โฆษก ศบค. แถลงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จาก State Quarantine 7 ราย ย้ำเคสระยองความเสี่ยงน้อยมาก ขอให้สบายใจ เคาะกิจกรรมฟุตบอลไทยลีก ออลสตาร์ 8 ส.ค. วิ่งมาราธอน 9 ส.ค. พร้อมเสนอปั่นจักรยานเลียบทะเล คอนเสิร์ตชายหาด สร้างความมั่นใจ เผยการเข้าพักเฉพาะวันนี้ 50% ยืนยันไปจังหวัดอื่นไม่มีการกักตัว เตรียมทำความเข้าใจคำสั่งบางจังหวัด
วันนี้ (18 ก.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ประจำวัน ระบุว่า มีข้อสรุปจากคณะกรรมการวิชาการ พ.ร.บ.โรคติดต่อ แจ้งว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อโควิด-19 คือผู้ที่มีประวัติ สัมผัสใกล้ชิด คลุกคลี หรือพูดคุยกับผู้ป่วย กรณีที่จังหวัดระยองมี 12 ราย กรณีครอบครัวทูตชาวซูดาน 7 ราย สำหรับผู้ที่ไปสถานที่เดียวกับผู้ป่วยคือผู้ที่สัมผัสความเสี่ยงต่ำ ดังนั้นถ้าไปสถานที่เดียวกับผู้ป่วยแต่ไม่ได้พบปะกับผู้ป่วย หรือกลุ่มทหารดังกล่าวขอให้สบายใจว่ามีความเสี่ยน้อยมากที่จะติดเชื้อ หากไม่สบายใจให้เฝ้าสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ หรือมีไข้เป็นเวลา 14 วัน ถ้าใน 14 วันไม่มีอาการก็ปลอดภัย หากมีอาการดังกล่าวให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน และยังคงต้องมีวินัยในพฤติกรรมส่วนบุคคล สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงที่ชุมชนอย่างสม่ำเสมอ
กรณีเด็กหญิงชาวซูดานและบิดาซึ่งเป็นผู้สัมผัส ได้นำไทม์ไลน์ของบิดามาเปรียบเทียบ ส่วนหนึ่งเป็นคอนโดมิเนียม One X อีกส่วนหนึ่งไปเอาของที่สถานทูตซูดาน อาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ ชั้น 22 ใช้เวลาไม่นานนัก เมื่อเทียบกับคนที่ใช้เวลานานจะมีความเสี่ยง ล่าสุดได้รับการตรวจแล้วก็พบว่าไม่พบเชื้อ เพราะฉะนั้นการจะเป็นผู้แพร่เชื้อก็จะลดน้อยลง ส่วนผู้ที่ไปตรวจโดยใช้รถพระราชทานตรวจเชื้อชีวนิรภัย ซึ่งจะมีการตรวจหาเชื้อถึงวันที่ 20 ก.ค. ณ วันที่ 17 ก.ค. ที่จังหวัดระยอง 1,374 ราย ไม่พบเชื้อ 104 ราย รอผล 1,270 ราย ส่วนที่กรุงเทพฯ ปิดเคสเพราะไม่พบเชื้อ รวมทั้งสิ้นตรวจแล้ว 6,051 ตัวอย่าง ในสถานการณ์จังหวัดระยองทุกอย่างปกติ ในวันจันทร์ที่ 20 ก.ค. โรงเรียนที่จังหวัดระยองจะเปิดเกือบทั้งหมด จะปิดเป็นบางห้องซึ่งจะทำความเข้าใจโดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัด จะมีการประชุมปรึกษาพูดคุยกันเพื่อให้ทุกอย่างถูกจำกัดและขีดวง พื้นที่ความเสี่ยงสูงคือโรงแรมดีวารี และห้างแหลมทอง เฉพาะช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และมีเพียงแค่ 12 คน ซึ่งดูแลอย่างใกล้ชิด นอกนั้นเป็นเรื่องที่ปกติ
ผลการประชุม ศบค.ชุดเล็ก กรณีระยอง ที่ประชุมมีความมั่นใจการควบคุมโรคของจังหวัดระยองเต็มที่ ต้องการเห็นภาพการมีกิจการกิจกรรมได้เหมือนเดิม เช่น การเตะฟุตบอลไทยลีก ออลสตาร์ คาดว่าจะเกิดขึ้นวันที่ 8 ส.ค. การวิ่งมาราธอน 2,000 คน วันที่ 9 ส.