xs
xsm
sm
md
lg

สวยงาม! ครูศิลปะจากกรุงเทพฯ ลงเบตงสร้างสรรค์ผลงาน “Street Art King Bhumibol”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 
ยะลา - ครูสอนศิลปะจากกรุงเทพฯ เดินทางลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน “Street Art King Bhumibol” บนผนังของอาคารโรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงทำเพื่อประชาชนมาโดยตลอด

วันนี้ (31 ส.ค.) นายชวัส จำปาแสน หรือ ครูอะไหล่ ครูสอนศิลปะ จากสถาบันสอนศิลปะ Viridian Academy of Art ศิษย์เก่าจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมเพื่อนอาจารย์ อีก 2 คน ที่ชื่นชอบงานศิลปะ ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ลงพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อสร้างสรรค์ Street Art King Bhumibol บนผนังของอาคารโรงเรียนอนุบาลเบตง (สุภาพอนุสรณ์) ที่มีขนาด 8x12 เมตร ใกล้กับศาลาประชาคมเก่า หรือ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาเทศบาลเมืองเบตง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครั้งหนึ่ง ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่อำเภอเบตง จ.ยะลา เมื่อปี พ.ศ.2519 โดยบรรยากาศในแต่ละวันจะมีนักเรียนและพี่น้องชาวอำเภอเบตงมาค่อยให้กำลังใจ พร้อมบันทึกภาพความทรงจำและเผยแพร่ลงโซเชียลมีเดีย
 

 
นายชวัส จำปาแสน กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคต นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับพสกนิกรชาวไทย แต่สำหรับตนพระองค์ท่านยังไม่ไปไหน ยังอยู่ในใจตน และเชื่อว่าอีกหลายคนทั่วประเทศก็คิดเช่นกัน โดยที่ อ.เบตง จ.ยะลา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ตนจะเดินตามรอยพระองค์ท่าน ในฐานะหน้าที่ของคนทำงานศิลปะที่อยากลงมือทำอะไรเพื่อพระองค์และเพื่อประเทศไทย พระบรมสาทิสลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ จะช่วยให้ทุกคนระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรทั่วประเทศของพระองค์แม้ในถิ่นทุรกันดาร และเราควรจะเริ่มลงมือช่วยกันทำให้ประเทศนี้ดีขึ้นด้วยมือและแรงของพวกเราทุกคน

ตนจึงได้เลือกภาพวาดพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นภาพหนึ่งที่ดูคุ้นตาคนไทยกันดีคือภาพพระเสโท (เหงื่อ) หยดเล็กๆ ตรงปลายพระนาสิก (จมูก) ภาพนี้จะทำให้ได้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ของไทยทรงเหน็ดเหนื่อย ทรงทุ่มเทพระวรกายมาตลอดช่วงการครองราชย์ 70 ปี เพื่อประโยชน์ผาสุกของพสกนิกรทั่วราชอาณาจักร พระองค์ท่านได้มอบสิ่งสำคัญไว้ให้กับคนไทยและประเทศไทยหลายอย่าง ซึ่งแต่ละจังหวัดและพื้นที่ล้วนมีเหตุผลที่แตกต่างกันตามความเหมาะสม ตนเพียงอยากเดินทางตามรอยในทุกที่ที่ท่านไป จากใต้สุดของประเทศไปเหนือสุดของประเทศ จากภาคตะวันออกไปภาคตะวันตก แล้วค่อยกลับมาภาคกลาง ด้วยการวาดรูปที่เป็นสิ่งที่ถนัด เพื่อให้รูปภาพและตัวอักษรที่วาดนั้นคอยย้ำเตือนให้คนในแต่ละจังหวัดได้ตระหนักถึงสิ่งที่ท่านได้มอบไว้ให้เราได้เดินตาม
 

 
นายชวัส จำปาแสน กล่าวอีกว่า การสร้างสรรค์ “Street Art King Bhumibol” ตั้งเป้าใช้ระยะเวลา 5 วัน สร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้ โดยมีครูพี่ป่านและครูพี่ตาล และมีผู้ใหญ่ใจดีและชาวบ้านในพื้นที่ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ กับผลงานครั้งนี้ โดยใช้เทคนิคสีทาบ้าน ซึ่งจะติดทนนานเพื่อให้คนเบตงได้ตระหนักถึงความรักความห่วงใยของพระองค์ที่มีต่อพกสนิกรในพื้นที่ใต้สุดแดนสยาม และสามจังหวัดชายแดนใต้ที่มีแต่รอยยิ้มและมิตรภาพ

นอกจากนี้ ตนได้หยิบเอาเรื่องเล่าของ ว่าที่ร้อยโทดิลก ศิริวัลลภ ล่ามภาษามลายู ประจำพระองค์มาลงในภาพนี้ด้วย ซึ่งว่าที่ร้อยโทดิลก ได้เล่าว่า ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ เยี่ยมเยียนประชาชน ณ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ในเวลาประมาณสองทุ่มเศษ ได้มีประชาชนกราบทูลพระองค์ระหว่างเข้าเฝ้าว่า เวลานี้พระองค์ควรเสด็จฯ กลับได้แล้ว เพราะหากเวลาล่วงเลยจนดึกดื่นไปกว่านี้ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และได้รับอันตรายจากโจรได้
 

 
“แต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่านรับสั่งว่า “ไม่ได้จะมารบกับโจร ฉันจะมาเยี่ยมเยียนประชาชน มาช่วยเหลือคนเจ็บไข้ได้ป่วย เพราะพสกนิกรที่นี่ยากลำบากมาก พร้อมกับหันไปตรัสกับผู้ติดตามว่า หากใครกลัวก็กลับไปก่อน ฉันยังไม่กลับ” ซึ่งเป็นเรื่องเล่าที่ตนประทับใจ ซาบซึ้งน้ำตาไหลในเรื่องราวของในหลวงรัชกาลที่ ๙ นอกจากนี้ยังมี ตูน บอดี้สแลม นักร้องชื่อดังอีกท่านหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ตนอยากทำเพื่อส่วนรวมในครั้งนี้” นายชวัส จำปาแสน กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน ต้องการให้ตนและกลุ่มเพื่อนไปสร้างสรรค์งานศิลปะสตรีทอาร์ตในหลวงรัชกาลที่ ๙ “Street Art King Bhumibol” สามารถติดต่อมาได้ที่เฟซบุ๊กของตนเองได้เลย ในชื่อ Chawat Chumpasan
 



กำลังโหลดความคิดเห็น