โกงส่วนโกง เพื่อนส่วนเพื่อน ไม่เลิกคบ “โตโน่” รับหาก “ฌอน” ทำผิดจริงจะเสียความรู้สึก แต่จะให้ไปแจ้งความในตอนที่ทุกอย่างยังไม่ชัดเจนไม่ได้ รับคลางแคลงใจ แต่ขออย่าให้ทำ ไม่ผิดก็อย่าไปกลัว รอให้เขาพร้อมชี้แจง
หลังจากถูกจี้ให้ฟ้อง “ฌอน บูรณะหิรัญ” กรณีโอนเงินบริจาคช่วยดับไฟป่าที่เชียงใหม่ 1 แสน แต่เจ้าตัวนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์การบริจาค ล่าสุด “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ออกมาแถลงข่าวดับกระแสดรามา โดยยืนยันจะไม่เลิกคบอีกฝ่ายแน่นอน
“ผมได้รับทราบในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วอาจจะมีบางคนสงสัยว่าเราได้บริจาคช่วยไปจริงหรือเปล่า 1 แสนบาท เราบริจาคจริงครับ ผมก็โอนเข้าบัญชีส่วนตัวเขาเลย ตอนนั้นถ้าทุกคนจำได้ไฟป่าที่เชียงใหม่ไหม้หนักมาก และความช่วยเหลือมันยังไปไม่ถึงเราก็มองตอนนั้นว่าอะไรที่มันจะสามารถไปถึงเจ้าหน้าที่ถึงชาวบ้านที่เขาเดือดร้อนได้เร็วที่สุด เราต้องการจะทำเลย”
“จริงๆ แล้วเราอยากจะไปด้วยตัวเราเอง แต่ช่วงนั้นเราติดโควิด-19 ทำให้เราเดินทางข้ามจังหวัดไม่ได้หลังจากว่ายน้ำเสร็จเราก็มาทำการบ้านเรื่องโควิด-19 เรื่องไฟป่าเราเห็นว่าทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ แล้วฌอนก็ลงเรื่องนี้ ลงเรื่อง PM 2.5 เรื่องไฟป่าที่เชียงใหม่ เรารู้จักกันกับฌอนก็ให้ฌอนเอาไปทำในสิ่งที่มันจะเป็นประโยชน์พอบอกเขาว่าจะโอนก็โอนเลยแล้วก็ส่งสลิปไปให้เขาแต่ก็ไม่ได้โชว์สลิปให้ใครเห็นในตอนนั้น ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะต้องเอามาให้ใครรู้ด้วย”
ยังไม่ถึงกับตกใจ ขอรอฟัง “ฌอน” อธิบายก่อน
“ตัวผมทำงานเยอะ อยู่ต่างจังหวัดตลอดเลย ไปถ่ายละครเพิ่งจะกลับมาแล้วก็ต้องมาอัดเพลง แล้วก็มาเจอกับพี่ๆ สื่อ ผมเลยยังไม่ทันได้ตกใจเพราะผมอยากจะให้หลักฐานมันชัดเจนก่อนที่ผมจะคิดอะไรไปเยอะ หรือคิดอะไรไปเองผมเลยยังไม่ได้ตกใจอะไรมาก”
เล่าส่วนตัวเคยคุยกับ “ฌอน” 2 ครั้ง แต่ไม่เคยคุยกันเรื่องของเงินที่บริจาคว่าได้เอาเงินไปทำอะไรบ้าง เพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะนำเงินไปใช้อย่างเกิดประโยชน์
“คุยกัน 2 ครั้ง แต่ไม่เคยคุยกันเรื่องเงินตอนนั้นยังไม่ได้พูดกันเรื่องเงิน ตอนนั้นเป็นเรื่องที่เขาไปปลูกต้นไม้เราก็คุยว่าเป็นยังไงบ้าง เป็นห่วงมันนะ ที่มันไปยุ่งไปแตะเรื่องพวกนั้นเราก็เป็นห่วงเพื่อน ตามประสาเพื่อนกัน เราไม่ได้ไปสนใจอะไรเลยในตอนนั้นเพราะไฟป่าเชียงใหม่ก็จบไปซักระยะนึงแล้ว”
