เตือนสติก่อนโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย หนุ่มวัย 19 โพสต์ด่าผู้หญิงทำนองว่าเป็นคนไม่ดี เป็นโสเภณีขายบริการ สู้กัน 3 ศาล ใช้เวลา 4 ปี จบลงที่กักขัง 1 เดือน แม้จะชดใช้ค่าเสียหายไปแล้ว 4 หมื่น
วันนี้ (1 พ.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Reab Prosecutor ได้โพสต์คำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ 626/2563 เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2563 ที่พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นโจทก์ยี่นฟ้องผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ขณะก่อเหตุมีอายุ 19 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาท หลังโพสต์ข้อความระหว่างวันที่ 19 ก.พ. - 26 เม.ย. 2559 ด้วยข้อความที่หยาบคาย ทำนองว่าเป็นลูกกะหรี่ แม่ส่งเรียนเพื่อขายบริการทางเพศ ทำให้ประชาชนที่เข้าไปอ่านข้อความแล้วเข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นคนไม่ดี ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง พร้อมกันนี้ยังขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1 ล้านบาท
โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 จำคุก 1 เดือน และปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี และชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 40,000 บาทแก่โจทก์ร่วม คือผู้เสียหาย จากนั้นโจทก์ร่วมอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2562 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขัง 2 เดือน ไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ ต่อมาจำเลยได้ฎีกาต่อศาล
โดยศาลฎีกาพิพากษาว่า จำเลยกระทำความผิดโดยการใส่ความโจทก์ร่วมต่อบุคคลที่ 3 ด้วยการโฆษณาลงในระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เป็นการกระทำที่ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่โจทก์ร่วมจะได้รับ อาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่า โจทก์ร่วมและบุตรสาวเป็นคนไม่ดี ขายบริการทางเพศซึ่งไม่เป็นความจริง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จะปรากฏว่าจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน หรือได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมไปบ้างแล้ว หรือมีเหตุอื่นดังที่จำเลยอ้างในฎีกา ก็ไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุก โดยให้เปลี่ยนโทษเป็นกักขังจำเลยนั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่คดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่โทษที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดมานั้น หนักเกินไป เห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสมแก่คดี พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำคุก 2 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุก 1 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนมีกำหนด 1 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวระบุว่า “#เขียนข้อความใน facebook ด่าผู้อื่น แม้ไม่เคยทำผิดมาก่อนหรือได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายมาบ้างแล้ว ก็อาจไม่มีเหตุรอการลงโทษ #คิดก่อนโพสต์ (ฎีกา 626/2563)”
สำหรับคำพิพากษาฉบับเต็ม ระบุดังนี้
“โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 ถึงวันที่ 26 เมษายน 2559 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงต่อเนื่องกัน วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยซึ่งมีบัญชีผู้ใช้ในเว็บไชต์เฟซบุ๊ก (www.facebook.com) 2 บัญชี ชื่อบัญชี ...(1)... และ ...(2)... ตั้งค่าการอ่านข้อความเป็นสาธารณะ ซึ่งประชาชนทั่วไปที่ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงและเห็นข้อความได้ จำเลยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยเขียนหรือโพสต์ข้อความอันหมิ่นประมาท ...(ชื่อผู้เสียหาย)... ผู้เสียหาย โฆษณาเผยแพร่สู่ประชาชนผ่านทางอินเทอร์เน็ตโดยลงในเฟซบุ๊ก บัญชี ...(1)... ว่า "ลูกกะหรี่ ลูกอี...(ชื่อมารดา)...” และ “อีกะหรี่ ตอ... เหมือนอี...(ชิ่อมารดา) อีดอกท... ...(ชื่อเล่นผู้เสียหาย)” และ “อีดอก...(ชื่อมารดา) กับอีดอกท... อีแม่ส่งลูกเรียนเพื่อขาย ...(ของสงวน) แต่งตัวสักหลัง โชว์นมกระโปรงสั้น ร่...มีผัวก็แอบคุยกับผู้ชายคนอื่น 55555 อี...(ชื่อมารดา) จะรู้ป่ะนะว่าลูกดอกท...ขนาดไหน กะ...เทศบาลเรียกร้องหาความเห็นใจ คนในเฟสไม่รู้หรอกสันดานด...ๆ ของอี...(ชื่อเล่น) เป็นยังไง คนในเทศบาลเค้าตีสองหน้าคุยกับมึงไปงั้นแหละเค้านินทา...(ของสงวน) ระเบิด 555 รวยเพราะแม่สร้างไว้อายุ 38 แล้ว สมองยังหมาอยู่ อี...(ชื่อมารดา) ตอนสาวๆ คงเป็นกะหรี่ ผัวถึงทิ้งไม่ก็ผัวตาย มีลูก 3 คน แต่งกันไปสองคน ส่วนอี...