รมว.ดิจิทัลฯ ดึงศูนย์ดิจิทัลชุมชน ช่วยพัฒนาผู้ค้าตลาดสินค้าชุมชนออนไลน์ Thailandpostmart ของ ไปรษณีย์ไทย แย้มสร้างเพิ่มอีก 250 ศูนย์ เผยพัฒนาย่าน “สำเพ็ง” ค้าผ้าออนไลน์ จ่อลุย “บางกอกน้อย-วังหลัง” พร้อมดีล “จตุจักร” ร่วม
โลกของการค้าออนไลน์โดยเฉพาะในไทยหลากหลายแพลตฟอร์มเกิดขึ้นมากมายให้ลูกค้าได้จับจ่ายใช้สอย แต่รู้หรือไม่ว่า หน่วยงานรัฐเองก็มีเว็บไซต์สำหรับขายผลิตภัณฑ์ชุมชนบนออนไลน์ ที่ชื่อว่า ไทยแลนด์ โพสต์มาร์ท (Thailandpostmart) ภายใต้การดูแลของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ล่าสุด นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้เดินทางไปเป็นประธานเปิดศูนย์ดิจิทัลชุมชน วิทยาลัยชุมชนพังงา ต.บ่อแสน อ.ทับปุด จ.พังงา เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่มอบหมายให้นำศูนย์ดิจิทัลชุมชนกระจายไปในทุกจังหวัดทุกอำเภอ ซึ่งตอนนี้ทำไปได้ 250 ศูนย์แล้ว ในงบประมาณปี 2564 ก็จะทำได้อีก 250 ศูนย์ โดยเป็นการนำเทคโนโลยีลงไปให้ประชาชนได้ใช้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และเข้าถึงดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างจริงจัง โดยศูนย์ดิจิทัลชุมชนจะให้บริการในส่วนทั้งการจัดอบรมคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตให้กับชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเป็น เกษตรกรรม ประมง และรับจ้าง การช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ และสินค้าให้ดูทันสมัยมากขึ้น
ซึ่ง นายพุทธิพงษ์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมา โอกาสที่สินค้าของประชาชนโดยเฉพาะสินค้าชุมชนจะเข้าถึงระบบออนไลน์ไม่ได้ง่าย เมื่อเวลาเข้ามาแล้วการออกแบบทั้งกล่อง โลโก้ การนำเสนอ และราคาต่างๆ ก็อาจจะยังไม่ได้เหมาะสมนักเวลาต้องไปแข่งกับคู่แข่งที่อยู่บนออนไลน์ด้วยกัน การที่กระทรวงได้ส่งเสริมศูนย์ดิจิตัลชุมชน เราได้ส่งบุคลากรเข้ามาอบรม มาสอน รวมทั้งเรามีอุปกรณ์อย่างเช่นชุดไฟ กล้องในการถ่ายรูปและนำเสนอในมิติที่ไปแข่งขันในตลาดปกติได้จริง ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าเราคิดถึงปลายทางอยากให้สินค้าของประชาชนขายได้จริง แต่ก่อนทุกคนอยากเข้าไปขาย แต่ขายไม่ได้ไม่ใช่สินค้าไม่ดี เราก็เลยคิดเป็นระบบและอำนวยความสะดวกในเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆ
“ตลาดออนไลน์เป็นตลาดใหญ่และสามารถหารายได้ได้ การเข้ามาก็ไม่ได้ยากแล้วแต่เข้ามาแล้วให้สินค้าขายได้จริง ประชาชนมีรายได้มากขึ้นจริง เรื่องราคานี่สำคัญมาก ถ้าเขาไม่ได้เห็นของคู่แข่งการพัฒนาไปสู่ความเป็นเลิศมันก็จะน้อยลง ของเหมือนกันแต่ตั้งราคาไว้สูงคนก็ไปซื้อที่ถูกกว่า เหมือนกันข้างในของเราดีกว่าแต่ไม่ได้ปรับปรุงเรื่องรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้ดูทันสมัย เราก็เลยมีระบบเข้ามารวมทั้งคลิปเพื่อจะได้สอนวิธีการขายที่ดี ที่เหมาะ ที่ถูกต้อง และขายได้จริงมีอะไรบ้าง"
นอกจากนี้ ในส่วนของการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บอกว่า ที่ผ่านมาเราจะพัฒนาเป็นย่าน เรากำลังทำสำเพ็งโมเดล ย่านการค้าผ้า เราได้นำระบบและไวไฟไปติดในย่านพร้อมเปิดอบรมให้ผู้ค้าได้นำสินค้ามาขายบนออนไลน์ ประชาชนทั้งในและต่างประเทศ สามารถที่จะมาสั่งผ้าที่สำเพ็งและส่งโดยไปรษณีย์ไทยจนสามารถตัดเป็นเสื้อผ้าออกมาขายได้ ก็เป็นการปรับและพัฒนาดิจิทัลให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งเราจะทำหลายย่าน อีกหน่อยก็จะมีบางกอกน้อย วังหลัง รวมทั้งที่อยากจะเข้าไปทำในตลาดนัดจตุจักร ถ้าเราสามารถรวมแล้วทำเป็นแพลตฟอร์มของประเทศได้ ก็จะเป็นอีกช่องทางที่มีการค้าขายในออนไลน์ได้ดีขึ้น ตอนนี้ก็พยายามหาทุกช่องทางให้มีรายได้มากขึ้น