“จะไปถามต่อว่าฌอนเอาเงินไปทำอะไร ในความเห็นเรา เราไม่ได้ช่วยแค่ไฟป่าเชียงใหม่ พอเรารู้ว่าอะไรที่เขาลำบากหรืออะไรที่ใครเดือดร้อน อะไรที่เราพอจะช่วยได้เราก็ช่วย ในที่ต่างๆ แล้วเราก็เชื่อมั่นว่าในที่ที่เราช่วยจะสามารถเอาไปช่วยทำให้มันเกิดประโยชน์บรรเทาความทุกข์ร้อนของพ่อแม่พี่น้องเรา ได้ไม่มากก็น้อย ขอให้เราได้ช่วยเถอะเพราะมันเป็นสิ่งที่สำคัญ”
เล่าต่อรู้จักกันเมื่อปีที่แล้ว จากการที่ “ฌอน” มาช่วยกิจกรรมบริจาคโครงการเก็บรัก(ษ์)ของตน
“ผมกับฌอนรู้จักกันเป็นการส่วนตัว รู้จักกันเมื่อปีที่แล้วผมทำโครงการเก็บรัก เก็บขยะทั่วประเทศ ฌอนไดเร็กอินสตาแกรมมาหาผมว่าอยากจะมาช่วยแล้วมันมีช่วงจังหวะนึงที่ผมไปเก็บขยะที่เชียงใหม่ วันนั้นก็มีเพื่อนๆ นักแสดงดาราหลายคนไปช่วย หนึ่งในนั้นก็คือฌอนเลยได้รู้จักกันในครั้งนั้น”
“พอเก็บขยะเสร็จผมก็ไปสัมภาษณ์กับฌอนต่อเพื่อหวังให้คนรู้ถึงความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อม เราต้องการให้ข้อมูลที่ดีมีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองเรา ให้คนได้รู้ได้เห็นให้ได้มากที่สุด”
ลั่นจะเสียความรู้สึกหาก “ฌอน” นำเงินที่ตนบริจาคไปใช้จ่ายเพื่อตัวเองตามที่เกิดดรามา
“ถ้าฌอนเอาหลักฐานมาชี้แจงแล้ว แล้วเงินที่เราจะเอาเงินไปช่วยคนเชียงใหม่...ถ้ามันกลายเป็นการเอาไปทำเพื่อตัวเองหรือเอาไปใช้เองซื้อรถ ซื้อบ้านเองอันนี้ผมจะเสียความรู้สึก แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้เอาหลักฐานอะไรมาให้เราดู เอาหลักฐานออกมาชี้แจงผมเลยยังไม่ได้...”
ตอนนี้หวังในใจลึกๆ ว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำเช่นนั้น
“ผมก็หวังใจว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น การช่วยเหลือกันในสังคมมันสำคัญมากนะของบ้านเราในประเทศเล็กๆ ประเทศนี้ น้ำใจของคนไทยที่มีต่อกันมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากนะเป็นสิ่งที่สวยงามมาก การที่เรามาทำเพื่อส่วนรวม เราเป็นแค่สะพานเราเป็นแค่ตัวเชื่อมเล็กๆนะในการที่เราเอาเงินของพ่อแม่พี่น้องเราหลายๆคนมารวมกันเอามาทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์”
“มันไม่ใช่มีแค่ครั้งนี้ พวกเราช่วยกันหลายครั้ง ไม่ว่าจะน้ำท่วมไฟป่า เราช่วยกันมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรคนไทยช่วยกันเสมอดังนั้นผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย”
