13 เครือข่ายต่อต้านค้ามนุษย์ หวั่นอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง “กำพล” เจ้าของ “วิคตอเรียซีเครท” เผย 1 ปี ยังไร้คำตอบ เกรงกระทบการจัดอันดับค้ามนุษย์ในไทย
วันนี้ (6 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ (ศปก.พม.) เครือข่ายองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ หารือกับ น.ส.แรมรุ้ง วรวัธ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เพื่อติดตามสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศไทย และติดตามรายงานรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของไทย ก่อนส่งให้สหรัฐอเมริกา
นายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ แสดงความกังวลในคดีวิคตอเรียซีเครท ที่อัยการสูงสุด ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนต่อการมีความเห็นในคำร้องขอความเป็นธรรมของ นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าของวิคตอเรียซีเครท และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการติดตามตัวนายกำพล ที่อยู่ระหว่างการหลบหนี เนื่องจากยังไม่พบว่ามีหมายแดงปรากฏอยู่ในเว็บไซต์อินเตอร์โพล
สำหรับ คดีวิคตอเรียซีเครท เครือข่ายต่อต้านการค้ามนุษย์ ติดตามคดีและร้องเรียนต่อ นายกรัฐมนตรี สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงาน ป.ป.ช. คณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) มากว่า 3 ปี จนปัจจุบันกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย ยังไม่สามารถนำตัวเจ้าของวิคตอเรียซีเครท มาเข้ามาสู่การพิจารณาในชั้นศาลได้
ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ บอกว่า 13 องค์กร ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่ออัยการสูงสุด เพื่อทราบการใช้ดุลพินิจอัยการ สั่งไม่ฟ้อง นางนิภา และ นายธนพล วิระเทพสุภรณ์ คำสั่งดังกล่าวเป็นที่สิ้นสุดไปแล้ว แต่การสั่งไม่ฟ้องนั้นถูกต้องด้วยกฎหมายหรือไม่ และใช้พยานหลักฐานอะไรในการสั่งไม่ฟ้อง พิจารณาอย่างไร แต่ 1 ปีที่ผ่านมาที่ได้มีการไปยื่นหนังสือและติดตามผล 3-4 ครั้ง ยังไม่ได้คำตอบ เร็วๆ นี้ ทางมูลนิธิรณสิทธิ์ ได้ไปยื่นหนังสือเพื่อทวงถามเหตุผลต่ออธิบดีอัยการคดีค้ามนุษย์
นายรณสิทธิ์ บอกว่า ทราบมาว่า นายกำพล ได้ไปร้องขอเพื่อใช้สิทธิในการถอนหมายจับ หรือถอนฟ้อง ซึ่งผู้ต้องหามีสิทธิที่จะกระทำเช่นนั้นแต่เชื่อว่าจากการรวบรวมหลักฐานของเจ้าหน้าที่รัฐ มีหลักฐานความเชื่อมโยงไปถึง นายกำพล และที่สำคัญคือ การที่ศาลอุทรณ์ กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้คดีวิคตอเรีย เป็นคดีค้ามนุษย์ เพราะฉะนั้น เส้นทางการเงินของสถานบริการวิคตอเรียฯ เชื่อได้ว่าเป็นเงินจากการค้ามนุษย์ หากมีการทำธุรกรรมไปถึงบุคคลใด จะถือว่ามีส่วนในการค้ามนุษย์ ด้วย
ส่วนหมายแดง ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศ พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ที่จะต้องไปขอออกหมายแดง จากที่มีตรวจสอบหมายแดงของนายกำพล ปัจจุบันยังไม่พบว่ามีหมายแดงนายกำพล ดังนั้น จึงมีคำถามต่อเจ้าหน้าที่ในภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงเหตุใดเมื่อทราบว่าผู้ต้องหารายสำคัญหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ เหตุใดจึงไม่ติดตามดำเนินการในการนำตัวผู้ต้องหากลับมาเข้าสู่ขบวนการยุติธรรม
ดังนั้น เชื่อว่า คดีของวิคตอเรียจะส่งผลต่อการรายงานสถานการณ์การค้ามนุษณ์ในประเทศของประชาคมโลกโดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาได้พยายามที่จะตรวจสอบความเคลื่อนไหวในคดี ซึ่งที่ผ่านมาคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด ทางรัฐบาลไทยจึงไม่สามารถที่จะนำคดีสถานบริการวิคตอเรีย ซีเคร็ท เข้าไปรวมกับผลงานของประเทศได้
น.ส.ชลีรัตน์ ทิมบุตร ผู้ประสานงานมูลนิธิพิทักษ์สตรี เปิดเผยว่า เครือข่ายค้ามนุษย์ 13 องค์กร มีความกำลังว่าตอนนี้ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ในกรณี นายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ทำให้เกรงว่าจะซ้ำรอยกรณีภรรยา และบุตรชายนายกำพล คือ นางนิภา และนายธนพล วิระเทพสุภรณ์ ที่อยู่ในสำนวนคดีเดียวกัน แต่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง