“กอล์ฟ เบญจพล” เผยศัลยกรรมผ่านมา 2 เดือนหน้ายังไม่เข้าที่ ต้องรอดูอีก 6 เดือน ถ้าไม่สมใจปีหน้าจะแก้เพิ่ม ยอมเฉือนจมูกให้เล็กลง รับไม่สบอารมณ์ถูกคนบูลลี่ ลามปามสินค้า อัดมีเงินในบัญชี 2 แสนไหม เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว ใครจะแจ็คแพอต ยันไม่เสียเซลฟ์แต่ไม่อยากให้สังคมต้องเป็นแบบนี้
ผ่านการศัลยกรรมมา 2 เดือน แต่ก็ยังถูกวิจารณ์ไม่เลิก ทำเอา “กอล์ฟ เบญจพล เชยอรุณ”ออกมาแสดงจุดยืนไม่สนับสนุนให้คนบูลลี่ ขอให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวในพื้นที่ส่วนตัวของตน ยอมรับจะไม่ทนเรื่องนี้ เก็บหลักฐานไว้หมดแล้ว
“จมูกก็คงเล็กลง แต่ยังไม่เข้าที่ต้องรอดูว่า 6 เดือน แล้วเข้าที่ขนาดไหน ถ้ายังไม่สมใจอยากมาก เดี๋ยวปีหน้าว่ากันใหม่ ฉันเป็นซีรีส์ 2 (หัวเราะ) ประเด็นหลักคือเราตั้งใจแก้ให้เหมือนแม่เหมือนพ่อและพี่ชายอยู่แล้ว ถ้าทำแล้วยังไม่เหมือนก็ต้องแก้เป็นเรื่องธรรมชาติ พอลองมาศึกษาเขาบอกว่าคนทำศัลยกรรมครั้งแรกแล้วจะดีเลย มีน้อยคนมาก เราก็รอดูแล้วกัน
แต่ก็หวังว่าจะดีขึ้นภายใน 6 เดือน ไม่ต้องทำใหม่ ผมรู้สึกว่าตอนนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงเยอะแล้ว เพียงแต่ว่าทรงมันยังไม่ได้โอเค ตรงจมูกที่โตเป็นเนื้อหมด วิธีการแก้คือต้องเขียนเอาไขมันและพังผืดออก เราคิดว่าเป็นสเต็ปที่ต้องทำใจสูง เพราะแค่นี้ก็จะแย่อยู่แล้ว ถ้า 6เดือนแล้วจมูกที่ทำรัดแกนๆ ได้แค่ไหนถ้าสวยแล้วเราก็โอเค ไม่ทำเพิ่ม เพราะกลัวเจ็บตัวอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่สวยอาจจะยอมเฉือนออก จมูกจะได้เล็กลง”
เผยไม่ได้คาดหวังเพราะตนก็ไม่เคยทำมาก่อน แต่ถ้ายังไม่สมใจ จะแก้เพิ่ม
“ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้คาดหวัง เพราะเราไม่เคยทำ ไม่รู้ว่าต้องประมาณไหน แต่หลังจากทำมาแล้ว น้องคนที่เคยทำมา เขาก็จะบอกว่าผมเราทำถูกต้องแล้ว ต้องค่อยๆ ทำ เหลือไว้ให้แก้ได้ดีกว่า ถ้าทำไปครั้งแรกเลย อาจไม่เข้ากับหน้าก็ได้ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่า 6 เดือน ลีนไปได้แค่ไหน ถ้ายังไม่ได้สมใจอยากจริงๆ ก็ค่อยแก้เพิ่มเติม”
อีก 6 เดือนคุยกับหมออีกครั้ง
“หมอบอกว่า 6 เดือนคุยกันใหม่ ซึ่งเราก็เข้าใจได้ ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง เพราะทักกันมาเยอะมาก แต่ต้องบอกว่าการทำศัลยกรรมต้องใช้เวลาจริง ๆ เดี๋ยวรอดูอีก 6 เดือนค่อยมาว่ากันดีกว่า
