“สนธิ” ชี้โควิด-19 ระบาดหนักรอบใหม่มาจากบ่อนพนัน แรงงานต่างด้าวแค่ส่วนน้อย แฉบ่อนภาคตะวันออกเฟื่องฟูในยุค คสช. มีการเปิดประมูล “หลงจู๊สมชาย” คนใจถึงมือถึงได้ไป และผุดบ่อนทั่วระยองจนเป็น “มาเก๊าแห่งภาคตะวันออก” โดยมีเครือข่ายนายตำรวจใหญ่คอยปกป้อง ตั้งแต่ยุค “ฉลามตาฟาง” พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ที่ว่ากันว่าสนิทกับนายกฯ ยังเป็น ผบช.ภ.2 และให้ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ เด็กในคาถาสืบทอดเก้าอี้ต่อ จึงมีคำถามเมื่อบ่อนถูกเปิดโปง ผู้การจังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรี ถูกย้ายหมด แต่ผู้บัญชาการภาคยังอยู่ยงคงกระพัน และ ผบ.ตร.ก็ไม่ทำอะไร ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่แสดงภาวะผู้นำ ไม่สั่งย้าย ผบ.ตร. เหมือนกับว่ามีการปกป้องกัน
วันนี้ (6 ม.ค. 64) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้ไลฟ์สด “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ คุยทุกเรื่องกับสนธิ และช่องยูทูป Sondhitalk เป็นตอนพิเศษ โดยได้กล่าวถึงต้นตอการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในรอบที่ 2 ซึ่งมาจากบ่อนการพนันเป็นสาเหตุหลัก ขณะที่แรงงานต่างด้าวอยู่ในพื้นที่ที่ติดตามตรวจสอบได้ จึงเป็นเพียงแอเรียสเปรดเดอร์ ส่วนบ่อนการพนันมีคนเล่นมาจากหลากหลายที่เมื่อเล่นเสร็จก็กลับพื้นที่ตัวเองหรือไปเที่ยวที่อื่นต่อ บ่อนการพนันในจังหวัดระยอง ชลบุรี และจันทบุรี จึงเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ที่ร้ายแรงกว่ากรณีสนามมวยลุมพินีเป็นพันเท่า
นายสนธิกล่าวว่า บ่อนในจังหวัดระยองมีมานาน และมีการเล่นกันอย่างโจ๋งครึ่มมากขึ้นในยุค คสช. ทั้งนี้ เดิมทีบ่อนการพนันมีเป็นลักษณะการเช่าพื้นที่ และเอาเงินที่ได้มาไปส่งส่วยเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ตำรวจท้องที่ขึ้นไปจนถึงผู้การฯ ผู้บัญชาการ แต่บ่อนในภาคตะวันออกเป็นผู้ใหญ่ระดับผู้บัญชาการหรือผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในพื้นที่เป็นคนกำหนดนโยบายให้ประมูลบ่อน ซึ่งในระยองคนประมูลได้คือ “หลงจู๊สมชาย” หรือนายสมชาย จุติกิติ์เดชา เจ้าของธุรกิจตู้ม้าในภาคตะวันออกลามไปถึงนครราชสีมา เมื่อได้บ่อนที่ระยองก็ขยายไปที่ชลบุรี และที่อื่นๆ ก่อน คสช.เข้ามาก็ไปเรียนรู้ที่บ่อนพระราม 9 พอ คสช.ขึ้นมาและมีนโยบายของผู้ใหญ่ในภาคไม่ต้องตั้งบ่อน แต่ให้ประมูลกัน ใครจ่ายสูงสุดคนนั้นได้ทำไป จนระยองกลายเป็นมาเก๊าภาคตะวันออก มีบ่อนเต็มไปหมด และ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี มีบ่อนใหญ่ๆ ทั้งสิ้น
นายสนธิกล่าวอีกว่า คนที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) จึงมีความสำคัญ เพราะเป็นคนชี้เป็นชี้ตายว่าจะให้เปิดหรือไม่ให้เปิด ซึ่งในช่วงปี 2562 ผบช.ภ.2 คือ พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ปัจจุบันเป็นวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ในสมัยที่เป็น ผบช.ภ.2 ก็นั่งอยู่เฉยๆ ไม่รู้ว่าระยองมีบ่อนหรือไม่มี ทั้งที่บ่อนผุดเป็นดอกเห็ด จึงได้ฉายาว่า “ฉลามตาฟาง” พล.ต.ท.จิตติ น่าจะรู้แก่ใจว่าตัวเองเกี่ยวข้องกับบ่อนหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนที่ พล.ต.ท.จิตติจะเกษียณอายุ 3 เดือน ก็ได้เรียกประชุมนายตำรวจในสังกัดบอกว่านายกฯ ติดต่อมา 3 ครั้งเพื่อให้เป็นไป ส.ว. จึงลาออกก่อนเกษียณเพื่อไปเป็น ส.ว. ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงก็แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.ต.ท.จิตติ รู้จักสนิทสนมกันดี