“หลายคนถามว่าทำไมไทยไม่มีแพลตฟอร์ม หรือ อี-คอมเมิร์ช ช่องทางการขายออนไลน์ของไทยเลย จริงๆ มีแล้วให้ลองเข้าไปดูใน Thailandpostmart.com ซึ่งเป็นการขายออนไลน์ของไทย อยู่ในไปรษณีย์ไทย ที่สำคัญไปรษณีย์มีความสามารถ มีความถนัดในการส่งของ ถ้าสั่งของในนี้นอกจากจะถูกกว่าที่อื่นแล้ว เรื่องการจัดส่งในประเทศนี้ตนเชื่อว่าไม่มีใครมีความสามารถเท่าไปรษณีย์ไทยอีกแล้ว มั่นใจได้ว่าไม่มีส่งผิดบ้านแน่”
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันมีผู้ประกอบการที่สมัครลงทะเบียนสินค้า 147 ราย โดย จ.พังงา 7 ราย, จ.ภูเก็ต 12 ราย, จ.ชุมพร 17 ราย, จ.ระนอง 18 ราย, จ.กระบี่ 16 ราย, จ.สุราษฎ์ธานี 33 ราย และ จ.นครศรีธรรมราช 44 ราย มีสินค้าวางจำหน่ายกว่า 259 รายการ โดย 10 สินค้าที่ขายดี ประกอบด้วย 1. ปลาหมึกอร่อย เมืองระนอง ขนาด 200 กรัม/ถุง จำนวน 5 ถุง/ชุด 2. กาแฟถ้ำสิงห์ 4 in 1 (ลังละ 20 แพ็ก) 3. ไข่เค็มไชยา (กล่องเล็ก) 4. กาหยูอบเกลือ (เม็ดมะม่วงหิมพานต์อบเกลือ) ขนาด 300 กรัม 5. ปลาหมึกอร่อย เมืองระนอง ขนาด 200 กรัม/ถุง สั่งขั้นต่ำ 5 ถุง/ชุด6. กะปิเกาะเหลาระนอง เกรดเอ 7. กาแฟถ้ำสิงห์ 3 in 1 จ.ชุมพร (ลังละ 20 แพ็ก) 8. กาหยูเผาแบบโบราณ (เม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบเผา) ขนาด 300 กรัม 9. ลูกชิ้นปลาเก็จมุกดา ลูกใหญ่ เคี้ยวเต็มคำ 2 กิโลกรัม 10. ปลาทูต้มหวาน ขนาด 280 กรัม
ซึ่งตั้งแต่ ม.ค.- ก.ค. 2563 สามารถขายสินค้าชุมชนของผ่านทาง Thailandpostmart.com ได้ถึง 104 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้ 260 ล้านบาท
ด้าน น.ส.สุวาลี จันทวัง เจ้าของร้านจุ๊บ จุ๊บ กาหยูอบเกลือ จ.ระนอง ซึ่งมีสินค้าขายดีติดอันดับ 4 และ 8 เปิดเผยว่า จากเดิมก็ขายอยู่หน้าร้านเล็กๆ เขาเห็นว่า เราทำเองก็เลยติดต่อเพื่อที่จะเอาสินค้าของเราไปขายออนไลน์ของไปรษณีย์ ก็ขายค่อนข้างดีเพราะว่าเราได้มีช่องทางที่จะขายของอีกทางหนึ่งจากเดิมที่เราขายปกติเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ส่งขายเฉพาะกาหยูอบเกลือ แต่ภายหลังเราคิดว่ากาหยูเผาก็ดีแต่มีเปลือก เราก็คิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะขายได้ ก็เลยดัดแปลงโดยการเลือกเปลือกออกเพื่อที่จะมีสินค้าที่ร้านไหนก็จะไม่มีวางจำหน่าย
โดยโครงการส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านไปรษณีย์ไทย Thailandpostmart.com เป็นแพลตฟอร์ม E-Marketplace เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2560 เพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้แก่เกษตร และชุมชน และขยายช่องทางสร้างรายได้มากขึ้นและอย่างยั่งยืน จึงรวบรวมเอาของดีทั่วภูมิภาคมาไว้ให้ง่ายต่อการเข้าถึง ปัจจุบันมีผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนร้านค้ามากกว่า 4,000 ราย มีสินค้าจากทั่วประเทศกว่า 17,000 รายการ แบ่งเป็น 8 กลุ่มหลัก ซึ่งสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนกลับสู่ชุมชนได้มากถึงปีละกว่า 31 ล้านบาท