โทรโข่งรัฐบาล ค้าน พท.เล็งแก้ ม.112 ชี้ ขนาดมีก็ยังกล้าจาบจ้วงสถาบันฯ วอนอย่าดำเนินการอะไรที่หวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว แจงใครไม่ได้ทำผิด ย่อมไม่ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (2 พ.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เตรียมรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาการใช้กฎหมายลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีบางกลุ่มเสนอให้มีการยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วยว่า ที่ผ่านมา กระบวนการยุติธรรม หรือแม้แต่ตัวกฎหมายต่างๆ ไม่ได้จำกัดการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เพียงแต่การแสดงความคิดเห็นใดๆ นั้น ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย จะอ้างแต่ว่าควรมีเสรีภาพทางความคิดอย่างเดียวนั้น คงไม่ได้ ส่วนที่ระบุว่า ทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคมที่รุนแรงมากขึ้นนั้น ก็คงไม่ใช่ แต่เป็นเพราะที่ผ่านมา มีนักการเมืองบางกลุ่ม ซึ่งแทนที่จะห้ามปรามการชุมนุมที่ใช้ความรุนแรง ทำลายทรัพย์สินราชการ และจาบจ้วงสถาบันฯ แต่กลับออกมาให้สัมภาษณ์ลักษณะคล้ายๆ ว่า เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุมใช่หรือไม่ หรือแม้แต่การใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ช่วยประกันตัวแกนนำผู้ชุมนุมที่จาบจ้วงสถาบันฯ เป็นการกระทำที่สร้างความแตกแยกมาตลอด อย่าพยายามแบ่งแยกประชาชนเลย ทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ควรจะมีความสามัคคีเพื่อประเทศชาติและประชาชน
นายธนกร กล่าวอีกว่า หากพรรคเพื่อไทย ต้องการที่จะแก้กฎหมายบางเรื่อง ก็สามารถดำเนินการได้โดยการนำข้อเสนอแนะต่างๆ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาฯ แต่ไม่ใช่การออกไปผสมโรงด้วยกับผู้ชุมนุมเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน หากจะมีการแก้ไขมาตรา 112 ด้วย เพราะที่ผ่านมา ขนาดว่า มีมาตรา 112 ยังมีการชุมนุมที่แกนนำจาบจ้วงสถาบันฯขนาดนี้ แล้วนับประสาอะไรกับการที่ไม่มีมาตรา 112 ดังนั้น ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการอะไรโดยหวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียว เชื่อว่า คนไทยที่รักสถาบันหลายคนคงรับไม่ได้ ที่สำคัญ คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดนั้น ก็ย่อมจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรอยู่แล้ว มาตรา 112 มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไป ที่มีกฏหมายหมิ่นประมาทคุ้มครอง ทางที่ดีพรรคเพื่อไทยควรเสนอแนะเรื่องการบริหารบ้านเมืองน่าจะดีกว่าการมาเสนอแก้ไขกฎหมายที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งที่คนไทยรัก เคารพ และศรัทธา