วันนี้ (12 พ.ย.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า ปัญหาการลดลงของสัตว์ทะเลหายากและระบบนิเวศทางทะเลเสื่อมโทรมกลายเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายพยายามร่วมกันแก้ไข ล่าสุดตนได้มีโอกาสไปดำน้ำเพื่อเก็บขยะทะเลใต้น้ำบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน ซึ่งก็ได้ขยะขึ้นมาเป็นจำนวนไม่น้อย และขยะเหล่านี้ก็ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศปะการังใต้น้ำ คุณภาพน้ำทะเล และที่สำคัญส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายากต่างๆ ทั้งนี้ เมื่อราวปลายปี 2562 ตนได้รับทราบว่า “โตโน่”ได้ริเริ่มโครงการ ONE MAN AND THE SEA “หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” เพื่อช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ซึ่งตนเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ที่คนรุ่นใหม่อย่างคุณโตโน่ เห็นความสำคัญ และเป็นกระบอกเสียงให้กับพี่น้องประชาชนได้หันมาสนใจและใส่ใจกับสัตว์ทะเลหายากและระบบนิเวศท้องทะเลไทย ตนรู้สึกชื่นชมคุณโตโน่เป็นอย่างมาก และในวันนี้ (12 พ.ย.63) ได้มีพิธีรับมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสัตว์ทะเล
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ตนขอชื่นชมในความตั้งใจที่ทำโครงการได้สำเร็จและจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือสัตว์ทะเลได้อย่างที่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม แม้โครงการฯ ดีๆ ดังกล่าวจะสิ้นสุดลง แต่ตนอยากขอให้พี่น้องประชาชนยังคงช่วยกันดูแลรักษาระบบนิเวศทางทะเลให้สวยงามและสมบูรณ์เช่นนี้ตลอดไป ซึ่งต่อไปตนจะได้หารือกับนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และหน่วยงานในสังกัด ทส. ถึงแนวทางการหาพันธมิตรและการดึงคนรุ่นใหม่ที่มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม เข้ามาร่วมดำเนินงานกับทาง ทส. ให้มากขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนของสังคมในการหันมาดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้คงอยู่ต่อไป
ด้าน นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวภายหลังการรับมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ณ ศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร จ.ภูเก็ต ว่า กรม ทช. ได้ก่อสร้างศูนย์วิจัยและหน่วยปฏิบัติในการช่วยเหลือสัตว์ทะเล รวมถึง สัตว์ทะเลหายากกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งได้ให้การช่วยเหลือรักษาสัตว์ทะเลมาโดยตลอด แต่ก็ต้องยอมรับในข้อจำกัดหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นทีมสัตวแพทย์ สถานที่ และที่สำคัญคือ เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตนอยากจะขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันบริจาคเงินให้กับโครงการฯ ซึ่งเงินที่พี่น้องประชาชนได้บริจาคมานั้น สามารถซื้ออุปกรณ์และช่วยชีวิตสัตว์ทะเลให้คงอยู่คู่ท้องทะเลไทย เพื่อคงความสมบูรณ์และสมดุลของระบบนิเวศทางทะเลให้อย่างยั่งยืน ต่อไป
ส่วนทาง นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ "โตโน่" กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและทีมงานได้ตั้งใจคิดริเริ่มโครงการ ONE MAN AND THE SEA “หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตนได้เริ่มว่ายน้ำจากท่าเรือดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 ไปถึงหมู่เกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 24 มี.ค.63 รวม 6 วัน ระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จึงหยุดการว่าย ได้รับเงินจากพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาครวมทั้งสิ้นกว่า 15 ล้านบาท นำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อมอบให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 8 รายการ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากตนจะสามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือสัตว์ทะเลและสิ่งแวดล้อมได้ ตนพร้อมที่จะเดินหน้าให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่