เจ้าของโรงแรมขนาด 25 ห้อง ย่านถนนข้าวสาร โพสต์ระบายความทุกข์ใจ โรงแรมไม่มีผู้เข้าพักนาน2 ปีแล้ว เหลือพนักงาน 2 คนคอยเฝ้า ขายทรัพย์สินมีค่าหมด หนี้สินทั้งหมด 6-7 ล้าน ลั่นตอนนี้จนปัญญาเหมือนโดนขึงคอกับไม้ในแต่ละเดือน
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ผู้ใช้งานพันทิป “สมาชิกหมายเลข 3500861” ได้ตั้งกระทู้ระบายความทุกข์ มีเนื้อหาใจความว่า “ผมทำธุรกิจโรงแรมขนาด 25 ห้องแถวๆ ถ.ข้าวสาร ตอนนี้เปิดก็เหมือนปิดไม่มีคนพักมา 2 ปีแล้ว เหลือพนักงาน 2 คน คอยเฝ้าและทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ จนมาถึงตอนนี้ผมหมดเงินที่มีและที่คิดว่าจะหาได้มาหมดแล้วจนปัญญา จะปิดเต็มรูปแบบก็ติดที่เป็นที่เช่ากับหน่วยงานรัฐทำให้ไม่สามารถปิดได้ ไม่รู้จะเป็นไงอยากจะตายก็ตายไม่ได้เพราะสิ่งที่ลงทุนไปก็จะละลายเป็นศูนย์ มีภาระผูกพันธ์กับคนข้างหลัง เพราะเงินลงทุนก็มาจากต้นทุนเดิมที่บ้านทิ้งไว้ให้คือตอนก่อนหน้าก็คิดว่ายังไหวจำนำทุกสิ่งอย่างของมีค่าไปหมดแล้ว ก็ไม่รู้จะเป็นไง รถยนต์ที่ขายได้ขายไปหมดแล้วตอนนี้ขับรถกระบะเก่าๆ คันหนึ่งอยู่
ขอเล่าเพิ่มเติมผมมีส่วนที่เป็นหนี้สินทั้งหมด 6-7 ล้านบาท ทรัพย์สินในรูปอสังหาริมทรัพย์รวมประมาณ 60 ล้านบาท (แต่มันไม่ใช่เงินสดบางส่วนเป็นกรรมสิทธิการเช่า ประกาศขายสิทธิและก็ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างและที่ดินเปล่ายังไม่มีใครสนใจ) รายจ่ายต่อเดือนก็รวมได้ 1-1.25 แสน/เดือน (ค่าเช่า,ค่าน้ำไฟ, พนักงานและที่สำคัญค่าดอกเบี้ยธนาคารและนอกระบบ) รายรับผมมีจากค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรงแรมประมาณ 0.75 แสนบาท/เดือน คือเฉลี่ยติดรบประมาณ 7-8 หมื่นบาท อันนี้ยังมี fix cost รายปีเช่น ค่าตรวจบัญชี ค่าประกัน ค่าภาษี และอื่นๆ
เอาเป็นตอนนี้จนปัญญามาถึงปลายทาง มันเหมือนโดนขึงคอกับไม้ในแต่ละเดือนก็เหมือนโดนขันเชือกให้มันแน่นรัดคอไปเรื่อยๆ จนผมคิดว่าปลายทางแล้ว ส่วนหนึ่งก็คิดไปเรื่อยหนีไปบวชทิ้งปัญหา แต่พอมาคิดก็ไม่ได้เพราะคนรู้ปัญหาก็ผมคนเดียวยังตัดใจไม่ได้ ตอบไม่ได้ทำอย่างไรอึดอัด ผมเชื่อว่าหลายคนคงเป็นแบบผม แล้วแต่ความหนักเบาของปัญหา จะถามว่าไปบนให้ช่วยขายที่ก็บนบานศาลกล่าวมาหมด ถือศิลสวดมนต์นั่งสมาธิก็ทำมาครบ ถามว่าจัดการเรื่องธุรกิจ ผมก็ทำเต็มที่ (ในความเห็นผม) ในโอกาศที่ทำได้แล้ว ที่จริงกระทู้ผม มันคงคล้ายๆ คนอื่น ทุกข์คล้ายๆกันบางทีเรามองคนอื่นทุกข์มากกว่าด้วยซ้ำแต่สำหรับผมมันเกินไปแล้วจริงๆ ปัจจุบันอายุ 54 ปีเหนื่อยที่จะสู้ต่อ ไม่มีเงินเก็บ
ทั้งนี้ มีชาวเน็ตต่างให้ความสนใจในกระทู้ดังกล่าวมากมาย และต่างเข้ามาให้กำลังใจ พร้อมเสนอแนวทางช่วยแก้ปัญหา และขอให้เจ้าของกระทู้ ผ่านช่วงเวลาที่หนักหน่วงของชีวิตไปให้ได้ และเชื่อว่า ชีวิตของเจ้าของกระทู้ยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่ ถ้ารอดพ้นวิกฤตโควิด-19 ได้ ทุกอย่างต้องดีขึ้นแน่นอน