หลังจากแถลงข่าวไปเมื่อเดือนที่แล้ว แผลก็บวมน้อยลง เนื้อก็รัดแกนซิลิโคนจมูกมากขึ้น เพียงแต่ว่ายังสามารถรัดได้อีก ยังเกาะกันไม่สนิท คนเลยทักว่าตาตี่ แล้วเลยบอกพี่กอล์ฟผ่าตาอีกสิ ผมก็บอกว่าแค่นี้จะขาดใจอยู่แล้ว ใจเย็นๆ ครับเดี๋ยวตาจะเบิกโตขึ้น”
ลั่นพอใจแล้ว แต่ไม่ซีเรียสหากไม่เข้าที่ ก็ต้องแก้
“ถ้าต้องแก้ก็ต้องแก้ ไม่มีอะไรต้องซีเรียส เพียงแต่ว่าเราก็คงต้องรอให้ละครปิดก่อน ปีหน้าค่อยว่ากัน ถามว่าพอใจไหม ผมโอเคแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าพอ 6 เดือนแล้วจะเป็นยังไง ก็อยากรู้เหมือนกัน”
ลั่นคนว่างมากชอบบูลลี่ ถามจะอยู่กับสังคมแบบนี้จริงๆ หรือ
“ผมตอบไปแล้วว่าเราไม่สามารถทำให้ทุกคนมารักเราได้ คนที่เขาไม่ชอบ ยังไงก็ไม่ชอบอยู่ดี เราเอาเวลาไปทำให้คนที่เขาชอบเรามีความสุขดีกว่า แฟนคลับ รวมถึงเพื่อนฝูง ทุกคนก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาให้เรา จากผู้ที่ไม่มีอะไรทำ ว่างมากแล้วก็ชอบบูลลี่คน ซึ่งเราไปห้ามเขาไม่ได้ เหมือนเป็นสิ่งที่เขาคุ้นชินไปแล้ว
แต่อย่างที่ผมฝากบอกไป ถ้าเราอยากอยู่กับสังคมที่ชอบบูลลี่อย่างนี้จริงๆ เหรอ เราอยากให้การบลูลี่ในสังคมไทยเป็นเหมือนกันข้ามทางม้าลาย ที่เหมือนกับว่าจะข้ามทางม้าลาย แต่ก็ข้ามไม่ได้ รถไม่จอด เราคงผิดเอง เราเดินมาข้ามในเวลาที่ไม่ถูกต้อง มันไม่ใช่หรือเปล่า เพราะจริงๆ แล้วการข้างทางม้าลายคือการทำถูกกฎหมายนะ
ผมแค่ทักว่าเราอยากอยู่กับสังคมแบบนี้จริงๆ เหรอ เรามาช่วยกันไหมครับ รณรงค์ให้การบูลลี่ค่อยๆ หายไป เพราะถ้าจะให้หายไปเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ ผมไม่สามารถเปลี่ยนความรู้สึกของทุกคนได้เพียงแต่ผมมาทักให้ฟังในวันนี้ เพราะผมไม่ใช่คนที่ถูกบูลลี่ และรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วผมมีภูมิคุ้มกันของตัวเองอยู่ เพียงแต่ว่า ณ ปัจจุบันนี้ถ้าหากว่าเราได้ไปอ่านในกูเกิลหรืออะไรเยอะๆ จะรู้เลยว่าการบลูลี่คนก่อให้เกิดสิ่งต่างๆ ตามมา เป็นลูกโซ่ทำให้ก่อเกิดโรคซึมเศร้า ทำให้คนฆ่าตัวตาย คุณเป็นฆาตกรทางอ้อมนะครับ คุณชอบเหรอแบบนั้น
วันนี้ก็แค่มาทักเราน่าจะบอกคนที่เรารู้จัก หรือตัวเราเองถ้าเกิดว่าเราเคยบลูลี่ เราน่าจะลดแล้วก็เลิกดีไหม แต่ถามว่าว่าจะไปปวดหัว ไปโกรธของพวกนี้ เอาอย่างนี้ดีกว่าเวลามีคนมาว่าเราที่เราไม่เคยอะไร รู้ไหมเป็นใคร ก็ไม่รู้จักไงไม่รู้จักแล้วเราจะไปโกรธใครดี”
รับเห็นแล้วเสียอารมณ์ ลามปาม อย่าเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว
“มีแค่ 2 เคสหลักๆ เลยที่ขอคืออย่าเข้ามาในพื้นที่ของเราในไอจี ใน TIKTOK หรือ Facebook อย่าเข้ามาเมนต์ในพื้นที่ของผมเพราะผมมีพื้นที่นี้ไว้ให้กับแฟนคลับของเราได้มาพูดคุยกัน ได้มาสนุกสนานกัน ผมเป็นคนตอบเมนต์ตลอดนะ แต่ว่าไม่ได้ตอบทุกครั้ง ถ้าเกิดเป็นแฟนคลับผมเองเขาจะรู้ เพราะถ้าว่างๆ ผมก็จะไปไถดูแล้วผมก็ตอบเวลาคุยกัน
