xs
xsm
sm
md
lg

ผุด “สตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล” กลางกรุง อัญเชิญพระราชดำรัส ร.๙ ย้ำจุดยืน “ความสามัคคี” บนความแตกต่าง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online - ครูอะไหล่” สร้างสรรค์ “สตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล” ครั้งล่าสุดใจกลางกรุงเทพฯ อัญเชิญพระราชดำรัส ร.๙ “ความสามัคคี” เจ้าตัวย้ำไม่อยากให้ประชาชนแตกแยก ไม่ว่าแนวทางไหนก็อยากเห็นประเทศดีขึ้นทั้งหมด เผยเตรียมใจไว้แล้วหากมีคนทำลายภาพ แต่หนักแน่นในสิ่งที่ทำ แสดงออกด้วยความรักมากกว่าต่อต้าน แนะตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ทำประโยชน์ให้บ้านเมือง มากกว่าไปรบกับอีกฝ่าย

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. นายชวัส จำปาแสน หรือ ครูอะไหล่ ผู้รับผิดชอบโครงการ “สตรีท อาร์ต คิง ภูมิพล” (Street Art King Bhumibhol) ได้จัดทำสตรีทอาร์ตภูมิพล 3.2 บนผนังอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ใจกลางกรุงเทพมหานคร (ขอสงวนสถานที่) โดยวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ บนพื้นหลังที่มีการผสานสีต่างๆ ลงบนพื้นสีชมพู และพ่นข้อความอัญเชิญพระราชดำรัส วันที่ 4 ธ.ค. 2536 ระบุว่า “สามัคคีหรือการปรองดองกัน ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างก็ต้องสอดคล้องกัน”


นายชวัส เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว MGR Online ว่า คอนเซปต์ของสตรีทอาร์ตชิ้นล่าสุด บังเอิญมาจากจุดเริ่มต้นที่อยากปรับภูมิทัศน์อยู่แล้ว บริเวณนี้เป็นซอยที่ภูมิทัศน์ไม่สวยงาม จึงต้องการนำศิลปะมาปรับภูมิทัศน์ ซึ่งงานของตนคือวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ รัชกาลที่ ๙ อยู่แล้ว ก็คงจะดีถ้ามีพระบรมสาทิสลักษณ์ใจกลางเมือง แต่ส่วนหนึ่งก็ไม่อยากให้เกิดความแตกแยก ซึ่งเห็นว่าแนวทางของพระองค์ไม่ได้ต้องการให้ใครมาแตกแยกหรือทะเลาะกัน และไม่อยากทะเลาะกับใครด้วย แค่อยากช่วยพสกนิกรทุกคนของประเทศจริงๆ ซึ่งตนเข้าใจตรงนี้ จึงค้นหาว่าพระองค์ตรัสอะไรไว้บ้างเกี่ยวกับสังคมการเมือง

เมื่อค้นดูแล้วก็เจอเกี่ยวกับเรื่องความสามัคคี พระราชดำรัสที่อัญเชิญมาก็ตรัสไว้ครอบคลุม ตรงประเด็น สำหรับสังคมและการเมืองบ้านเรา ที่เหมือนจะวนไปวนมา เพราะไม่ได้มีความเห็นร่วมกันทั้งหมด ถึงแม้แต่ละคน แต่ละกลุ่มจะออกมากันเยอะมากแค่ไหน ก็ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นฝั่งตรงข้ามอยู่ดี สุดท้ายชนะกันไป ใครได้ขึ้นมา ก็จบตรงที่อีกฝั่งหนึ่งจะออกมาต่อต้านอีกเสมอ คนที่หมกมุ่นเรื่องการเมือง ส่วนใหญ่ต้องการให้สังคมดีขึ้น สุดท้ายแล้วประชาชนทุกฝ่ายที่ออกมาเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะฝั่งไหนหรือกลุ่มไหน สีไหนก็ตาม อยากให้ประเทศดีขึ้นทั้งหมด เพียงแต่แนวทางต่างกัน กลายเป็นว่าสิ่งที่พระองค์ท่านตรัสไว้ตอบโจทย์เรื่องนี้ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องมีความแตกต่าง


