อดีตหัวหน้าการ์ดม็อบราษฎร บ่นอุบ ยามรักก็บอกเต็มใจช่วย กี่พันกี่หมื่นก็โอนมาให้ แต่พอหมดรักก็เอามาด่าประจาน แบบนี้มันใช่หรือ ย้ำไม่ได้เอาปืนไปจี้หัวปล้นมา แต่คงไม่มีปัญหาคืน เพราะใช้หมดแล้ว เข็ดจริงๆ จะไม่เรี่ยไรอะไรให้ใครอีก
วันนี้ (27 ก.พ.) นายสมบัติ ทองย้อย อดีตหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย (การ์ด) ผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินที่ได้รับบริจาค ว่า “เรื่องสลิปที่โอนมาค่าเอ็มร้อยค่าโน่นค่านี่ค่านั่น ตอนโอนมาก็บอกว่าเอาไปใช้เถอะจะเอาไปทำอะไรก็ทำไม่ต้องแท็ก ไม่ต้องโชว์สลิป ยามดีกันก็บอกว่าไม่เป็นไรเต็มใจช่วย เพราะชื่นชอบและศรัทธาในการทำงาน แต่พอหมดรัก หมดพิศวาส ก็เอามาแฉกัน แบบนี้มันใช่หรือ
“ก็ตอนโอน เงินก็อยู่ที่โทรศัพท์ไม่ได้เอาปืนไปจี้หัวแบบปล้นว่า ถ้าไม่โอนจะยิงให้หัวกระจุยโอนเดี๋ยวนี้ เข้าใจว่าเจ็บแค้นเจ็บใจที่ไม่น่าโอนให้เลย ก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ตรงนี้ ที่ไว้ใจและเชื่อใจโอนมาให้ แต่ผมคงไม่มีปัญญาเอามาคืน เพราะใช้หมดแล้ว ก็หมดไปกับเด็กๆ นั่นแหละ คงไม่สามารถแจ้งได้ว่าเอาไปทำอะไรบ้าง แต่ก็ยังขอขอบคุณจริงๆ แต่ก็จะจำไว้เป็นบทเรียน จะไม่เรี่ยไร อะไรให้ใครอีกแล้ว เข็ดจริงๆ ยามรักกันปานจะแหกดากดม กี่พันกี่หมื่นก็ถมเข้ามา แต่พอหมดรักเอามาด่าเอามาประจานกัน #ลาก่อน”
ทั้งนี้ นายสมบัติ เคยเป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงมาตั้งแต่ปี 2553 รวมทั้งเคยเป็นการ์ดให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายรังสิมันต์ โรม สมัยที่ยังไม่ได้เป็น ส.ส. จนได้เข้ามาเป็นการ์ดของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและกลุ่มราษฎรในการชุมนุมช่วงปี 2563 ก่อนจะเกิดความขัดแย้งกับการ์ดกลุ่มอื่น รวมทั้งผู้สนับสนุนการชุมนุมอย่าง น.ส.อินทิรา หรือ ทราย เจริญปุระ นายปกรณ์ พรชีวางกูร หรือ เฮียบุ้ง ท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มราษฎร นายสมบัติจึงได้ยุติการเป็นการ์ดให้กลุ่มราษฎรตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังจากนั้น ก็ได้แสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมการชุมนุมของกลุ่มราษฎรมาตลอด ล่าสุดคือ กรณีการ์ดราษฎรเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่บริเวณใกล้ศาลหลักเมือง เมื่อคืนวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งนายสมบัติเห็นว่า ฝ่ายการ์ดผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ก่อน