คลิปวิดีโอ เผยให้เห็นเก๋งวีออสตีนผี ขับรถปาดหน้าไป-มา ด้วยความเร็วจนชนเข้ากับเด็กนักเรียนที่กำลังเดินข้ามทางม้าลายได้รับบาดเจ็บสาหัส จนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู ด้านคนขับยังแถอ้างเด็กเดินปาดหน้ารถเอง ตำรวจยังเฉยรอผลพิสูจน์จากแพทย์
วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Pattarakit Pumpipat” ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 30 วินาที ที่สามารถบันทึกได้จากกล้องติดหน้ารถยนต์เผยให้เห็นอุบัติเหตุรถยนต์ โตโยต้า วีออส ขับขี่ด้วยความเร็ว ปาดหน้ารถคันอื่นจนชนเข้ากับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปศาลายา ที่กำลังข้ามถนนบนทางม้าลายใกล้กับแม็คโครศาลายา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลนครปฐม แต่ผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า วีออส กลับไม่มีน้ำใจลงมาดูอาการ
อย่างไรก็ตาม ผู้โพสต์ได้เข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และคู่กรณีได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่อ้างว่ากลุ่มเด็กนักเรียนเดินข้ามถนนตัดหน้ารถยนต์ของตนเอง แต่จากการสังเกต จะเห็นว่ากลุ่มเด็กนักเรียนได้เดินข้ามทางม้าลายจนเกือบจะถึงจุดที่ให้พักแล้วแต่รถเก๋งขับปาดขวาจนทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า วีออส ได้รับการประกันตัวแล้ว โดยอ้างว่าต้องรอผลพิสูจน์จากทางแพทย์ก่อน
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ขับขี่รถยนต์มีความผิดเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 คือ กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามมาตรา 291 กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท และหากชนคนข้ามทางม้าลาย โดยที่ไม่หยุดให้คนข้าม ก็มีโทษปรับ 1,000 บาท เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย นอกเหนือจากโทษอื่นๆ ตามการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตามผู้เสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมฐานละเมิดเป็นคดีแพ่งได้อีก
นอกจากนี้ ตามมาตรา 21 ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาณจราจรและเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้ หรือทำให้ปรากฏในทาง หรือก็คือ “ไม่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร รวมถึงต้องหยุดรถเพื่อให้คนข้ามทางม้าลาย” เพราะทางม้าลายก็นับเป็นเครื่องหมายจราจร และตามตามมาตรา 32 กำหนดให้ “ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังไม่ให้รถชนหรือโดนคนเดินเท้าไม่ว่าจะอยู่ ณ ส่วนใดของทาง และต้องให้สัญญาณเตือนคนเดินเท้าให้รู้ตัวเมื่อจำเป็น” ซึ่งหากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 152 คือ ปรับไม่เกิด 1,000 บาท