บังเอิญว่าจะมีพวกนี้เข้ามา เราก็รู้สึกว่ามันเสียอารมณ์แค่นั้นเอง อย่าเข้ามาในพื้นที่ของ ผมแต่ว่าคุณจะเข้าไปเมนต์กันในพื้นที่ของคุณ ผมไม่รู้หรอกมันเป็นความสุขคุณก็ทำไป คืออย่าดิสเครดิตสินค้าที่ผมขายแค่นั้นเองหลังๆ มันเริ่มมีลามปามไง ไอจีเราขายที่ปลูกผมแล้วเราต้องไปศัลยกรรมปลูกผมมาด้วยสิ เราก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้วต้องคุยกันก่อน อย่าลามปาม เอาแค่กำลังดี เพราะเราไม่เคยไปปลูกผมอะไรมา
เราถึงได้ออกมาทักว่าอย่าบูลลี่ และหยุดสนใจคนอื่นให้มันมากเกินไป สนใจตัวคุณก่อน ปัจจุบันนี้คุณเป็นคนดีหรือยัง คุณมีน้ำใจให้กับสังคมบ้างหรือยัง หรือถ้าเกิดคุณว่างมาก สมมติว่าถ้าพี่เอาเวลาไปโกรธคนพวกนี้ ผมเอาเวลาไปซื้ออาหารแล้วก็ไปแจกสุนัขริมถนน มีความสุขกว่าไหม มีความสุขกว่า สุนัขก็อิ่มท้อง ผมรู้สึกว่าเราน่าจะเอาเวลาไปทำแบบนี้ให้มันมีประโยชน์มากขึ้น”
เราเตือนไปแล้วรอบหนึ่ง ที่ผมพิมพ์ไปนี่คือผมเตือนนะ ผมไม่ได้วอนขอ เพียงแต่ว่าสื่อบางสื่ออาจจะไปบอกว่ากอล์ฟ เบญจพล วอนขอหยุดบูลลี่ ไม่ใช่ เราใช้คำว่าหยุด หยุด หมายความว่าเตือน เตือนแล้ว เพราะถ้าหากว่ามาวุ่นวายกับสินค้าผมอีก พี่ก็บอกแล้วว่ามันมี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์อยู่ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ มันปรับไม่เกิน 200,000 บาทจำคุกไม่เกิน 3 ปีประมาณนี้
ซึ่งผมจะบอกว่าถ้าหากว่าคุณลามปามจนเกินไป ก็คงจะต้องไปดำเนินคดีในส่วนตรงนั้น และก็ในส่วนของการดำเนินคดีของผม ถ้าหากว่าผมจะเอาเรื่อง ผมบอกไว้เลยนะจะเอาเรื่องให้มันเป็นเคสตัวอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าใครแจ็คพอตโดนผมเอาเรื่อง ไม่มีการยอมความนะครับ ต่อให้คุณโดนแจ้งความแล้ว คุณมาบอกว่าพ่อป่วย แม่ไม่สบาย น้องกำลังเรียน แจ้งความหมดนะ
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าใครอยากจะบูลลี่ผม และไม่อยู่ในขอบเขตคุณ เช็กในบัญชีก่อนว่ามี 200,000 บาทจ่ายหรือเปล่า เพราะถ้าไม่มี แจ้งความจับติดคุกอย่างเดียวนะครับ เพราะว่าผมรู้สึกว่ามันต้องมีเคสตัวอย่างเกิดขึ้นในบ้านเราได้แล้ว ตอนนี้ยังอะลุ่มอล่วยอยู่”
รับมีที่เล็งๆ เอาไว้ เห็นเงียบๆ ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไร
“มีครับ ผมบอกเลยนะครับว่าทุกคนที่เข้ามาบูลลี่ผม ผมประกาศไว้ก่อนเลยนะครับว่าเราได้แคปพวกคุณเก็บไว้หมดแล้ว คือคุณเห็นผมเงียบๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่ทำอะไรนะ ผมแคปพวกคุณเก็บไว้หมดแล้ว เพียงแต่ว่าวันไหนคุณจะแจ็คพอตแค่นั้นเอง”
ไม่เสียเซลฟ์แต่จะขอเป็นกระบอกเสียง รณรงค์ให้เลิกบูลลี่
“ไม่เสียเซลฟ์แล้ว ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้สนใจและไม่สนใจจริงๆ เพียงแต่ว่าเราแค่มาพูดวันนี้เราเห็นว่าอย่างน้อยผมเป็นคนหนึ่งที่พอจะเป็นกระบอกเสียงได้ อย่างน้อยสื่อก็น่าจะลงในสิ่งที่ผมพูด ผมก็อยากจะมารณรงค์ว่ามันต้องให้การบูลลี่ในสังคมบ้านเราลดลงแล้วหายไปซะได้แล้ว มันไม่ได้เหมาะกับบ้านเราหรอกครับ สังคมไทยเราอยู่กันด้วยการมีน้ำใจกัน เอ็นดูกัน การช่วยเหลือกันในวันหนึ่งอยู่ๆ การบูลลี่ในเมืองไทยมันเกิดขึ้นเยอะ เพราะว่าเราเล่นโซเชียลเยอะมากไปหรอเราก็เล่นโซเชียลแบบมีขอบเขตดีกว่า”
รับฮาบอกว่าตนไม่ตรงปก ย้ำหลายครั้งไม่เคยอยากศัลยกรรมเพราะอยากหล่อ
“จมูกเราก็อยากให้มันสวย แต่ไม่รู้ว่าคำว่าสวยมันจะออกมาเป็นอย่างไร นึกออกไหม มีอันนึงก็ฮานะ เพราะผมอ่านอยู่ที่บอกว่าไม่ตรงปก ผมก็นึกว่าเอ๊ะเราเคยมีปกอะไรไว้เหรอวะ ก็ไม่เคยบอกนี่ว่าทำออกมาแล้วจะเหมือนอะไรเราแค่อยากให้มันดีขึ้นเท่านั้นเอง เพราะว่าไม่อยากศัลยกรรมเพราะอยากหล่อย้ำไปแล้ว ศัลยกรรมเพราะว่าบนใบหน้ามันมีสิ่งที่มีปัญหาแค่นั้นเอง เราก็อยากให้มันเข้าที่เข้าทางขึ้น
ถามว่าเสพติดศัลยกรรมไหม ผมเคยบอกไปตั้งแต่วันแรกแล้วที่ออกมา ผมบอกว่าผมกลัวนะ ไม่ใช่ว่าผมไม่กลัว เพียงแต่ว่าผมก็คุมตัวเองว่าต้องการอะไร ในจุดเริ่มต้นต้องการแก้จมูกต่างหาก เพื่อให้จมูกเล็กเหมือนคนที่บ้าน เราก็พยายามเตือนตัวเองอยู่ว่าแค่นี้ที่ต้องการ
ส่วนที่เห็นว่าอยากแก้ ยอมรับว่ามันมีแว๊บหนึ่งเพราะเราไม่เคยทำและเราก็ไม่เคยไปคอนเซ้าท์เพื่อนฝูงหรือคุณหมอว่ามันต้อง 6 เดือน มันถึงจะเห็นภาพชัดเจนเพราะฉะนั้นแน่นอนผมก็ต้องมีพิมพ์เล่นของผม มันจะบวมอีกนานไหมวะ มันจะลงไหมนะ เราก็พิมพ์เล่นของเรา เพราะเราก็ไม่รู้ว่าอีก 6 เดือนมันจะคืออะไร”
ไม่อยากทำอะไรเพิ่มแล้ว รอดูอีก 6 เดือน
“ไม่อยากแล้ว เพราะว่าหลักๆ เลยที่บอกคือที่มันมีปัญหาบนใบหน้าเรา คือปากที่มันเป็นติ่ง มันก็หายไปแล้ว มันไม่เป็นติ่งแล้ว แล้วก็จะอย่างที่ผมบอกไปมันก็ต้องรอ มันตอบไม่ได้ เราก็ไม่รู้หรอกว่าอีก 6 เดือนคืออะไร”
หน้าใหม่แต่ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม
“เหมือนเดิม ผมใช้ชีวิตปกติมาก คนก็บอกว่าแล้วออกมาแถลงข่าวทำไมตั้งแต่วันแรกที่หน้าบวมๆ ก็อยากใช้ชีวิตปกติไงครับ อยากจะไปไหนมาไหนแล้วหน้าก็เป็นแบบนี้แค่นั้นเอง”