แจงกรณีบอกให้ “ฌอน” ใช้ชื่อตนในการรับบริจาคอาจจะทำผิดกระบวนการแต่เจตนาคือให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเร็วที่สุดตนก็ไม่เห็นว่าจะผิดอะไรหากทำอย่างโปร่งใส ถูกต้อง
“เราไม่ได้ไปบอกเขาให้เขาเอาเงินเขาบัญชีเขานะผมบอกว่าถ้าผมจะช่วยก็ให้เอาเข้าบัญชีฌอนเลยแล้วฌอนเอาเงินของผมไปทำให้มันเกิดประโยชน์ แต่วิธีการฌอนจะไปเปิดบัญชีใหม่ที่เป็นชื่อฌอนก็ได้แต่เป็นบัญชีใหม่ แล้วให้ทุกคนบริจาคในบัญชีนี้ มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร”
“นี่คือในใจผม แต่มันอาจจะไม่ตรงกับใจหลายๆ คนว่าถึงแม้มันจะเป็นบัญชีที่โอนเข้าตรงเลย แต่ถ้าเราทำถูก ถ้าเราไม่โกงแม้แต่บาทเดียวเราเอาเงินไปทำประโยชน์ ผมก็ไม่เห็นว่าวิธีนี้จะมีปัญหาเลยถ้าเราทำด้วยใจที่ดีจริงๆ ด้วยใจที่บริสุทธิ์จริงๆ โปร่งใส และพร้อมที่จะชี้แจง ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่อง”
“ถ้าทุกคนจำได้ เหตุการณ์ที่เชียงใหม่ตอนนั้นเรารอกันได้ไหมเจ้าหน้าที่ที่ตาย ชาวบ้านที่เดือดร้อน เรารอได้เหรอกว่าที่จะเอาไปทำให้ถูกต้องแล้วบางคนที่เขาไม่รู้วิธีการที่มันถูกว่าต้องไปขอใครบ้าง ต้องไปทำอะไรเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง แต่เขาอยากจะช่วยมันมีอยู่เยอะนะครับเรื่องตรงนี้สำหรับผม ผมมองว่ามันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สิ่งสำคัญคือเจตนาและการกระทำที่เราจะเอาไปช่วยต่อยังไง แล้วไม่ใช่แค่โครงการนี้แต่เป็นทุกโครงการ”
“(ถ้าเขาออกมาชี้แจง แต่อาจจะไม่ได้ถูกต้องโดยกระบวนการแต่เขาเอาไปช่วยจริงๆ อยากบอกอะไรถึงคนที่สงสัยในตัวเราและเพื่อนเรา?) ก็ดูสลิปว่าผมบริจาคจริงไหมถ้าสงสัย ถ้าบริจาคมันก็มีหลักฐานอยู่แล้วสเตทเมนต์อะไรก็มี ก็มาดูกัน”
ยันยังไม่คิดแจ้งความดำเนินดคีเอาผิดกับ “ฌอน” ลั่นแต่หากอีกฝ่ายทำผิดก็ว่ากันไปตามผิด
“สำหรับตอนนี้ผมยังไม่คิดแต่ถ้าฌอนเอาหลักฐานมาชี้แจงให้ใครสักคนได้เห็นแล้ว แล้วถ้าเขาเอาเงินไปทำเพื่อตัวเองจริงๆ ถ้าเขาเอาไปซื้อบ้าน เอาไปซื้อรถเอาไปซื้อนาฬิกา ถ้าเขาทำอย่างนั้นจริงๆ ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด แต่ผมอยากย้ำว่าในเรื่องของเพื่อน เพื่อนก็คือเพื่อนครับ ผมเชื่อว่าทุกคนมีเพื่อนและเพื่อนหลายๆ คนของเราก็ต้องเคยมีทำผิดและทำถูก แล้วการที่เราจะคบใครสักคนนึงเราไม่ได้คบแค่ตอนนี้เขาดี เขาเด่น เขาดังอย่างเดียว”