นายสนธิกล่าวอีกว่า เป็นที่รู้กันดีว่า พล.ต.ท.จิตติ เป็นเซียนพระ มีพระสมเด็จแท้รุ่นสุดยอด และมักจะเอาพระไปให้ผู้ใหญ่ดู ถ้าผู้ใหญ่ชอบก็นิมนต์พระองค์นั้นขึ้นคอผู้ใหญ่เลย พล.ต.ท.จิตติจึงกลายเป็นนายตำรวจที่ผู้หลักผู้ใหญ่รักใคร่มาก ขออะไรได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งไปเป็น ส.ว.แล้วก็ยังคงมีอิทธิพลในการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ซึ่ง พล.ต.ท.วีระ จิระวีระ ผบ.ช.ภ.2 คนปัจจุบันก็เป็นเด็กในคาถาซึ่งย้ายมาจากผู้บังคับการตำรวจชลบุรีที่เพิ่งถูกย้ายไป และเป็นนายตำรวจรุ่น 35 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ก็เป็นญาติสนิทกับนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร พล.ต.อ.ศรีวราห์จึงสามารถแนะนำลูกชายของหลงจู๊สมชายเป็นอนุกรรมาธิการเรื่องบ่อนการพนัน ซึ่งพอความแตกนายสุชาติก็บอกว่านายการุณ อดีต ส.ส.ระยองแนะนำมา แต่ได้ให้ออกจากคณะอนุกรรมาธิการไปแล้ว นั่นแสดงว่าเจ้าของบ่อนไม่ได้ซื้อแค่ตำรวจ ซื้อผู้มีอำนาจ แต่ข้ามซื้อนักการเมืองด้วย
นายสนธิกล่าวว่า การจะมีบ่อนเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ ผบ.ตร.ด้วย ในสมัยที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ยังเป็น ผบ.ตร. เมื่อมีโควิดระบาดรอบแรกได้ใช้กำลังตำรวจ 70% ตั้งด่านตรวจสอบคนติดโควิดและสั่งห้ามเปิดบ่อนเด็ดขาด บ่อนทุกแห่งจึงปิดหมด แต่มายุค พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ไม่เป็นอย่างนั้น
นายสนธิยังได้ตั้งคำถามกรณีการโยกย้ายผู้กำกับการสถานีตำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของตำรวจ จังหวัดระยองมี 16 อำเภอ แต่ย้ายผู้กำกับถึง 14 อำเภอ และชลบุรีย้ายอีก 8-10 อำเภอ เฉพาะ 2 จังหวัดนี้ย้ายผู้กำกับทีเดียว 20 กว่าตำแหน่ง ซึ่งถ้าปรานีหน่อยก็ย้ายภายในจังหวัด ถ้าไม่ปรานีก็ย้ายไปต่างจังหวัด แย่ที่สุดคือย้ายข้ามกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค ซึ่ง ผบ.ตร.ต้องลงนามในคำสั่ง มีคำถามว่านี่เป็นการเอาคนของตัวเองมาลงเพื่อให้มีการตั้งบ่อนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่
นายสนธิกล่าวว่า ผู้การจังหวัดต้องรู้แน่นอนว่ามีบ่อน ผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 ก็รู้ และ ผบ.ตร.ก็ต้องรู้ เพราะโจ๋งครึ่มแบบนี้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ที่เก่งปราบบ่อน ก็เงียบกริบ ไม่ปราบบ่อนระยอง ไปปราบบ่อนทุ่งสองห้องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และประจวบเหมาะกับการย้ายผู้กำกับ 20 กว่าโรงพักในระยอง ชลบุรี ทีเดียว ทั้งที่หลายคนไม่มีความผิดอะไร แสดงว่ากำลังจะทำงานใหญ่เพื่อขยายการเปิดบ่อนหรือเปล่า แต่เผอิญโควิดมาเปิดโปงเสียก่อน