(ชื่อเล่นผู้เสียหาย) ชะตาที่ไม่ถึง ถึงขึ้นคลานแบบนี้ 555555 ขี้เกลียดทำอะไรไม่เป็น จะไปนอนบ้านผู้ชายทีต้องโกหกแม่ไปต่างจังหวัด 555555 กูอะคนใกล้ตัวมึงดอก...(ชื่อเล่น)” และ “หรอคับอีด...กะหรี่เทศบาล อี...(ชื่อมารดา) คงเป็นกะหรี่มาก่อน ผัวทิ้งหรือผัวตาย มีลูกตั้งสามคนแต่งงานกันหมด ชะตา...(ของสงวน) มึงไม่ถึงอะสิอี...(ชื่อเล่น) ปากสดจริงๆ เลยนะครับ หาพวกช่วยด่าหรอครับ เจอกันเมื่อไหร่กูจะชกให้ปากแตกเลย ไม่ก็ลากไปลง...อ่ะ...(ของสงวน) เหี่ยวๆ ของมึงคงเน่าหน้าดู นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง ผัวคนไหนจะอยู่กับมึงได้คับผมถามหน่อย ปากบอกไม่ใช่เรื่องจริง คนในเฟซไม่รู้สันดานจริงๆ มึงหลอกสร้างภาพคนดี แต่จริงๆ ดอก...มาก 55555 กูขำครับไอ้สั... คนนรกแบบมึงเรียนสูงไปก็เท่านั้นแหละ เรียนเอาหน้า ไม่ต้องสาปแช่งกูนะ เพราะกูสาปแช่งมึงทุกวัน โครตเหง้ามึงก็ดอก...เหมือนกับมึง ไม่ทุกก็เรื่อง ของมึงนะครับผมชอบ ลุมด่ามาเลย เพราะมึงอะขี้ขลาดหาแต่พวก 555555555 น่า...(ของสงวน) คนนรก อี...กันตาวดี ฝากเบอร์โทรด้วยครับ 090... กะหรี่แต่งตัวทำงานแบบนี้ไปขาย...(ของสงวน) นะครับ” และจำเลยโพสต์ข้อความในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก บัญชี ...(2)... ว่า “55555 อยากเป็นก็บอกแม่มึงสิคะ แม่จะได้ฝากมึงให้เป็นกะหรี่” ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่า ข้อความดังกล่าวที่ลงเป็นข้อมูลในคอมพิวเตอร์เป็นเท็จ เป็นการใส่ความผู้เสียหายต่อบุคคลที่สาม ทำให้ประชาชนที่เข้าไปอ่านข้อความแล้วเข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นคนไม่ดี โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้เสียหายเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เหตุเกิดที่ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จัหวัดสมุทรปราการ ขอให้ลโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 จำเลยให้การรับสารภาพ
ระหว่างพิจารณา ... ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
โจทก์ร่วมยื่นคำร้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 1,000,000 บาท
จำเลยให้การในคดีส่วนแพ่งว่า โจทก์ร่วมเรียกค่าสินไหมทดแทนสูงเกินไป ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 (ที่ถูก ไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 326) ขณะเกิดเหตุจำเลยอายุ 19 ปีเศษ รู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว จึงไม่ลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 สำหรับความผิดฐานหมิ่นประมาทกับความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 (ที่ถูก เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ไม่ใช่กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท) จำคุก 2 เดือน และปรับ 60,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่ การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 30,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 กับให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 40,000 บาท แกโจทก์ร่วม ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลย 4 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 เดือน ไม่ปรับและไม่รอการลงโทษ แต่ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังมีกำหนด 2 เดือน แทนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นตัน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น เห็นว่า จำเลยกระทำความผิดโดยการใส่ความโจทก์ร่วมต่อบุคคลที่สามด้วยการโฆษณาลงในระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง เป็นการกระทำที่ไม่คำนึกถึงความเสียหายที่โจทก์ร่วมจะได้รับ อาจทำให้บุคคลอื่นเข้าใจผิดว่า โจทก์ร่วมและบุตรสาวเป็นคนไม่ดี ขายบริการทางเพศซึ่งไม่เป็นความจริง พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จะปรากฏว่าจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน หรือได้ชดใช้ค่าเสียหายแก้โจทก์ร่วมไปบ้างแล้ว หรือมีเหตุอื่นดังที่จำเลยอ้างในฎีกา ก็ไม่มีเหตุเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษให้แก่จำเลย ที่ศาลอุทรณ์ภาค 1 ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุก โดยให้เปลี่ยนโทษเป็นกักขังจำเลยนั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่คดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น แต่โทษที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 กำหนดมานั้น หนักเกินไป เห็นสมควรกำหนดโทษใหม่ให้เหมาะสมแก่คดี
พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษจำคุก 2 เดือน ลดโทษกึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุก 1 เดือน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนมีกำหนด 1 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1
คลิก>>>อ่านโพสต์ต้นฉบับ