“จริงๆ แล้วเราไปห้ามให้คนแตกต่างไม่ได้ ทุกคนมีความแตกต่าง ยิ่งความเป็นประเทศไทยมีหลายชาติพันธุ์ หลายศาสนา หลายความคิด มีความเป็นตัวเองสูงมากในความเป็นคนไทย ซึ่งลักษณะข้อดีของเราด้วยซ้ำที่เราได้มีอิสระในความเป็นตัวเองขนาดนี้ ฉะนั้น เราไปบังคับให้ใครทำตามกันไม่ได้ แต่ในเมื่อมีแค่จุดๆ เดียวที่ทุกคนมองร่วมกัน คือ อยากให้ประเทศดีขึ้น เราก็อาจจะต้องมารักษาจุดร่วม สงวนจุดต่างให้ได้ เราต้องเจอประเด็นไหนที่เราเห็นร่วมกัน แล้วเราก็ไปมุ่งทำเรื่องนั้น เราว่าเรารอด ประเทศเรารอด ดีขึ้นแน่นอน เพราะไม่มีใครมาทะเลาะกัน เรื่องแนวทางส่วนตัวถ้าไม่ตรงกันก็หาจุดที่ตรงกันและทำร่วมกัน คนก็จะออกมาช่วยกันทำทั้งหมดพร้อมกันเป็นหนึ่งเดียว น่าจะเกิดผลที่ดีที่สุด” นายชวัส กล่าว

นายชวัส กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้ใช้เวลาทำ 3 วัน จะมีลูกศิษย์ที่มาเรียนสถาบันกวดวิชาศิลปะกับตน ระดับมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย และศิษย์เก่าที่เรียนจบไปแล้ว อาจจะมีประชาชนทั่วไปหรือเพื่อนๆ ที่เห็นว่าจะทำ มาช่วยกันทาสี ขูดสี ขูดผนัง ทำแบบอักษร ช่วยวาดรูป บางคนเอาอาหารและน้ำดื่มมาให้ ซึ่งในกลุ่มคนที่มาช่วยมีหลากหลายความคิด บางคนจงรักภักดีกับในหลวง รัชกาลที่ ๙ บางคนแนวคิดครึ่งๆ กลางๆ บางคนก็สนับสนุนฝั่งนักเรียน นักศึกษาที่ชุมนุมกันอยู่ แต่ก็ยังมาช่วย เพราะประเด็นที่หยิบยกและคอนเซปต์อยู่ตรงกลางจริงๆ อีกทั้งคอนเซปต์ของศิลปะที่ทำคือการผสานสีทั้งหมด ซึ่งจะมีหลายสีมาผสานกันบนผนัง ซึ่งแต่ละคนก็จะหยิบสีของตัวเองขึ้นมา แล้วละเลงลงไป ทับกันไปมา สีใครสีมัน หรือบางคนอยากจะหยิบหลายสีก็แล้วแต่ พอสีผสานกันเป็นหลายสีสัน (Colorful) เกิดความรู้สึกที่สีสวยงามกว่าจะเป็นแค่สีเดียว


เมื่อถามว่า กระแสการเมืองในขณะนี้ ไม่กลัวว่าจะมีคนทำลายภาพ โดยเฉพาะพระบรมสาทิสลักษณ์ ในหลวงรัชกาลที่ ๙ หรือ นายชวัส กล่าวว่า “ไม่กลัว เตรียมใจไว้แล้ว เพราะอยู่ใจกลางเมืองด้วย ก็ไม่เป็นไร เราว่าพลังเราเยอะ เราหนักแน่นว่าสิ่งที่เราทำ เราแสดงออกด้วยความรักมากกว่าที่จะเป็นการต่อต้าน เราแค่อยากให้เห็นมุมในความตั้งใจของเราว่าเราไม่ได้กะที่จะไปต่อต้านอะไรเขา ทุกวันนี้ก็มีมาเหมือนกันที่เข้ามาเยอะ ลูกศิษย์หรือคนนอก ที่เป็นฝั่งผู้ชุมนุม ก็คุยกัน บางทีเขาแรงมาเราก็พยายามจะใจเย็น เราก็พยายามคุยด้วยว่ามุมมองเป็นยังไง ก็คุยกัน ต้องใช้เวลาคุยกันเยอะ ก็เหนื่อยเหมือนกันที่จะคุย ไม่ได้เหนื่อยใจที่จะขัดแย้งกัน เหนื่อยเพราะต้องคุยกันเยอะ ถ้าคุยห้วนๆ ก็จะไม่เข้าใจกัน สุดท้ายแล้วคิดว่ายังคุยกันได้