นายสนธิฟันธงว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 รอบที่ 2 อย่างรุนแรงครั้งนี้ เป็นเพราะมีการปกป้องบ่อนการพนันโดยผู้ใหญ่ใน สตช. และในทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งในรัฐสภา เพราะถ้าไม่มีอำนาจอิทธิพลพวกนี้ก็เปิดบ่อนไม่ได้ การระบาดรอบสองก็ไม่มี เพราะฉะนั้นต้องอย่าให้คนชั่วและพรรคพวกของคนชั่วลอยนวลเป็นอันขาด อย่างน้อยที่สุดต้องไม่มีการปกป้องกัน
นายสนธิกล่าวว่า บัญชีการโยกย้ายผู้กำกับ 22 โรงพักในจังหวัดระยอง 14 แห่ง และชลบุรี 8 แห่ง ทั้งที่ไม่มีความผิดและอยู่ในตำแหน่งไม่ถึง 2 ปีนั้น เป็นประจักษ์พยานแวดล้อมที่ควรนำมาพิจารณา มีคนบอกว่านายกฯ เป็นคนดูรายชื่อโยกย้ายด้วยตนเอง ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ แต่ถ้า 22 คนที่ถูกย้ายไปฟ้องศาลปกครองจะชนะแน่นอน และเรื่องนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบและตอบคำถามให้ได้
เมื่อบ่อนถูกเปิดโปง ผู้การจังหวัดระยอง ชลบรี จันทบุรี โดนย้ายแล้ว แต่ ผบช.ภ.2 ทำไมไม่โดนย้าย ทั้งที่เหตุเกิดหลายจังหวัด แสดงว่าไร้ประสิทธิภาพ มีการเปิดบ่อนแต่ยังนั่งเฉย ผบ.ตร.ก็ต้องรู้ แต่ไม่ทำอะไรเลย ไม่แสดงวุฒิภาวะผู้นำ ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ก็เป็นคนที่นายกฯ เลือกมา ทั้งที่อาวุโสน้อยที่สุด เพราะฉะนั้น คนที่สมควรถูกย้ายจึงไม่ใช่แค่ พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผบช.ภ.2 แต่ต้องย้าย ผบ.ตร.ไปช่วยราชการสำนักนายกฯ ด้วย เพราะไม่สั่งย้ายนายตำรวจใหญ่ในภาคตะวันออกที่ปล่อยให้มีบ่อน ทั้งที่ตอนเข้ารับตำแหน่งก็ได้แถลงวิสัยทัศน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 19 ข้อ ข้อ 15 บอกต้องไม่ให้มีบ่อนพนันและการพนันออนไลน์ แต่กลับมีบ่อนเต็มทั้งในระยอง และ กทม.
นายสนธิตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะ ผบช.ภ.2 เป็นเด็กของ พล.ต.ท.จิตติ หรือไม่ บางคนบอกว่า พล.ต.ท.จิตติสนิทกับคนสนิทนายกฯ ที่ชื่อ เสธ.เก๋ หรือเปล่า อีกฝ่ายก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะนายกฯ ไม่ได้ให้อำนาจ เสธ.เก๋ แต่ที่แน่ๆ พล.ต.ท.จิตติ สนิทกับทางทำเนียบและนายกฯ และว่ากันว่า พล.ต.ท.จิตติเป็นคนเอาชื่อ พล.ต.ท.วีระเสนอนายกฯ เพื่อเป็น ผบช.ภ.2 และนายกฯ ก็เอาชื่อนี้ใส่มือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เพราะเดิมทีคนที่จะเป็น ผบช.ภ.2 ไม่ใช่ชื่อ พล.ต.ท.วีระ แต่มีคนยัดชื่อเข้ามา
นายสนธิยังกล่าวถึงแนวทางการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ว่าควรจะล็อกดาวน์จังหวัดในภาคตะวันออกทั้งหมดที่มีการระบาดจากบ่อนการพนัน แต่นายกฯ อ้างว่าไม่ล็อกดาวน์เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเยียวยา ทั้งที่เงินที่กู้มาเพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 จำนวน 4 แสนล้านบาทนั้น เพิ่งใช้แค่ 2 พันล้านบาท และหนี้สาธารณะก็ยังมีแค่ 42 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นยังสามารถกู้เงินมาเยียวยาได้ และจะต้องล็อกดาวน์ ยอมเจ็บแต่จบ