MGR Online - นายอำเภอสระโบสถ์ เรียกชาวหมู่ 3 จ.ลพบุรี ร่วมโต๊ะเคลียร์บริษัทเอกชน ปัญหาสร้างเหมืองแร่หิน ชาวบ้านชี้กระทบวิถีชุมชน แจงยิบไม่ได้ปลอมลายเซ็น ด้านทนายขอโทษยันดำเนินการตามขั้นตอน แห่ชูป้ายตะโกนคัดค้าน ขอบคุณ “ชัช เตาปูน” โดดช่วยเหลือส่งคนร่วมสังเกตการณ์
กรณีชาวบ้านหมู่ 3 ต.มหาโพธิ์ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มหาโพธิ
วันนี้ (10 ก.ย.) ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มหาโพธิ์ จ.ลพบุรี นายอภิชัย ศรีเมือง นายอำเภอสระโบสถ์ ได้ออกหนังสือเรียกชาวบ้านร่วมประชุม เพื่อชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากชาวบ้าน และผู้ประกอบการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ขอสัมปทานบัตร พ.ศ. 2561 ลงวันที่ 18 เม.ย. 2561 โดยมีนายนิรันด์ คำล้าน ปลัดอำเภอสระโบสถ์ รรท.นายอำเภอสระโบสถ์ เป็นประธาน พร้อม น.ส.อภิญญา ชุ่มฤทธื์ ปลัด อบต.มหาโพธิ์ นายสุทัศนัย สุวรรณศิลป์ ทนายความที่ปรึกษากฎหมายบริษัทเหมืองแร่ ในฐานะตัวแทนบริษัทเหมืองแร่ นางสมบูรณ์ ฉิมพลี ชาวบ้านหมู่ 3
นายวรายุทธ์ รักษาทรัพย์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน 10 หมู่บ้าน จำนวน 400 คน เข้าร่วมรับฟังคำชี้แจงจากผู้ประกอบการเหมืองแร่ ได้ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินเพอร์ไลต์ ตามคำขอประทานบัตรที่ 7/2560 หมายเลขหลักเหมืองแร่ที่ 29275 ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.มหาโพธิ์ บรรยากาศในที่ประชุม ชาวบ้านที่มาร่วมฟังต่างชูป้ายข้อความว่า “เราไม่เอาเหมืองแร่” พร้อมตะโกนส่งเสียงคัดค้านตลอดเวลา สุดท้ายทำให้ผลการเจราจาต้องยุติลง ด้วยเหตุที่ชาวบ้านไม่พอใจและไม่ต้องการเหมืองแร่
นางสมบูรณ์กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เห็นด้วยกับการขออนุญาตทำเหมืองแร่ในพื้นที่ดังกล่าว เพราะจะกระทบกับวิถีชีวิตเนื่องจากพื้นที่ในการขออนุญาต ห่างจากหมู่บ้านแค่ 2-3 กม.เท่านั้น ถ้าเกิดมีการทำเหมืองแร่ เวลามีการขนถ่ายสินค้า ก็จะมีรถขนาดใหญ่ทั้งรถ 10 ล้อ และรถพ่วงวิ่งผ่านหมู่บ้าน อาจเกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัย ปัญหาฝุ่นละออง และการคมนาคมไม่สะดวก เพราะบริเวณที่ชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ หากมีการเปิดเหมืองแร่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อวิถีชุมชน วอนนายกรัฐมนตรี ผวจ.ลพบุรี และนายอำเภอ ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการเปิดเหมืองแร่ดังกล่าว
ด้านนายสุทัศนัยกล่าวว่า จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น พบว่า มีชาวบ้านหมู่ 3 ที่ยื่นหนังสือร้องเรียนมานั้น มีการปลอมแปลงลายเซ็นจำนวน 100 ราย แต่การชี้แจงเพื่อหาข้อยุติ ชาวบ้านไม่รับฟังเหตุผลตนต้องขอโทษด้วย หลังจากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอน และส่งหมายเรียกชาวบ้านมาเป็นรายบุคคลต่อไป
ขณะที่นายวรายุทธ์กล่าวว่า หมู่บ้านของเรามีป่าไม้ ภูเขา แม่น้ำ ลำคลอง พวกเราต้องปกป้องรักษาเอาไว้ ส่วนกรณีอ้างว่ามีการปลอมแปลงลายเซ็นนั้น อาจมีลูกหลานของผู้ป่วยติดเตียงซึ่งเซ็นชื่อเองไม่ได้ เลยให้ลูกหลานเซ็นแทนจึงเกิดปัญหาตรงตรงนี้ วันนี้ตนต้องการขอให้มติในที่ประชุมให้จบๆ ไป เพราะชาวบ้านต้องทำมาหากิน จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาเรื่องพวกอีก เพราะยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลานานพอสมควรแล้ว ที่ผ่านมาชาวบ้านหมู่ 3 ต้องขอขอบคุณ นายชัชวาลล์ คงอุดม หรือ “ชัช เตาปูน” หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ช่วยเหลือพวกเราหลังได้รับความเดือดร้อน ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อ นายชัชวาลล์ ด้วยความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงได้ประสานงานทีมทนายความและสื่อมวลชน เดินทางเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการประชุม เพื่อหาข้อยุติการทำเหมืองแร่ดังกล่าวด้วย.