ยืนยันกับน้องๆ และลูกศิษย์เสมอว่า จะคิดยังไงก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายความสัมพันธ์แบบครูนักเรียน กับพี่น้องสำคัญกว่า ต่างคนต่างคิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร แต่สุดท้ายแล้วเรื่องพวกนี้เดี๋ยววันหนึ่งมันก็ผ่านไป เรื่องจบไปแล้ว ผลออกมาอย่างไรไม่รู้ แล้วเราจะตัดสัมพันธ์กันเหรอ จะ Unfriend เหรอ มันก็เหมือนเอาความสัมพันธ์ที่เราเคยรู้สึกดีต่อกันเอาไปแลกกับเรื่องแบบนี้ มันไม่คุ้ม ไม่อย่างนั้นเราต้องแลกไปเรื่อยๆ จนเราอาจจะหามิตรภาพไม่เจอเลยเหรอ ซึ่งที่ผ่านมามันก็ไม่ใช่มิตรภาพเหรอที่เรารู้จักกัน มันจะต้องมาพังเพราะเรื่องความคิดที่ไม่เหมือนกัน จะดูว่าคุ้มไหม เราไม่ได้ห้ามเขา ห้าม Unfriend พี่นะ คือแล้วแต่เขา แต่เราแค่พยายามอธิบายว่ามันคุ้มไหม หรือเราก็ยืนยันว่า น้องจะพูดยังไง เธอจะพูดยังไงมา ก็รับฟัง มีอะไรมาก็แชร์ อันไหนว่าดีก็ว่าดี อันไหนว่าไม่ดีก็ว่าไม่ดี เราก็หนักแน่นในมุมของเราว่า บางครั้งก็ไม่ถูก บางครั้งก็สนับสนุน”


เมื่อถามว่า มีอะไรอยากจะฝากบอกกับสังคมทุกวันนี้ เพราะขณะนี้ความแตกแยกก้าวไปสู่จุดสูงสุด นายชวัส กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มจะเลยเถิด รู้สึกว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ตอนนี้ก็เริ่มจะหาคนผิดคนถูกไม่เจอ พูดตรงๆ คนที่รักพระองค์ท่านก็ควรแสดงออกด้วยการทำประโยชน์ให้บ้านเมืองมากกว่า ถ้าอยากจะตามรอยเบื้องพระยุคลบาทรัชกาลที่ ๙ ซึ่งโดยหลักแล้วตนยึดที่ความดีมากกว่า ทำไมเรารักรัชกาลที่ ๙ เพราะว่าท่านดี เรารักพระองค์ท่านแล้วเราไม่ดีเหรอ เรารักพระองค์ท่านแล้วต้องออกไปตีกับเด็กทำไม เด็กก็อนาคตของชาติ ก็เป็นลูกหลานเราทั้งนั้น ถ้าเรารักในบรรพบุรุษของเรา เราก็ต้องรักในลูกหลานเราในอนาคตเหมือนกัน เพราะบรรพบุรุษเราสร้างบ้านเมือง กู้บ้านเมืองมา ไม่ได้กู้ให้ตัวเอง กู้ให้ลูกหลาน เพราะฉะนั้นที่เขาทำมาเป็นชาติทุกวันนี้ได้ เพราะว่าเขากู้ให้ลูกหลาน กู้ให้คนรุ่นหลัง

ตอนนี้เรากำลังจะไปทะเลาะกับคนรุ่นหลัง บางทีคุยกันได้ เถียงกันได้ แต่ตอนหลังเหมือนจะเริ่มรุนแรงแล้ว บางทีก็ไปล่อให้เกิดความรุนแรงด้วย ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องแสดงออกด้วยการออกไปแสดงออกว่าเราเยอะกว่า เพื่ออะไร เรารู้อยู่แล้วว่าเราเคยแสดงออกไปแล้วในช่วงที่บ้านเมืองสงบ ว่าคนเยอะขนาดไหนที่รักรัชกาลที่ ๙ ก็ไม่ต้องแสดงออกอีก เพราะรู้กันอยู่แล้วไม่มีใครอยากเปลี่ยน เพียงแต่ตอนนี้ถ้าจะไปแสดงออก อาจจะไม่ใช่เวลามากกว่า ไปทำอย่างอื่นดีกว่า ก็คล้ายกับรูปนี้ที่กำลังวาด โอเค ถ้ารูปนี้สุดท้ายแล้วเกิดผลเสีย ลบก็ได้ ก็ปิดทองหลังพระไง รัชกาลที่ ๙ ท่านก็ปิดทองหลังพระเสมอ เพียงแต่ว่ามีคนนำเสนอในเรื่องของท่านออกมาเอง ท่านแทบจะไม่อธิบายเลยว่าท่านทำอะไรบ้าง แต่ว่ามีคนเห็นเองในสิ่งที่ท่านทำ ไม่ได้ออกมาพยายามป่าวประกาศหรือทำโฆษณาอะไร ความเป็นจริงที่ท่านทำ (โครงการในพระราชดำริ) มา 4,000 กว่าโครงการเป็นที่ประจักษ์ ของจริงที่จับต้องได้ มันไม่ใช่ข่าวลอยๆ ไม่ใช่โฆษณาหรือข้อมูลลอยๆ มันเห็นจริงที่เป็นอย่างนั้น ก็ไม่เป็นไร

