xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ร่วมฝ่ายปกครอง ความมั่นคง เข้มมาตรการชายแดน ยกระดับสกัดกั้นเชื้อโควิด จากแรงงานต่างด้าว

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กระทรวงสาธารณสุข บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครอง เข้มมาตรการเฝ้าระวังแรงงานลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดน พร้อมยกระดับการสกัดกั้นเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ประเทศไทย จัดรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานลงพื้นที่ชายแดนตรวจหาเชื้อ เฉพาะที่จังหวัดตากเก็บตัวอย่างแล้ว 2,635 ราย พบมีการสวมหน้ากากอนามัยมากกว่าร้อยละ 95         
วันนี้ (9 ก.ย.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  พร้อมด้วย นพ.เอนก มุ่งอ้อมกลาง ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง แถลงข่าวในประเด็นมาตรการควบคุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้าประเทศ โดย นายธนิตพล กล่าวว่า จากกรณีที่พบแรงงานต่างชาติลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ผ่านบริเวณพรมแดนธรรมชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดน ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ด่านควบคุมโรค บูรณาการความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคง ยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันโรคในแรงงานที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่อาจนำเชื้อมาแพร่สู่ประเทศไทยได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมเวชภัณฑ์ อุปกรณ์ป้องกันโรค และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลที่อยู่ในเขตพื้นที่ชายแดน หากพบการระบาดในพื้นที่

นายธนิตพล กล่าวต่อว่า จังหวัดตาก มี 5 อำเภอ เป็นพื้นที่ชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมา) ได้มีมาตรการมาตรการสกัดกั้นแรงงานเข้าเมืองผิดกฎหมาย ดังนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีคำสั่งให้ปิดด่านถาวรทั้ง 2 ด่าน และด่านธรรมชาติ, ให้หน่วยงานในแต่ละพื้นที่ตรวจลาดตะเวนในช่องทางธรรมชาติตลอด 24 ชั่วโมง, ให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่วมกับ อสม. และอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) ค้นหาแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบผ่านช่องทางชายแดน นอกจากนี้ ได้มีมาตรการยับยั้งและป้องกันที่สำคัญ คือ การให้ความรู้ อสต. เรื่องการตรวจคัดกรอง การป้องกันตนเอง รวมทั้งการเฝ้าระวัง ร่วมกับการค้นหาผู้ติดเชื้อและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เชิงรุกแก่ประชาชนในพื้นที่ และจัดสถานที่กักกัน local quarantine สำหรับกักตัว ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ากักตัวจำนวน 18 ราย สะสม 265 ราย 

“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามาตรการของกระทรวงสาธารณสุข สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นวงกว้างได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ความร่วมมือของประชาชน ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ รักษาระยะห่าง ยังจำเป็น หากทุกภาคส่วนร่วมกัน ประเทศไทยและคนไทยจะปลอดภัย” นายธนิตพล กล่าว         

ด้าน นพ.เอนก กล่าวว่า สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กรมควบคุมโรค ได้ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก และหน่วยงานในพื้นที่ นำรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานลงพื้นที่ชายแดนตรวจหาเชื้อเชิงรุก จำนวน 5 คัน เพื่อคัดกรองในเขตพื้นที่ชายแดนจังหวัดตาก พร้อมจัดทีมเคลื่อนที่เร็วกว่า 300 คน สนับสนุนการทำงานในพื้นที่ ลงตรวจหาเชื้อในเขตตะเข็บชายแดนเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการในระหว่างวันที่ 8-9กันยายน 2563 ไปแล้ว 2,635 ราย ในจำนวนนี้ เป็นคนไทย 1,641 ราย ต่างชาติ 994 ราย ซึ่งผลการตรวจเชื้อจะทราบภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนในเขตชายแดนทั้งฝั่งไทยและเมียนมามีการตื่นตัวในการป้องกันโรคเพิ่มขึ้น มีการสวมหน้ากากอนามัย/ผ้ามากกว่าร้อยละ 95         
“การสวมหน้ากากอนามัย/ผ้ามีความสำคัญมาก ช่วยจำกัดตัดตอนการแพร่เชื้อ ส่วนการล้างมือจะช่วยทำลายเชื้อไม่ให้แพร่สู่ผู้อื่นได้” นายแพทย์อเนก กล่าว         

สำหรับสถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น และเข้ากักตัวในสถานกักตัวทางเลือก มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 2 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,286 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.33 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 103 ราย หรือร้อยละ 2.99 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,447 ราย


กำลังโหลดความคิดเห็น