“รศ.วรศักดิ์” ชี้ พรรคคอมมิวนิสต์มีมติเปิดทาง “สี จิ้นผิง” ครองอำนาจยาว เพื่อสอดคล้องรัฐธรรมนูญที่ให้เป็นประธานาธิบดีจนสิ้นชีพ คาดเพื่อให้อยู่จัดการปัญหาข้อพิพาท “ทะเลจีนใต้-ไต้หวัน”
วันที่ 15 พ.ย. 2563 รศ.วรศักดิ์ มหัทธโนบล อาจารย์พิเศษ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ทำไม ‘สีจิ้นผิง’ ต้องเป็นผู้นำตลอดกาล?”
รศ.วรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องเข้าใจเบื้องต้นก่อนว่า ตอนที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติของจีน เมื่อปี 2018 ให้ สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีจนสิ้นชีพ ส่วนนั้นอยู่ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดโดยสภาผู้แทนประชาชนห่งชาติ แต่ธรรมนูญของพรรคคอมมิวนิสต์ มีกำหนดนโยบายว่าผู้เป็นเลขาธิการพรรค ก็คือ สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งนี้ 5 ปี ไม่เกิน 2 วาระ แต่เป็นแค่นโยบายไม่ได้กำหนดว่าต้องเป็นเช่นนั้น
การประชุมของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 19 ผ่านมติประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มันอยู่คนละส่วนกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขให้ สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีจนสิ้นชีพ แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณว่าน่าจะแก้ให้ สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีจนสิ้นชีพเช่นกัน ซึ่งจะประชุมครั้งที่ 20 ในปีหน้า ก็ต้องรอดูว่าจะไปทำอย่างไรกับธรรมนูญพรรค
รศ.วรศักดิ์ กล่าวอีกว่า โดยปกติการต่ออายุให้ผู้นำก็ต่อเมื่อมีเหตุจำเป็นจริงๆ ปัญหาสำคัญที่ต้องใช้ สี จิ้นผิง คือ ปัญหาทะเลจีนใต้ กับไต้หวัน ซึ่งกรณีไต้หวันเป็นปัญหาใกล้ตัวจีนมาก เลยต้องการจะให้จบปัญหาไต้หวันในยุค สี จิ้นผิง หรือเปล่า
มันก็มีข้อแย้งอีกว่าถ้าจะรวมไต้หวันจริง จะใช้วิธีไหนระหว่างใช้กำลังหรือเจรจา และจะทำสำเร็จไหมเมื่อมีอเมริกาคอยขวางอยู่ อดสงสัยไม่ได้มีแต่ สี จิ้นผิง เท่านั้นหรือที่สามารถจัดการปัญหานี้ได้ หรือความลับลึกๆ แล้ว เหตุผลของกรรมการกลางพรรคฯ คือไม่มีใครแล้ว ชาวจีนเท่าที่ตนคุยด้วย ก็ไม่เห็นด้วย
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจก็ยังไม่มีอะไรน่าห่วง จึงชัดเจนว่าเป็นปัญหาความมั่นคงมากกว่า ที่ต้องให้ สี จิ้นผิง เป็นประธานาธิบดีตลอดชีพ