นครปฐม - 2 นักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ศาลายา ถูกเก๋งซิ่งชนกลางทางม้าลาย อาการยังโคม่า ขณะที่ทางวิทยาลัยนาฏศิลป์ทำการประชาสัมพันธ์โดยใช้เครื่องขยายเสียง และนำธงแดงมาปักให้นักศึกษานักเรียนและประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังเผยห่างจากจุดที่น้องใบหม่อน ถูกชนเสียชีวิตเพียง 300 เมตร
จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Pattarakit Pumpipat” ได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวกว่า 30 วินาที ที่สามารถบันทึกได้จากกล้องติดหน้ารถยนต์เผยให้เห็นอุบัติเหตุรถยนต์ โตโยต้า วีออส ขับขี่ด้วยความเร็ว ปาดหน้ารถคันอื่นจนชนเข้ากับเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์ศาลายา ที่กำลังข้ามถนนบนทางม้าลายใกล้กับแม็คโครศาลายา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลนครปฐม แต่ผู้ขับขี่รถยนต์โตโยต้า วีออส กลับไม่มีน้ำใจลงมาดูอาการ
ล่าสุด วันนี้ (23 ก.ย.) อาการของน้องทั้ง 2 คนอาการยังโคม่า ขณะที่ทางวิทยาลัยนาฏศิลป์ ได้มีการทำประชาสัมพันธ์โดยใช้เครื่องขยายเสียงและนำธงแดงมาเตือนให้นักศึกษา นักเรียน รวมทั้งประชาชนเพื่อความปลอดภัย หลังจากเกิดเหตุเมื่อวานนี้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นอีก
ด้าน ว่าที่ ร.ต.ภัทรกฤษณ์ พุ่มพิพัฒน์ ครูชำนาญการ วิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เผยว่า นักศึกษาทั้ง 2 คน เป็นนักศึกษาของวิทยาลัย เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ระดับ ปวช.เอกการละคร ชื่อ น.ส.ภัชชา คำคู อายุ 16 ปี หรือน้องมดดำ และ น.ส.ภาวิณี แสงศิริ อายุ 16 ปี หรือน้องนีโม่ ซึ่งทั้งคู่ได้เดินกลับจากวิทยาลัยมาที่หน้าห้างแม็คโคร ห่างจากวิทยาลัยประมาณ 300 เมตร โดยได้ข้ามฝั่งจากหน้าแม็คโครเพื่อจะไปฝั่งตรงข้ามฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวกรุงเทพฯ ระหว่างเดินมากับเพื่อนได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า พุ่งมาถึงทางม้าลายและชนน้องทั้ง 2 คน เข้าอย่างแรงจน ร่างจะเป็นตกอยู่กับพื้น
หลังทราบเหตุตนเองได้ออกจากวิทยาลัยเพื่อไปดูอาการ โดยพบว่าทั้งคู่นอนแน่นิ่ง และมีเจ้าหน้าที่ผู้ที่มาช่วยปฐมพยาบาล โดยในที่เกิดเหตุยังพบรถยนต์เก๋งจอดอยู่ริมถนนแต่ไม่ได้ลงมาดู ซึ่งเป็นเองได้เดินไปถามก็ไม่ยอมลงมาอ้างว่าอยู่ในช่วงของการตกใจ แต่มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยมาช่วยดูแลในเหตุการณ์ พร้อมกับร้อยเวรที่กำลังตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พูดเพียงว่า เด็กนักเรียนเดินตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด
ต่อมา ตัวเองได้พบกับผู้ใช้รถใช้ถนนที่มีกล้องหน้ารถและบันทึกภาพที่เกิดเหตุได้ จึงขอภาพมาดู พบว่า รถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับแซงซ้ายแซงขวาก่อนจะมาชนนักเรียนบนทางม้าลายพอดี ซึ่งตนเองได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้นำหลักฐานดังกล่าวไปใช้ประกอบในทางคดีแล้ว
ส่วนในการดูแลรักษา ทางผู้อำนวยการ คณะครูได้ไปดูอาการของน้องทั้ง 2 คน พบว่า น้องพัดชา มีอาการสมองบวมไม่ได้สติ ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม ส่วนน้องภาวิณี หรือน้องนีโม่ มีอาการช้ำทั้งร่างกาย แต่ฟื้นแล้ว รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพุทธมณฑล เบื้องต้น ได้ใช้ประกันของรถยนต์ และมีอีกส่วนประกันภัยของโรงเรียน โดยทางโรงเรียนยืนยันจะดูแลอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ชนน้องใบหม่อน และเสียชีวิตหน้าวิทยาลัย กระทั่งมีการเรียกร้องให้มีการก่อสร้างสะพานลอย
ส่วนการตรวจสอบคนขับขี่ ทราบชื่อคือ นายชตกร ฮวดยิ่ง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/22 ม.2 ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งรถคันที่เกิดเหตุ คือ รถยนต์เก๋งยี่ห้อโคโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ทะเบียน 6 กช 8327 กรุงเทพ ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุได้ขับรถยนต์เพื่อจะไปรับเพื่อนและมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้พุ่งชนคนตามที่ปรากฏดังกล่าว ซึ่งช่วงที่มีการข้ามถนน มีนักศึกษาข้ามถนน 3 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 1 คน โดยจังหวะพุ่งชนน้องผู้ชายได้ดึงตัวน้องภาวิณี หรือนีโม่ ไว้ได้จึงชนไม่หนักแต่น้องภัชชา หรือมดดำ นั้นถูกขนอย่างจังจนอาการสาหัส
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพุทธมณฑลได้มีการบันทึกที่เกิดเหตุ และสอบปากคำผู้ขับขี่ไว้แล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บยังนอนรักษาตัวอาการสาหัสอยู่ที่โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ตอนนี้อยู่ในขั้นรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสไว้ก่อน และได้มีการประสานกับทางญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บไว้แล้วทั้งหมด