“สุดท้ายแล้วมองที่ประโยชน์ส่วนรวม ถ้าเกิดประโยชน์ก็ดี แต่ถ้าเกิดผลเสีย กลายเป็นว่าที่บอกว่าให้สามัคคีบนความแตกแยก แล้วจะเกิดผลเสีย มีคนไม่พอใจอีกก็ไม่เป็นไร แค่ทำต่อไป หนักแน่น แค่นั้นเอง” นายชวัส กล่าว


นายชวัส กล่าวว่า ที่ผ่านมา โครงการสตรีท อาร์ต คิง ภูมิพล ได้จัดทำไปแล้วรวมทั้งครั้งนี้ด้วย 8 ครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึงวันที่ 4 ธ.ค. ซึ่งเป็นอาคารริมทะเล ใกล้ๆ กับอู่เรือ ก็อาจจะทำเรื่องประมง เรื่องทรัพยากรทางธรรมชาติ ซึ่งไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือเจอเหตุการณ์ใด พระองค์ตรัสไว้หมดแล้ว เหมือนพระองค์รู้ว่าในความเป็นชาติจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และในความเป็นชาติไทย ตรงไหนมีอะไรบ้าง พระองค์ท่านศึกษาหมดแล้ว พระองค์ท่านเป็นผู้รู้เรื่องประเทศชาติดีที่สุดแล้ว เพราะไม่ว่าเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ลองกลับไปหาข้อมูล ท่านตรัสไว้หมดแล้ว เวลาไปไหนไม่กลัวเลยที่จะไม่มีข้อมูลที่พระองค์ท่านเคยทำ ซึ่งโครงการล่าสุดที่จะทำตั้งใจจะให้เสร็จทันวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ

อนึ่ง สำหรับโครงการ “สตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล” (Street Art King Bhumibol) เกิดขึ้นครั้งแรกที่โรงเรียนอนุบาลเบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2561 ก่อนที่จะวาดครั้งต่อมาที่อาคารเดอะเวเนเซีย หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ครั้งที่ 3 บริเวณผนังอาคารพาณิชย์ ติดกับธนาคารธนชาต สาขาปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ และตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าภูเก็ต และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย แห่งที่ 1 (ดาวน์ทาวน์) จ.เชียงราย












อ่านข่าวประกอบ

สวยงาม! ครูศิลปะจากกรุงเทพฯ ลงเบตงสร้างสรรค์ผลงาน “Street Art King Bhumibol”
จิตอาสาวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ “สตรีทอาร์ตภูมิพล” ใจกลางกรุงเทพฯ มุ่งส่งเสริมความดี
“ส่งเสริมความดี ใช้สติ-ไม่ใช้อารมณ์” เบื้องหลัง “สตรีทอาร์ต คิง ภูมิพล” ย้ำคำสอน “ในหลวง ร.๙” ก่อนเลือกตั้ง
งดงามและตราตรึง! “ครูอะไหล่” นำศิลปินวาดภาพ “สมเด็จย่า” ติดดาวน์ทาวน์เชียงราย
ส่องท่ารถเชียงรายพลิกอาถรรพ์ ปั้นชุมทางขนส่งสวยสุดหนึ่งเดียวในไทย
รำลึกคนบนฟ้า 4 ปีสวรรคต ผ่าน 9 สตรีทอาร์ต ภาพวาดในหลวง ร.๙


กำลังโหลดความคิดเห็น