“ในตอนที่เขาล้ม เขาพลาด เขาก็คือเพื่อนเราแต่ถ้าเพื่อนเราไปทำให้คนอื่นเดือดร้อน หรือถ้าเพื่อนเราไปสร้างผลกระทบให้กับคนอื่นเพื่อนเราก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เพื่อนทำ ไม่ใช่แค่เพื่อนต่อให้เขาเป็นพ่อแม่ผมหรือลูกผม ถ้าลูกผมทำผิดถ้าคนรักผมทำผิดผมก็ต้องบอกว่าเขาผิด เขาก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำแต่ไม่เกี่ยวกับความเป็นเพื่อน ไม่เกี่ยวกับความดี ความเด่น ความดังอะไรเลย”
“ถ้าเขาออกมาแสดงหลักฐานมาชี้แจงแล้วว่าสรุปเขาเอาเงินไปซื้อที่ให้ตัวเขาเองเอาเงินไปซื้อบ้านให้ตัวเขาเองก็ค่อยว่ากัน แต่ถ้าจะให้ไปแจ้งความตอนที่เรายังไม่เข้าใจอะไรเลยจริงๆ ผมคงไม่ทำรอดูให้ชัดเจนก่อน”
บอกหลังจากช่วยบริจาคไป 1 แสนตนก็ไม่ได้ติดตามว่าอีกฝ่ายเอาเงินไปใช้ทำอะไรบ้าง
“ตัวผมไม่ได้ถาม แต่ผมเห็นในคลิปว่าเขาไปทำอะไรบ้างแค่ดูในคลิปเท่านั้น ตอนนั้นเราไปโฟกัสสร้างเครื่องมือฆ่าเชื้อโรคกับทางโรงพยาบาลที่เขาต้องการ ตอนนั้นบ้านเรากำลังเจอหลายเรื่อง เราช่วยอะไรได้ก็ช่วยไปตอนนั้นเราเพิ่งว่ายน้ำเสร็จ ช่วงนั้นมันต้องช่วยหลายๆ ด้านเลยไม่ได้ไปเจาะว่าใครทำอะไรบ้าง”
“ช่วยก็คือช่วยผมทำใจไม่ได้ถ้าเห็นว่าคนเชียงใหม่ต้องเดือดร้อนแล้วให้ผมอยู่เฉยๆ เหมือนกับเรื่องโรงพยาบาล หมอ พยาบาลเขากำลังเดือดร้อนอยู่ถ้าเราจะไม่ช่วยมันก็ไม่ได้ ก็ต้องช่วยกัน คนไทยครับ”
เสียความรู้สึกหาก “ฌอน” โกงจริง แต่ไม่คิดจะเลิกคบ ลั่นผิดคือผิด เพื่อนคือเพื่อน
“ถ้าโกง ผมเสียความรู้สึก (เลิกคบเลยไหม?) สำหรับผมเหรอครับอาจจะไม่ตรงใจหลายคนนะ สำหรับผมแล้วมันเป็นเพื่อนผมเหมือนเดิมแต่มันโกงก็คือมันโกง (เราให้อภัย?) ก็ถ้ามันรับผิดชอบในสิ่งที่มันทำโกงก็ติดคุก เข้าคุก จ่ายค่าชดใช้อะไรก็ว่ากันไป วันนึงถ้าผมผิดผมก็จะเข้าคุกผิดคือผิด เพื่อนคือเพื่อน รักคือรัก มันไม่เกี่ยวกับว่ามึงพลาดแล้วมึงไม่ใช่เพื่อนกู มันไม่ใช่ครับ”
ไม่ขอคิดแทน “ฌอน” ทำไมยังไม่ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองเชื่อกำลังตั้งสติและรวบรวมหลักฐานอยู่
“ก็ต้องไปถามฌอนว่าทำไมยังไม่ออกมาพูดผมไปคิดแทนเขาไม่ได้นะว่าเขากำลังทำอะไรกันอยู่คิดว่าเรื่องนี้สำหรับฌอนมันคงเป็นเรื่องใหญ่ มันคงต้องใช้เวลาในการตั้งสติแล้วก็เตรียมหลักฐานมาชี้แจงแหละแต่ตัวผมเองผมไปตอบแทนเขาไม่ได้ แต่ผมยืนยันได้ว่าในวันที่เราคุยกันจะเอาเงินไปบริจาคเรามีเจตนาที่ดี เราคิดแค่ว่ามันต้องเอาไปทำประโยชน์แหละไม่มากก็น้อยมันต้องเอาไปทำ”
