“หมอระวี” ย้ำ สถาบันกษัตริย์คือหลักของประเทศ บทลงโทษต้องหนัก ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่ต้องกลัว ซัด บรรดาแกนนำม็อบอย่าอ้างถูกกลั่นแกล้ง ชี้ จาบจ้วงสถาบันไม่เลิก คุกยังเอาไม่อยู่
วันนี้ (6 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงประเด็นแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า หลักของพรรคพลังธรรมใหม่คือ มาตรา 112 ดีอยู่แล้วไม่ต้องแก้ กฎหมายนี้มีปัญหาเฉพาะคนที่มีปัญหาเท่านั้น อีกครั้ง กฎหมายนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับระบอบประชาธิปไตย ในส่วนของสิทธิมนุษยชนก็เช่นกัน ถ้าใครไม่ทำความผิดก็ไม่ได้เป็นปัญหา สถาบันพระมหากษัตริย์ถือว่าเป็นสถาบันหลักของประเทศไทย ดังนั้น ต้องมีกฎหมายเฉพาะ หรือมีการกำหนดโทษให้หนัก ถือเป็นเรื่องปกติ ตนมองว่าโทษจำคุก 3 ถึง 15 ปีถือว่ามีความเหมาะสม เพราะหากกำหนดโทษให้น้อย สุดท้ายประเทศไทยจะแตกสลาย
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า บรรดาบุคคลที่อ้างว่าการพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ คือ การวิจารณ์โดยสุจริตคงต้องย้อนถามกลับไปว่า สุจริตใจจริงหรือไม่ ที่พูดไปแล้ว มีผลประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนจริงหรือไม่ ตนเชื่อว่า ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง อัยการเขาก็จะไม่สั่งฟ้อง เพราะฉะนั้นเหตุผลที่ต้องไปแก้โทษของกฎหมายมาตรา 112 จะทำไปเพื่ออะไร
“เมื่อมีการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยความอาฆาต มาดร้าย ดูหมิ่น สร้างความเกลียดชัง นี่คือ การสั่นคลอนสถาบันหลักของประเทศ เพราะฉะนั้น อย่านำไปเปรียบเทียบกับประชาชนคนธรรมดาทั่วไป นี่คือคำตอบว่าเหตุใดบทลงโทษในมาตรานี้จึงต้องหนัก” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า บรรดาของกลุ่มที่กระทำความผิดในมาตรานี้ ตนไม่เชื่อว่า จะถูกตัดสินโทษเพียงเพราะถูกการกลั่นแกล้ง ทุกคดีจะต้องมีมูลมีหลักฐานที่อัยการสามารถพิสูจน์ได้ นำมากลั่นกรองจนนำไปสู่การส่งฟ้อง ทุกคนก็เห็นกันอยู่แล้วว่า ทุกครั้งที่แกนนำม็อบกลุ่มต่างๆ แสดงพฤติกรรม ดูหมิ่น จาบจ้วงสถาบัน เมื่อไปสู่ชั้นศาลก็มักจะได้รับการประกันตัวออกมาตลอด แต่เมื่อออกมาแล้ว ก็มีการกระทำความผิดซ้ำซาก