยจำนวน 3 ราย เฝ้า การนี้มีรับสั่งถามถึงสภาพความเป็นอยู่ของผู้เจ็บป่วย และมีพระวินิจฉัยร่วมกับแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาอาการของผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังคด เท้าทั้งสองข้างผิดรูป ผู้ป่วยหูหนวกตั้งแต่กำเนิด มีอาการภูมิแพ้และหอบหืด และผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ โดยได้พระราชทานเงินช่วยเหลือค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวของผู้เจ็บป่วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และโปรดให้ส่งตัวผู้เจ็บป่วยทั้ง 3 ราย ไปรักษายังโรงพยาบาลที่เหมาะสมกับอาการ
นอกจากนี้ ยังมีพระดำรัสกับผู้ป่วย 1 ใน 3 รายที่เข้าเฝ้าฯ ว่า ทรงขอรับบุตรของผู้ป่วยเป็นบุตรบุญธรรม
“ป้าไม่ต้องกังวลเลย หนูจะให้ทุนเลย คือว่าทันทีที่จะต้องจ่ายเอง ส่วนนั้นหนูจะจ่าย แล้วเอาอย่างนี้ ไม่ทราบคุณป้าจะรับได้ไหม ถ้าหนูจะรับเขา เด็กคนนี้ เป็นลูกบุญธรรมของหนู หนูจะเลี้ยงดูเขาอย่างดีที่สุด เชื่อว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ ท่านก็คงทำอย่างนี้ ท่านสอนหนูมา ให้รักประชาชน” ยังความปลาบปลื้มในพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังแชร์โพสต์จากสถาบันทิศทางไทย ประเด็น “โบว์ ณัฏฐา” ฉะเดือด “นารา” ทำคอนเทนต์หมิ่นเหม่ ทัวร์ลงแห่แบนลาซาด้า ลั่นทำการตลาดรสนิยมต่ำ!?
โดยระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ ศชอ.” โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“ประกาศ เนื่องจาก LAZADA นำกลุ่มบุคคลที่มีทัศนคติที่เป็นภัยต่อสถาบันฯ มาเป็น presenter ในการทำการตลาด ดังนั้น กลุ่มพสกนิกรปกป้องสถาบัน จึงขอไม่สนับสนุนตราสินค้านี้ในทุกรูปแบบ #BanLAZADA” โดยข้อความดังกล่าวมีคนแชร์จำนวนมาก
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก คลิปวิดีโอหนึ่งที่ “นารา เครปกะเทย” ได้ทำคอนเทนต์โปรโมตการซื้อสินค้าผ่านแอปลาซาด้า รวมทั้งเพื่อนผู้หญิงที่อยู่ในคลิปได้แสดงกิริยาไม่เหมาะสม มีความหมิ่นเหม่ต่อเบื้องสูง ทำให้มีชาวโซเชียลออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้อย่างมาก
โดยในทวิตเตอร์ Street Hero V3 ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “เรียน ผู้บริหาร Lazada ผมและเพื่อนๆ ได้เห็นคลิปคุณนารา และ คุณหนูรัตน์ โฆษณาให้กับ Lazada อยากทราบว่าพวกเขาทำขึ้นเองหรือทาง Lazada เป็นผู้จ้าง เพราะคุณนาราและทีมงานมีพฤติกรรมล้อเลียน เสียดสีสถาบันหลักของชาติมาโดยตลอด