ส่วนตัวยอมรับคลางแคลงใจ “ฌอน” เหมือนกัน หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่เป็นตามข่าว
“สำหรับผม ผมเป็นลูกผู้ชาย ผมมีความรู้สึกว่ารอให้เขาชี้แจงรอให้เขามาอธิบายด้วยตัวมันเอง ผมไม่จำเป็นต้องเฮ้ย ฌอน ทำอะไร ทำไมเป็นแบบนี้ข่าวก็ลงเรื่อยๆ มันไม่มีทางที่มันจะอยู่เฉยๆ หรอกดังนั้นตัวผมเองจะต้องไปจี้มันอีกเพื่อ ผมจะต้องไป..ฌอนโกงเงินกูเหรอมึงทำอย่างนี้ได้ยังไง เดี๋ยวยังไงเขาก็ต้องออกมาอธิบาย”
“แต่ส่วนตัวตอนที่เห็นข่าวก็ยอมรับว่ามีคลางแคลงใจก็คิดอยู่ว่าอย่าทำนะ อย่าเป็นนะ ไม่อยากให้เป็นเพราะผมมีความรู้สึกว่าคนรักฌอนก็เยอะ ถ้าเราช่วยกันทำในสิ่งที่ดีมันเป็นประโยชน์ต่อส่วนตัวได้มากกว่าการที่เราจะด่าหรือทะเลาะกันการช่วยกันพูดและทำในสิ่งดี ทำในสิ่งที่พูด เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมก็เลยขออย่าให้มันเป็น (หลายคนอยากให้เราไปแจ้งความเพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง?) ก็ถ้าเพื่อนผมผิดก็ค่อยว่ากัน”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงทัศนะการบริจาคเงินเพื่อส่วนรวมโดยใช้เป็นชื่อตัวเองคิดว่าผิดหรือถูกเจ้าตัวบอกต้องแล้วแต่สถานการณ์ไป
“สำหรับผม ผมมองว่ามันอยู่ที่สถานการณ์ ถ้าตอนนั้นมันเป็นเรื่องเร่งด่วนจะช่วยทางไหนก็ได้ให้เขาดีขึ้นโดยเร็วที่สุด ถ้าช่วยได้ช่วยเลย ไม่ว่าจะทางไหนถ้าเราบริสุทธิ์ใจไม่มีอะไรต้องกลัวเลย ก็มาดูว่าเราเอาเงินไปทำอะไรบ้างมันชี้แจงได้ ถ้าเรามั่นใจว่าเราทำถูก ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลย”
“ความสำคัญของการช่วยเหลือคน คือ การทำให้คนที่ต้องการการช่วยเหลืออยู่ให้เขามีกำลังใจส่วนวิธีการเป็นสิ่งที่ตามมา เขาไม่มีเงินจะกินข้าว ก็ให้เลยแล้วค่อยมาดูว่าเราให้ไปเท่าไหร่ให้ใครไปบ้างก็ค่อยว่ากัน สำคัญที่ว่ามันโปร่งใสไหม มีหลักฐานยืนยันชัดเจนไหมถ้าเราชัดเจนมันไม่มีอะไรที่ต้องกลัวเลย ถ้าเราได้บอกไปว่าเราจะเอาไปทำอะไรผมว่าไม่มีใครมีปัญหาถ้าชี้แจงให้ชัดเจน”
ในประเด็นที่มีเจ้าหน้าที่ที่เชียงใหม่ยืนยันว่าไม่เคยเห็น “ฌอน” ไปช่วย เจ้าตัวบอกให้รออีกฝ่ายมาชี้แจงเอง
“ก็ต้องรอฟังฌอนแหละว่าเขาเอาไปช่วยเจ้าหน้าที่หรือว่าชาวบ้านเราต้องรอฟังเขา ผมไม่อยากใจร้อนตัดสินใครผมก็ไม่รู้ว่านอกจากผมแล้วยังมีดารานักแสดงคนไหนช่วยเขาอีกบ้าง คือช่วยก็คือช่วยผมไม่ได้ไปตาม”
