“ปิยบุตร” เผยดีเบตไม่ต้องการชนะใคร แค่อยากให้อีกฝ่ายเปิดใจบ้าง

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาเปิดใจผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว หลังแฟนคลับไม่ค่อยพอใจกับการไปดีเบตกับนายอรรถวิชช์ที่ดูแล้วสู้นายอรรถวิชช์ไม่ได้ ระบุไม่ได้ต้องการเอาชนะ แค่อยากให้อีกฝ่ายเปิดใจฟังตนบ้าง ชี้พูดประเด็น ม.112 เสี่ยง เหมือนขึ้นชกด้วยมือข้างเดียว

จากกรณี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ย้ำจุดยืนยกเลิกมาตรา 112 เปลี่ยนคดีหมิ่นประมาทจากอาญาเป็นฟ้องแพ่งทั้งหมด อ้างเป็นเทรนด์ของโลก สังคมประชาธิปไตยไม่ควรเอาไปจำคุก อรรถวิชช์พรรคกล้าโต้ หมิ่นประมาทเป็นคดีแพ่งทำคนไม่เท่ากัน คนรวยกว่า สูงกว่าคนอื่นด่าใครก็ได้ สังคมไม่เท่าเทียม เตือนอย่าดูแต่เสรีภาพ ให้ดูภราดรภาพด้วย ผ่านรายการมีเรื่อง Live EP.14 หัวข้อ "เลิก-แก้-ไม่แตะ 112" ซึ่งออกอากาศผ่านยูทูบ Jomquan เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ย.) เลขาธิการคณะก้าวหน้าได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว "@Piyabutr_FWP" ในประเด็นที่ดีเบตไม่ถูกใจแฟนคลับ ไม่สะใจกองเชียร์โต้วาทีสู้ "อรรถวิชช์" ไม่ได้ ซึ่งนายปิยบุตรระบุว่า ตัวเองต้องการให้เป็นแบบนั้น พร้อมเผยเหตุผลที่ต้องทำเพราะว่า

“1. ผมต้องการพูดให้คนที่ไม่รักไม่เชียร์ผม หรือคนที่ไม่ได้ติดตามผมได้ฟังผม แม้ผมอธิบายเรื่องพวกนี้ในพื้นที่ของผมได้บ้าง แต่พวกเขาก็ไม่เคยฟัง ต่อต้าน แต่อย่างน้อย พอรายการนี้มีฝ่ายขวาอนุรักษนิยมมาพูดด้วย อย่างน้อยเขาก็ต้องได้ฟังผมบ้าง

2. การสื่อสารกับคนเหล่านี้ต้องใช้ท่าทีอีกแบบ เราไม่สามารถใช้ท่าทีดุดันได้เลย ผมจึงปล่อยให้อรรถวิชช์ทำตน “ยกตนข่มท่าน” เพื่อให้คนที่มีเหตุผลพอควรเห็นว่าคนที่พวกคุณคิดว่าล้มเจ้าแบบผม พร้อมจะพูดคุยหาทางออกด้วยการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

3. ผมมาดีเบตกับคนเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเอาชนะโต้วาที ให้คนกดปุ่มเชียร์โหวตให้ ถ้าผมต้องการแบบนั้น ผมก็พอทราบอยู่ว่าเทคนิคการโต้วาทีเพื่อเอาชนะต้องทำอย่างไร แต่ผมต้องการแสดงให้เห็นว่าการคุยเรื่อง 112 และกษัตริย์ สามารถทำได้ในสื่อสาธารณะ โดยไม่ต้อง “วงแตก”

ผมหวังว่า อย่างน้อยการดีเบตในรายการนี้จะช่วยเปลี่ยนใจคนที่ไม่เห็นด้วยได้ฉุกคิด หรือฟังเหตุผลของเรา ในท้ายที่สุด อาจไม่สำเร็จ แต่ถ้าบังเอิญเปลี่ยนใจคนได้ แม้ไม่กี่คนก็คุ้มค่ากว่าการที่ผมโต้วาทีใช้โวหารชนะอรรถวิชช์ หากผมประเมินผิดทั้งหมด ก็ต้องยอมรับและวางแผนสื่อสารใหม่ครับ นอกจากนั้นก็มีอุปสรรคเรื่องการพูด โดยต้องระวังไม่ให้ตัวผมโดน 112 ด้วย เมื่อเราดีเบตในที่สาธารณะกับฝ่ายรอยัลลิสต์ เราต้องแบกน้ำหนักเสมอ เขาพูดอย่างไรก็ไม่เสี่ยง แต่เราพูด เราเสี่ยง 112 ซึ่งประเด็นนี้ผมชาชินเสียแล้ว ภายใต้ระบอบนี้ เราขึ้นชกกับเขา เราชกได้ด้วยมือข้างเดียว

ถ้ากล่าวอย่างรวบรัด คือในรายการนั้นผมไม่ได้พูดกับคุณอรรถวิชช์ ไม่ได้ต้องการชนะโต้วาทีคุณอรรถวิชช์ แต่ผมต้องการพูดกับคนที่ไม่เห็นด้วยกับการยกเลิก 112 ที่ฟังรายการนี้ ให้ลองมาฟังผมบ้าง

อ่านโพสต์ต้นฉบับ