“”
“รังสิมันต์ โรม” แฉเอกสารลับที่ส่งให้ กมธ. “บิ๊กอ๊อด” พา “อ.สายประสิทธิ์” พบตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จนต้องใช้สูตรคำนวณความเร็วเฟอร์รารี่ “บอส อยู่วิทยา” เหลือแค่ 79 กม./ชม. ก่อนสอบปากคำถึง 4 ทุ่ม และให้ลงชื่อในเอกสาร
จากกรณีของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดี “วรยุทธ อยู่วิทยา” ชี้แจงคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ได้รับแรงกดดันจากผู้บัญชาการระดับสูง จนต้องกลับความเห็นความเร็วรถจาก 177 เหลือ 79.22 กม.ต่อชั่วโมง แต่เมื่อพบความผิดพลาดของการคำนวณ 40% จึงพยายามขอแก้ไขในสำนวนแต่ไม่ทัน
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเอกสารที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยื่นต่อคณะกรรมาธิการ ระบุ “เอกสารชี้แจงลำดับเหตการณ์ กรณีคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธ อยู่วิทยา”
จากกรณีของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดี “วรยุทธ อยู่วิทยา” ชี้แจงคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า ได้รับแรงกดดันจากผู้บัญชาการระดับสูง จนต้องกลับความเห็นความเร็วรถจาก 177 เหลือ 79.22 กม.ต่อชั่วโมง แต่เมื่อพบความผิดพลาดของการคำนวณ 40% จึงพยายามขอแก้ไขในสำนวนแต่ไม่ทัน
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นเอกสารที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยื่นต่อคณะกรรมาธิการ ระบุ “เอกสารชี้แจงลำดับเหตการณ์ กรณีคำนวณความเร็วรถ นายวรยุทธ อยู่วิทยา”
ระบุข้อความว่า [เปิดเอกสาร ตัวละครลับผู้พา รศ.ดร.สายประสิทธิ์ มาเจอ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จนทำให้ความเห็นเรื่องความเร็วในคดี บอส อยู่วิทยา เปลี่ยนไป]
เมื่อวานนี้ (13 ส.ค. 2563) ในห้องประชุมกรรมาธิการการกฎหมาย พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ที่เปลี่ยนความเห็น เรื่องความเร็วจาก 177 เหลือ 79.22 กม./ชม. ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้องในคดี บอส อยู่วิทยา
พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ได้กล่าวในห้องประชุมกรรมาธิการฯ ว่า มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงนำตัว รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม มาพบในห้องทำงานของผู้บังคับบัญชาระดับสูงของหน่วย และนำสมมติฐานของคดีว่าเป็นวิธีใหม่ที่คำนวณได้ และนำส่งเอกสาร 10 หน้า ที่ระบุความเร็วที่ 79.22 กม./ชม. ในขณะนั้นเจ้าตัวมีเวลาจำกัด และเกิดแรงกดดันจนทำให้มีการเปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วต่อพนักงานสอบสวน
ทำให้ประเด็นดังกล่าวได้รับความสนใจและถูกตั้งคำถามจากสาธารณชน ว่าใครผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้น
พี่น้องประชาชนครับ คดีนี้เป็นมหากาพย์อันน่าอัปยศในกระบวนการยุติธรรมไทย ยิ่งค้นยิ่งเจอเรื่องแย่ ยิ่งสืบยิ่งเจอคนที่เกี่ยวข้องชนิดที่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะกล้าทำได้ ผมในฐานะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ได้รับเอกสารชี้แจงลำดับเหตุการณ์ กรณีคำนวณความเร็วรถนายวรยุทธ อยู่วิทยา จาก พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ซึ่งได้ระบุชื่อชัดเจนว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนนั้นเป็นใคร
ผมขอสรุปลำดับเหตุการณ์ให้พอสังเขปดังนี้นะครับ
1. พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น (ยศในขณะนั้น) เป็นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุมาตั้งแต่วันเกิดเหตุ 3 กันยายน 2555 และเป็นผู้ออกรายงานการตรวจพิสูจน์ยืนยันความเร็วที่ 177 กม./ชม. ลงวันที่ 26 กันยายน 2555
2. หลังจากนั้นอีก 4 ปี คือ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ ได้เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. และ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ขอเข้าพบ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ที่สำนักงานของ พล.ต.ท.มนูฯ
3. ในวันเดียวกันนั้น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ได้แนะนำ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ให้ผู้แทนกองพิสูจน์หลักฐานกลางทำความรู้จัก และแจ้งว่า รศ.ดร.สายประสิทธิ์ มีสมมติฐานอีกวิธีมานำเสนอการหาอัตราความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธ เป็นผู้ขับขี่ โดยนำเสนอรายงานการวิเคราะห์จำนวน 10 หน้า ระบุความเร็ว 79.22 กม./ชม. และได้มอบเอกสารดังกล่าวให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง
4. ในวันเดียวกันนั้น ได้มีการสั่งการให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ เข้าร่วมพิจารณากับ พ.ต.อ.วิรดล ในสำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่ง พ.ต.อ.วิรดล ได้ส่งเอกสารสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 14 มกราคม 2559 โดยข้อความท้ายหนังสือดังกล่าวระบุว่าให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสอบสวนเพิ่มเติม พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ และส่งผลการสอบสวนให้พนักงานอัยการภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ได้มีการคำนวณความเร็วตามสมมติฐานของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ในกระดาษอีกแผ่นซึ่งได้ค่าใกล้เคียงกัน พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ลงนามไว้ว่าเป็นการคำนวณของตนเอง
5. พร้อมกันนั้น พ.ต.อ.วิรดล ให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ให้ปากคำเรื่องการคำนวณตามสมมติฐานของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ โดยถามถึงความคลาดเคลื่อนที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการคำนวณตามรายงานการตรวจพิสูจน์ เมื่อ 26 กันยายน 2555 ที่ได้ 177 กม./ชม. ซึ่ง พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ได้ให้ปากคำว่าอาจเกิดขึ้นได้ตามหลักทางวิทยาศาสตร์ ส่วนในเรื่องความคลาดเคลื่อนตามสมมติฐานของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ซึ่งในเวลานั้นเพิ่งได้เห็นสมมุติฐานของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เป็นครั้งแรก จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามีความคลาดเคลื่อนหรือความบกพร่องอย่างไร
6. พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ได้ให้ปากคำในวันนั้นจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. สุดท้ายจึงลงนามในเอกสาร 2 ฉบับ ฉบับแรกลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 อีกฉบับลงวันที่ 2 มีนาคม 2559 โดยมีการให้เหตุผลว่าถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการ
7. ต่อมา 29 มีนาคม 2559 พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ นำรายงานการคำนวณของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ มาให้ ร.ต.อ.ชวลิต ร.ต.ท.ปิยวัฒน์ ตรวจสอบ พบว่า การกำหนดให้ค่าตัวแปรต่างๆ ของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ผิดไปจากความเป็นจริงมาก จึงทำให้ความเร็วที่ได้เท่ากับ 79.22 กม./ชม. ซึ่งเป็นค่าคำนวณที่ไม่ถูกต้อง จึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชาขอให้ประสานไปยัง พ.ต.อ.วิรดล ผกก.สอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อขอให้ปากคำเพิ่มเติมยืนยันผลการตรวจพิสูจน์ที่ 177 กม./ชม. ตามรายงานเดิม ซึ่งในวันนั้นผู้บังคับบัญชาได้โทร.ประสาน พ.ต.อ.วิรดลฯ ทันที แต่ พ.ต.อ.วิรดล ปฏิเสธว่าไม่สามารถสอบปากคำเพิ่มเติมได้และได้ส่งเอกสารการให้ปากคำให้กับพนักงานอัยการแล้ว พร้อมทั้งยังได้อ้างเหตุว่าคดีเรื่องขับรถเร็วขาดอายุความไปแล้ว ทำให้ผู้บังคับบัญชา และ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ สำคัญผิดว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกใช้ในสำนวนแล้ว แต่ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ยืนยันกับผู้บังคับบัญชาว่าจะให้ปากคำเพิ่มเติมเพื่อความถูกต้องในสำนวน
8. ต่อมา 21 กรกฎาคม 2559 พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ได้เดินทางไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายกระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ แต่เมื่อไปถึงห้องประชุมได้มีเจ้าหน้าที่สภามาแจ้งว่าขอเลื่อนการประชุมออกไปก่อนและไม่เคยมีใครติดต่อไปจนปัจจุบัน
9. ต่อมา 11 สิงหาคม และ 4 กันยายน 2560 พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เดินทางไปให้ถ้อยคำกับจเรตำรวจและสำนักงาน ป.ป.ช. และได้แจ้งว่าขอเพิ่มเติมความเห็นในกรณีความเร็วของรถ ว่าสามารถพบความบกพร่องของสมมติฐานในการคำนวณความเร็วของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ดังนั้น ความเร็ว 79.22 กม./ชม. จึงไม่ถูกต้อง ซึ่งทั้งมีบันทึกคำให้การถูกคัดถ่ายเป็นสำเนาไว้