แจงขั้นตอนการทำกิจกรรมรับบริจาคที่ตนเคยทำมาก่อนต้องไปขออนุญาตจากกระทรวงและชี้แจงทุกอย่างอย่างโปร่งใส
“ต้องมีการยื่นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทยหรือกับมูลนิธิต่างๆ อย่างตอนว่ายน้ำ เราเข้าใจ เป็นบัญชีต่างหาก ตรวจสอบได้ เอาไปลดหย่อนภาษีได้แล้วก็ชี้แจง อย่างว่ายน้ำเราได้เงินมา 10 กว่าล้านเราก็จะต้องบอกว่า 10 กว่าล้านนี้มันมีเครื่องมืออะไรบ้างที่ประเทศเรายังขาดเครื่องเลเซอร์ เครื่องผ่าท้อง ผ่าหัวใจสัตว์มันต้องมีการชี้แจงจำนวนเงินที่ชัดเจน เพราะมันไม่ใช่เงินเรามันเป็นเงินของคนไทยทุกคน ที่มาช่วยกันทำให้บ้านเราดีขึ้น”
ไม่รู้ “ฌอน” หนีออกนอกประเทศไปแล้วตามข่าวลือหรือเปล่า
“ผมก็ไม่รู้ ตัวผมเองถ่ายละครเพิ่งกลับมา แล้วก็ถ่ายหนังสืออัดเพลงแล้วก็มาเจอสื่อ ยังไม่ได้คุยอะไรกับใครเลย”
ไม่ท้อ ไม่หมดศรัทธาจะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปตามกำลังความสามารถของตนที่มี
“ผมตอบแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ตอบได้ในความรู้สึกของผมเองได้คือผมจะทำต่ออะไรที่มันดี มันมีประโยชน์ผมจะทำต่อ เพื่อแผ่นดินผม เพื่อคนที่ผมรัก ผมไม่ท้อผมจะทำ แล้วถ้าใครสงสัยอะไรก็มาตรวจผมได้ ใครมีอะไรให้ช่วยบอกอะไรที่จะเป็นประโยชน์ ถ้าผมช่วยได้ ถ้าผมทำแล้วไม่ลำบากผมช่วย”
“ผมคิดว่านี่คือสิ่งจำเป็น ยิ่งเป็นในยุคนี้ อย่างที่ทุกคนเห็นอากาศ โรคภัยไข้เจ็บเป็นยังไง ทุกคนทำงานกันได้ปกติไหม ใครบ้างที่ลำบากแล้วยิ่งถ้าเราไม่มีศรัทธา ยิ่งถ้าเราไม่รักกัน ยิ่งเราไม่ช่วยเหลือกันมันจะมีอะไรให้น่าอยู่ จะมีอะไรให้จรรโลงใจเราบ้างถ้าเราขาดสิ่งนี้ ซึ่งผมว่ามันเป็นสิ่งที่คนไทยมีผมยิ่งมีความรู้สึกว่า ยิ่งเจอกับเรื่องไม่ดี ยิ่งเจอปัญหา ยิ่งต้องช่วยกันทำให้ดี”
“ผมไม่หมดกำลังใจครับ ผมจะทำ แล้วผมว่าไม่ใช่แค่ผม ผมว่าทุกคนที่เขามีความคิดดีๆ อยากจะช่วยเหลือสังคมอยากจะทำให้บ้านเราน่าอยู่ขึ้นยิ่งต้องทำ”
ไม่มีอะไรฝากบอก “ฌอน” แต่อยากฝากถึงทุกคนว่าหากไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร
“ไม่มีอะไรจะฝากถึงเขา ผมคิดว่าทุกคนโตกันหมดแล้วทำอะไรก็ว่าไปอย่างนั้นครับ ทำอะไรก็พูดอย่างนั้นแค่นั้นเองอันนี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะแค่ฌอนนะ หมายถึงคนอื่นด้วย ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูกใช้ชีวิตให้มันง่ายๆ ถ้าเราไม่ได้ผิด มันไม่มีอะไรต้องกลัว ก็รอให้เขาพร้อม”