ล่าสุด นำอาการป่วยมาบูลลี่และล้อเลียน เพื่อความสบายใจของพวกเราที่เป็นลูกค้า Lazada จึงขอเชิญชวนเพื่อนๆ ยกเลิกสั่งซื้อสินค้ารวมถึงถอดถอนแอปฯ Lazada ออก จะได้ไม่ต้องเห็นอะไรที่ไม่สบายใจ แยกย้ายกัน ต่างคนต่างอยู่ครับ #แบนLazada”
ต่อมา “โบว์ ณัฏฐา” มหัทธนา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้เข้ามาคอมเม้นต์ถึงเรื่องนี้ด้วยว่า “เพิ่งเห็น น่าตกใจในความ low taste มาก เอาความป่วยไข้ของคนมาเล่นตลก” ทำให้มีคนเห็นด้วย และร่วมวิจารณ์จำนวนมาก เช่น ไม่เข้าใจการเลือกคนมาทำ content ของแบรนด์เลย content ก็ไม่ได้จะชวนให้อยากซื้อของนะ ดูแบบไม่มีความคิดสร้างสรรค์อะไรเลย ทำมาแบบ low มากๆ ถ้าจะโทษคงต้องโทษแบรนด์ด้วยแหละ ไม่มี criteria ในการเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตาม ได้มีคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก นาราเครปกะเทย ด้วยว่า ผิดหวัง ไม่คาดคิดว่า เจ้าตัวจะทำคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ ดูไม่น่ารัก เอาชีวิตคนอื่นมาล้อเลียน พร้อมบอกว่า ถ้าครอบครัวตัวเองเป็นบ้าง อาจจะขำไม่ออก
สำหรับ นารา เครปกะเทย มีชื่อว่า นายอนิวัติ ประทุมถิ่น เป็นเน็ตไอดอลบนโลกโซเซียล เจ้าตัวเคยออกมาคอลเอาต์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก โดยทำคอนเทนต์ไปตามตลาด แล้วมักจะถามแม่ค้าว่า รักประยุทธ์ไหม ถ้าไม่รักก็แจกเงิน (https://www.thaimoveinstitute.com/39019/?anm=)
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้โพสต์แสดงความคิดเห็น ถึงประเด็นนี้ด้วย
เนื้อหาระบุว่า “ที่จริงการลบหลู่คุกคามสถาบันกษัตริย์นั้น…มิได้เป็นความเดือดร้อนเพียงพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง….แต่เป็นการกระทืบเหยียบย่ำน้ำใจของคนไทยจำนวนมาก เรียกว่า เกินครึ่งหนึ่งแน่นอน…
การลบหลู่อะไรก็ตามที่มีคนจำนวนมากรักและศรัทธา…คือ การเหยียบย่ำหัวใจกัน
สถาบันกษัตริย์ เป็นสถาบันเดียวที่มีเนื้อหนังมังสาตัวตน…การเหยียบย่ำเล่นอย่างไร้เหตุผล ด้วยคะนอง ด้วยทัศนคติอะไรก็ตาม ไม่แฟร์เลยกับบุคคลที่ต้องเข้ามาทำหน้าที่รักษาสถาบันกษัตริย์ คนบางคนที่บังอาจเอาศาสนาใดศาสนาหนึ่งมาล้อเล่นเกินขอบเขต…ซึ่งไม่รู้ว่ามันทำไปเพื่ออะไรนอกจากการแสดงความเท่ การมีตัวตนอะไรก็ไม่รู้…
ศาสดาในศาสนาแต่ละองค์ ก็มิได้ทรงอยู่มีเลือดเนื้อให้เดือดร้อนใจอันใด…
ใครจะเอาพระพุทธรูปไปเล่นนั่นนี่…
ใครจะเอาไม้กางเขนเยซูไปเล่นนั่นนี่…
ใครจะเอาพระอัลเลาะห์ไปเย้ยหยันนั่นนี่…
พระพุทธเจ้าท่านคงไม่ทรงรับทราบละ…
พระเยซูก็คงไม่ทรงเครียดกับอะไรบ้า ๆ
พระอัลเลาะห์ก็คงเลยเรื่องบ้าๆ นี้ไปเป็นพันปีละ
แต่ผู้ที่เป็นกษัตริย์ในปัจจุบันกาลเล่า มีพระชนม์วันนี้เลย…แล้วโดนเรื่องราวแบบนี้…มากมาย
