แพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความแนะ 5 มาตรการแก่รัฐในการสกัดโควิด-19 ไม่ให้มาระบาดรอบสองในประเทศไทย พร้อมแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อในประเทศเพื่อนบ้าน หวั่นลักลอบเข้าประเทศ
วันนี้ (14 ก.ย.) ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Thira Woratanarat” ระบุถึงความเป็นห่วงสภานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกับฝาก 5 มาตรการสกัดการระบาดรอบที่ 2 ในประเทศไทย โดยหมอธีระได้ระบุข้อความว่า
“สถานการณ์เพื่อนบ้านเราคือเมียนมาร์ (พม่า) น่าเป็นห่วงมาก เมื่อวานติดเพิ่มไปถึง 337 คน หากติดตามมาตลอดเราจะพบว่ายอดติดเชื้อต่อวันมีแนวโน้มสูงขึ้นแบบ exponential...เชื่อว่าเราทุกคนเอาใจช่วยให้เมียนมาร์ควบคุมโรคได้โดยเร็ว ขอเน้นย้ำความสำคัญของมาตรการต่างๆ ที่ประชาชนและรัฐควรทำเพื่อป้องกันการระบาดซ้ำในประเทศ
หนึ่ง จังหวัดชายแดนและข้างเคียง หากเห็นคนต่างด้าวแปลกหน้า ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ทราบและไปตรวจสอบ
สอง เจ้าของครัวเรือน รวมถึงธุรกิจห้างร้านเล็กกลางใหญ่ และโรงงานต่างๆ โปรดคิดไว้ก่อนว่าแรงงานต่างด้าวที่รับเข้ามาทำงานอาจมีการติดเชื้อไวรัสโรค COVID-19 โดยไม่ทราบ หรือไม่มีอาการ ดังนั้นจึงควรส่งไปตรวจคัดกรองที่สถานพยาบาลในพื้นที่ และควรใช้แรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมาย
สาม รัฐควรพัฒนาระบบบริการตรวจ COVID-19 ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองของแต่ละจังหวัด และมีบริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งในสถานพยาบาล รถโมบาย และจุดบริการนอกโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้มากขึ้นง่ายขึ้น โดยให้สามารถเบิกจ่ายได้จากทุกกองทุนสุขภาพและไม่ติดเงื่อนไขว่าต้องมีอาการ
สี่ รัฐควรทบทวนนโยบายการนำเข้ากลุ่มเป้าหมายต่างๆ จากต่างประเทศ โดยเน้นเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานต่างด้าวนั้น ควรพิจารณาปรับให้คนไทยที่กำลังหางานมาทำทดแทนหากเป็นไปได้ เช่น การสอนภาษา ฯลฯ
ห้า สำคัญที่สุดคือ การระงับ ยุติ หรือชะลอการวางแผนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ สถานการณ์ระบาดรุนแรงทั่วโลกเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยุดไปก่อนอย่างน้อย 6 เดือน แล้วค่อยมาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ตอนนี้ในประเทศมีคนติดเชื้อแล้วหลายราย สายพันธุ์ไวรัสเปลี่ยนจากเดิมไปเป็นสายพันธุ์ G ที่แพร่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
โรคนี้ไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่...บางคนพยายามให้ข้อมูลลวงที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ความจริงตอนนี้คือ COVID-19 ติดง่าย ติดไปแล้วกว่า 29 ล้าน ตายไปเกือบ 1,000,000 คนทั่วโลก ที่สำคัญคือ ยังไม่มียารักษามาตรฐาน ไม่มีวัคซีนป้องกัน...ไม่เหมือนไข้หวัดใหญ่ที่มียาและวัคซีน
ดังนั้น ระหว่างที่ทีมงานวิจัยต่างๆ ทั่วโลกกำลังศึกษายาและวัคซีนเพื่อมาใช้เป็นอาวุธสู้กับไวรัส อาวุธเดียวที่เรามีคือ “การป้องกัน”
ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร
พูดน้อยลง พบคนน้อยลง สั้นลง
เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุมที่อโคจร
คอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายให้หยุดเรียนหยุดงานและรีบไปตรวจ จะช่วยตัดวงจรการระบาดได้
ประเทศไทยต้องทำได้”