โดยสรุป
รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ถูกนำตัวมาพบกับสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ โดยอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ชื่อว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจในขณะนั้น คือ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ พิจารณาสมมติฐานของ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ ซึ่งการสอบปากคำ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ต่อพนักงานสอบสวนเป็นการให้ปากคำในทางวิชาการ แต่ไม่ถือว่าเป็นผลการตรวจพิสูจน์ เพราะยังไม่มีการยกเลิกรายงานการตรวจพิสูจน์เดิมของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง
ดังนั้น ในความเห็นของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ (ยศปัจจุบัน) เขายืนยันว่าไม่ได้กลับคำให้การในเรื่องการคำนวณความเร็วแต่อย่างใด
พี่น้องประชาชนครับ นี่คือ การสรุปข้อเท็จจริงจากเอกสารชี้แจงของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ มีลำดับเหตุการณ์ซึ่งผมได้โพสต์รูปไว้แล้วพี่น้องสามารถอ่านและพิจารณาโดยละเอียดได้
สำหรับตัวผมในฐานะของกรรมาธิการการกฎหมายฯ จะเสนอให้คณะกรรมาธิการได้พิจารณาเชิญบุคลที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายตำรวจระดับสูงหลายคน ตามเอกสารฉบับนี้มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในการประชุมโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ ในลำดับที่ 5 วันที่ 26 ก.พ.2559
5.1 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก. (สอบสวน) สน.ทองหล่อ เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ขอเข้าพบ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐาน หรือ ผบช.สพฐ.ตร. ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร. ชั้น 1 อาคาร 15 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
5.2 โดยผู้แทนของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ประกอบด้วย 1) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง 2) พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นวท.(สบ 4) กคพ.พฐก. และ 3) พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นวท.(สบ 3) กคม.พฐก. เข้าไปพบในช่วงบ่าย ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร. เพื่อร่วมประชุม
5.6 พ.ต.อ.วิรดล ให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ให้ปากคำจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. โดยให้ลงนามเอกสาร 2 ฉบับ โดยฉบับที่ 1 ให้ลงนามวันที่ 26 ก.พ. 2559 และฉบับที่ 2 ให้ลงนามวันที่ 2 มี.ค. 2559 โดยให้เหตุผลว่า ถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการ ซึ่ง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ก้ไม่ได้ท้วงติงอะไร พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ จึงลงนามในเอกสาร
ทั้งนี้ ในลำดับที่ 5 วันที่ 26 ก.พ. 2559
5.1 พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก. (สอบสวน) สน.ทองหล่อ เดินทางมาพร้อมกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ รศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ขอเข้าพบ พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐาน หรือ ผบช.สพฐ.ตร. ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร. ชั้น 1 อาคาร 15 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
5.2 โดยผู้แทนของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ประกอบด้วย 1) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง 2) พ.ต.อ.วิวัฒน์ สิทธิสรเดช นวท.(สบ 4) กคพ.พฐก. และ 3) พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นวท.(สบ 3) กคม.พฐก. เข้าไปพบในช่วงบ่าย ที่สำนักงาน ผบช.สพฐ.ตร. เพื่อร่วมประชุม
5.6 พ.ต.อ.วิรดล ให้ พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ ให้ปากคำจนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. โดยให้ลงนามเอกสาร 2 ฉบับ โดยฉบับที่ 1 ให้ลงนามวันที่ 26 ก.พ. 2559 และฉบับที่ 2 ให้ลงนามวันที่ 2 มี.ค. 2559 โดยให้เหตุผลว่า ถูกเร่งรัดให้รีบดำเนินการ ซึ่ง พ.ต.อ.วิวัฒน์ ก้ไม่ได้ท้วงติงอะไร พ.ต.ท.ธนสิทธิ์ จึงลงนามในเอกสาร