ย้ำเลย มึงด่ามึงด้อย มึงคะนองเชี่ยไรกันนักหนา กับผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่ง และอีกหลายท่าน ที่เป็นตัวแทนสถาบันอันมีเลือดเนื้อ
มึงเหยียบย่ำน้ำใจคนไทยรักสงบจำนวนมากนะ
มาตรา 112 ในทางตรงคือพยายามจะไม่ให้ไปทำร้ายประมุข
แต่จริงแล้ว 112 มันคือหนทางที่จะไม่ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองโง่ๆ
ตรงๆ คือ 112 คือการไม่ให้คนไทยทะเลาะกันด้วยเรื่องโง่ๆ ที่เด็กส่วนหนึ่งกับผู้ใหญ่ที่พยายามทำบางอย่าง
สังคมไทยบวกสังคมโซเชียล มีประโยชน์หลายเรื่อง แต่รวมแล้วขาดทุน เสียหายมากกว่า
ภาครัฐ ตอนนี้ปล่อยให้ผู้คนแบบนี้เพ่นพ่าน จนเกินไป
ที่น่าโมโห คือ พวกนี้ไม่มีระดับชั้นทางวุฒิภาวะและสุนทรียภาพมนุษย์ และไม่มีเมตตาต่อผู้อื่นเอาเสียเลย แต่ได้งานทำ
ลาซาด้าเป็นเพียงอีกตัวอย่าง…ที่มีแต่ความคิดด้านการตลาดสั้นๆ เพื่อกลุ่มตลาดไหนก็ไม่รู้ ถือเป็นความโง่งม
ก็มีงานที่ออกมากระทืบใจคนไทยจำนวนมาก ไม่เกี่ยวกับสถาบันเลยด้วยซ้ำ
มึงจะเอาสิ่งที่กู และคนจำนวนมาก ศรัทธา เชื่อว่าท่านทำสิ่งดีมานาน เอามาล้อเล่นแบบไร้รสนิยมแบบนี้ ก็ถือว่าพวกมึงช่างไร้รสนิยมนัก
ลาซาด้าไทย ค้าขายขนาดนี้ ทำไมถึงไปลากคนแบบนี้มาทำงานด้วย
เสียดายจัง.ลาก่อน ลาซาด้า..ฉันเคยรักเธอนะ วันนี้เพิ่งเห็นว่าเธอด้อยวุฒิภาวะในการตลาดมาก”
อย่างไรก็ตาม กระแสโซเชียลในตอนนี้ ถือว่ากำลังเดือดมากๆ โดยชาวโซเชียลยังเรียกร้องไปถึงผู้บริหาร Lazada ให้ชี้แจงในเรื่องนี้ ว่า เอนฟลูเอนเซอร์ ทำขึ้นเอง หรือทาง Lazada เป็นผู้จ้าง เพื่อความสบายใจของพวกเราที่เป็นลูกค้า Lazada จึงขอเชิญชวนเพื่อนๆ ยกเลิกสั่งซื้อสินค้ารวมถึงถอดถอน แอป Lazada ออก จะได้ไม่ต้องเห็นอะไรที่ไม่สบายใจ แยกย้ายกัน ต่างคนต่างอยู่(https://www.thaimoveinstitute.com)
แน่นอน, นี่คือ คำตอบว่า ทำไม ต้องมี ป.อาญา ม.112 บังคับใช้ เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ถูกจาบจ้วงล่วงละเมิดหรือหมิ่นเบื้องสูง
เพราะอย่าลืมว่า มีคนจำนวนมากที่จ้องทำผิดกฎหมาย ม.112 อันเป็นผลผลิตจากการปลุกปั่นยุยงทางความคิด ทั้งในโลกโซเชียล และการออกมาชุมนุมของกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว
แล้วก็ไม่แปลกที่จะมีคนบางกลุ่ม ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิก ม.112 โดยอ้างสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน ความเท่าเทียมเสมอภาค อะไรก็ตาม สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ต้องการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันฯ โดยไม่ต้องมีกฎหมายลงโทษนั่นเอง
ถ้าตัวอย่างเรื่องนี้ยังไม่ชัด ก็ไม่รู้จะหาตัวอย่างไหนอีกแล้ว!?