xs
xsm
sm
md
lg

โบว์แย้งปิยบุตรยกเลิก ม.112-หมิ่นประมาทฟ้องแพ่ง คนมีเงินเท่านั้นมีปัญญาฟ้อง ย้ำไม่มีเสรีภาพละเมิดผู้อื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเห็นแย้งเลขาธิการคณะก้าวหน้าให้คดีหมิ่นประมาทฟ้องแพ่งไม่มีอาญา กรณียกเลิก ม.112 ชี้เหมือนบีบให้คนถูกละเมิดอดทน ย้ำ ม.112 ไม่ปกป้องตัวบุคคล แต่ปกป้องตำแหน่งประมุข เป็นเรื่องของรัฐและประเทศ เสนอให้มีองค์กรทำหน้าที่ มองอีกด้านฟ้องคดีแพ่งแทนอาญาต้องคนมีเงินเท่านั้นถึงจะมีปัญญาฟ้อง กว่าคดีจะจบเหนื่อยขนาดไหน ย้ำไม่มีเสรีภาพละเมิดผู้อื่น

วันนี้ (6 พ.ย.) จากกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไปออกรายการทางยูทูบชี้แจงแนวคิดการยกเลิกกฎหมายอาญามาตรา 112 และเสนอให้คดีหมิ่นประมาททั้งหมดเปลี่ยนจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่ง เรียกร้องค่าสินไหมทดแทน อ้างว่าเป็นเทรนด์ของโลก สังคมเป็นประชาธิปไตย มีเสรีภาพในการแสดงออก อดทนอดกลั้นความเห็นที่แตกต่างมากขึ้น แต่ถูกนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า แสดงความไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้คนไม่เท่ากัน รวยกว่าคนอื่น สูงกว่าคนอื่น ก็สามารถจะด่าใครก็ได้ แล้วไปจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทน อย่าลืมว่าเวลาเสียหาย ศาลจะดูว่าบางส่วนหรือไม่ จะทำให้สังคมนำไปสู่ความไม่เท่าเทียม อีกทั้งต้องดูเรื่องภราดรภาพ สังคมต้องมีความน้ำหนึ่งใจเดียวกันถึงจะมีทางออก ไม่อย่างนั้นก็จะแบ่งซ้ายแบ่งขวาแล้วรุนแรงทั้งคู่ หาทางออกไม่ได้

อ่านประกอบ : อรรถวิชช์ชี้ยกเลิก ม.112 เปลี่ยนคดีหมิ่นฟ้องแพ่งทั้งหมด ทำคนไม่เท่ากัน 

ทวิตเตอร์ @NuttaaBow ของ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา อดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความระบุว่า "เวลาใครบอกว่าอยากให้การหมิ่นประมาทเป็นแค่โทษทางแพ่งเพื่อส่งเสริม free speech และให้สังคมรู้จักอดทนอดกลั้น นี่คือคุณกำลังบอกว่าให้คนถูกละเมิดอดทนต่อการกระทำของผู้ละเมิดนะคะ"

"เราไม่ได้ต้องไปสั่งสอนใครว่าให้พูดจาหรือทำตัวอย่างไร แค่ไม่คอยปลุกปั่นความเกลียดชังหรือให้ท้ายเวลาเขาทำผิดก็พอ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ ทุกคนก็เห็นกันอยู่ว่าใครมีบทบาทอย่างไรด้วยวิธีไหนบ้างก่อนจะมาถึงวันนี้"

"การให้พระมหากษัตริย์ฟ้องเองไม่ควรอยู่แล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าท่านรู้สึกอย่างไรแล้วโยนให้ท่านตัดสินใจ เพราะกฎหมายนี้ไม่ได้ปกป้องตัวบุคคล แต่ปกป้องตำแหน่งประมุข จึงเป็นเรื่องของรัฐ ของประเทศ ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล"

"ทางแก้ปัญหาคือให้มีองค์กรทำหน้าที่ สุดท้ายก็แล้วแต่เสียงส่วนใหญ่ในสภา"

"การฟ้องคดีแพ่งต้องคนมีเงินเท่านั้นถึงจะมีปัญญา รู้หรือไม่ว่าต้องมีเงินวางศาลในจำนวนที่เป็นสัดส่วนกับค่าเสียหายที่ต้องการเรียกตอนฟ้องด้วย ไหนจะเงินค่าจ้างทนายอีก กว่าคดีจะจบต้องเหนื่อยยากขนาดไหน คนเราอยู่ดีๆ ต้องมีภาระขนาดนี้เพราะคนที่จงใจใช้ปากทำลายคนอื่นเพื่ออะไร เราควรปกป้องใคร?"

“เสรีภาพในการแสดงออกเพื่อละเมิดผู้อื่น” ไม่มีนะคะ การที่มีกฎหมายหมิ่นประมาทอยู่ในประมวลกฎหมายอาญา ไม่ได้เป็นปัญหากับเสรีภาพในการแสดงออกของสุจริตชน แต่เป็นไปเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้ถูกละเมิด และมีบทยกเว้นความผิดในกรณีที่เป็นประโยชน์สาธารณะด้วย"

"นอกจากนี้ในทางปฏิบัติศาลแทบไม่จำคุกใครด้วยข้อหาหมิ่นประมาทจากการกระทำผิดครั้งแรก โทษปรับทั้งนั้น ถ้าตัดสินจำคุกก็รอลงอาญา แต่การมีโทษจำคุกอยู่มันทำให้สังคมรู้สึกถึงน้ำหนักความผิด ความร้ายแรงต่อชีวิตคนผู้ถูกกระทำ ผู้เสียหายได้สัมผัสความยุติธรรมจากการตัดสินนั้น แม้จะเป็นการรอลงอาญา"

"แม้จะเป็นคดีจราจรก็ยังมีโทษหนักเบาไปตามฐานความผิด อะไรที่มันแย่มากกับสังคมก็มีโทษจำคุก เพื่อบอกว่าการกระทำอย่างนี้มันหนัก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แบบแค่จอดรถผิดที่นะ แต่คุณเมาแล้วขับ มันทำร้ายคนอื่นได้ ถึงเวลาก็อาจรอลงอาญา แต่กฎหมายมันบอกให้คุณรู้ว่ากรรมนี้หนัก อย่าทำแล้วคิดจ่ายค่าปรับ"

"ดังนั้นการเขียนกฎหมายคือเรื่องใหญ่ เพราะมันคือการบอกสังคมว่าเราจะอยู่กันยังไง คงเคยได้ยินคนที่จะไปต่อยคนแล้วบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวจ่ายค่าปรับเอา นั่นแหละคือผลของการเขียนกฎหมายอย่างหนึ่ง"

อ่านโพสต์


กำลังโหลดความคิดเห็น