หมอเพจดัง เผย พบการไวรัส RSV ระบาดหนัก คนไข้เด็กทั่วประเทศ ทั้งโรงพยาบาลรัฐ-เอกชน ป่วยด้วยไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบจาก เชื้อไวรัส RSV แนะเลี่ยงชุมชน ล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง หากมีอาการให้รีบพบแพทย์
วันนี้ (24 ต.ค.) เพจ “Infectious ง่ายนิดเดียว” ซึ่งเพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ปาราสิต, Emerging disease, ยาต้านจุลชีพ และ เอชไอวี ได้ออกมาโพสต์ เผยว่า “ระบาดหนักกว่าโควิด ก็ RSV อาการหนัก ระบาดหนัก ช่วงนี้ คนไข้เด็กทั่วประเทศทั้งโรงพยาบาลรัฐ เอกชน คลินิก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ป่วยด้วยไข้หวัด หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบจาก เชื้อไวรัส RSV (อาร์เอสวี) เยอะมากๆ แน่นทุกโรงพยาบาล
โดยอาการ ไข้ ไอ เสมหะ หอบเหนื่อย การรักษาคือ ตามอาการ ไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะ ทั้งกินและฉีด ไม่มีวัคซีน การรักษาคือ พ่นยา ดูดเสมหะ ให้ออกซิเจน ให้สารน้ำ ยาลดไข้ การพยากรณ์โรค มีตั้งแต่ไม่รุนแรง หวัด ไอ น้ำมูก จนไปถึง ปอดอักเสบ หายใจล้มเหลว
การป้องกัน ที่พอจะช่วยได้
1) หลีกเลี่ยงไปชุมชน หรือ ใกล้ผู้ใหญ่ เด็กที่ป่วย
2) วัคซีนโรคอื่นๆ ที่พบร่วมได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไอพีดี
3) รักษาความอบอุ่น ช่วงนี้อาการเย็น หนาว
4) คนมีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด โรคหัวใจ โอกาสติด RSV แล้วอาการรุนแรงกว่าเด็กทั่วไป ต้องระวัง อย่าขาดยาประจำ ป่วยรีบมาพบแพทย์
5) ล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ป้องกัน RSV ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบได้ มาตรการเดียวกับป้องกันโควิด ให้กำลังใจผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ ดูดเสมหะ พ่นยาวนไป”
ทั้งนี้ โรคไวรัสอาร์เอสวีเป็นไวรัสชนิดที่มีเปลือกหุ้มมีชื่อเต็มว่า Respiratory syncytial virus เป็นเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดหลอดลมอักเสบ ซึ่งพบได้บ่อยเด็กๆ แทบทุกคนมักเคยติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีตั้งแต่วัยเด็กเล็กคนทุกกลุ่มอายุสามารถติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีได้ส่วนมากอาการไม่รุนแรงมักหายป่วยภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจจะพบว่ามีอาการรุนแรงได้ในเด็กเล็กโดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี คลอดก่อนกำหนด มีโรคหัวใจ หรือโรคปอดร่วม นอกจากนี้ การติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีในผู้สูงอายุ อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงเช่นเดียวกับเด็กเล็กได้ และอาจรุนแรงมากกว่าได้จากโรคร่วมที่มีอยู่ และมักทำให้เกิดโรคหลอดลมฝอยอักเสบในเด็กเล็กและแพร่ระบาดได้รวดเร็ว ทำให้เด็กป่วยพร้อมๆ กันเป็นจำนวนมาก โรคมีความรุนแรงกว่าหวัดทั่วๆ ไป ทำให้เด็กมีอาการหอบเหนื่อย หรือมีภาวะปอดอักเสบร่วมด้วยจนอาจจะต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลบางรายมีอาการรุนแรงถึงขนาดต้องเข้าไอซียูได้
คลิกโพสต์ต้นฉบับ