ค. และทางจังหวัดระยองเสนอกิจกรรมปั่นจักรยานเส้นทาเลียบทะเล ศบค. ชุดเล็กได้ตอบรับและจึงอยากให้ไปทำรายละเอียด คอนเสิร์ตดำเนินการที่ชายหาด มีการออนไลน์ ออนแอร์ ออนไซต์ มีการถ่ายทอดสด ส่วนกองถ่ายภาพยนตร์ได้ติดต่อสัญชาติเกาหลีเอาไว้ และกลุ่มเมดิคอล แอนด์ เวลเนส โปรแกรม จะได้เห็นภาพประมาณปลายเดือนสิงหาคมนี้ เป็นการเสนอระหว่าง ศบค. และจังหวัดระยอง ขอชาวระยองอยากให้เห็นความตื่นตัว แปรเปลี่ยนเป็นโอกาสในเชิงบวก และภาพนี้เกิดขึ้นจังหวัดอื่นโดยเร็วที่สุด สร้างโมเดลเป็นตัวอย่างเรียนรู้ร่วมกัน และขอให้ชาวระยองให้ข้อคิดเห็นและให้ความร่วมมือ เพื่อจะไปสู่ระยะต่างๆ โดยเร็ว การประชุม ศบค. ชุดใหญ่จะเกิดขึ้นวันพุธที่ 22 ก.ค. ส่วนกระทรวงการต่างประเทศประชุมกับนักการทูตในประเทศไทยวานนี้ (17 ก.ค.) แจ้งเรื่องสำคัญจำเป็นในการเดินทางเข้าประเทศไทย กรณี State Quarantine ที่ไม่ใช่ที่พัก ขอความร่วมมือตั้งแต่บัดนี้และติดตามกันไป
สถานการณ์การท่องเที่ยวที่จังหวัดระยองที่การเข้าพักจากตัวเลขลดลงมาก ได้ตรวจสอบ ผอ.ททท.ระยอง พบว่าวันนี้อัตราการเข้าพัก 50% เช่น แหลมแม่พิม 40% หาดแม่รำพึง 20% ขอบคุณประชาชนที่ให้ความมั่นใจ เพราะตีกรอบเฉพาะบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงไม่กี่คน นอกจากนั้นใช้ชีวิตปกติ ไม่มีการล็อกดาวน์ ส่วนคนระยองเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆ ยืนยันว่าไม่มีการกักตัว แต่ให้สังเกตอาการตัวเอง เพราะความเสี่ยงต่ำมาก ส่วนคนที่มาระยองก็ไม่ต้องกักตัว เพราะฉะนั้นคำสั่งแต่ละจังหวัด เช่น จังหวัดสุรินทร์ ลำปาง เชียงราย จะต้องสอดคล้องกับทาง ศบค. ซึ่งฝ่ายปกครองจะปรึกษากับสาธารณสุขต่อไป
ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 7 ราย มาจาก State Quarantine ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,246 ราย ป่วยหายแล้วสะสม 3,096 ราย รักษาอยู่ 92 ราย เสียชีวิต ราย สะสมรวม 58 ราย ผู้เสียชีวิตเป็น ผู้ป่วยรายใหม่ประเทศไทย มาจากสหรัฐอเมริกา 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 64 ปี อาชีพแม่บ้าน มีอาการคอแห้ง และชายไทย อายุ 66 ปี อาชีพข้าราชการบำนาญ มีอาการเสมหะ ส่วนบาห์เรน 2 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง ไม่มีอาการ อียิปต์ 4 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 20, 24 (2 คน) และ 29 ปี มีอาการน้ำมูก ไอ เจ็บคอ รักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ
สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 14,189,018 ราย รักษาตัว 60,142 ราย รักษาหายแล้ว 8,455,165 ราย เสียชีวิต 599,339 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือบราซิล และอินเดีย โดยพบว่าภายใน 5 วัน เพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านราย สถานการณ์โลกตอนนี้ยังถือว่าวิกฤต จึงต้องมีมาตรการคุมเข้มมากๆ สำหรับต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 101 หลายประเทศทางเอเชียมีผู้ป่วยรายใหม่หลักร้อยราย เช่น ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะธุรกิจกลางคืน ซึ่งได้เฝ้าระวัง แต่เชื่อมั่นว่าคนไทยปลอดเชื้อกันอยู่ แต่ภาพของการใกล้ชิดมากๆ ถือว่าสุ่มเสี่ยง
ยังมีการเดินทางของคนไทยและต่างชาติเข้ามาอยู่ ข้อต่อต่างๆ ต้องทำงานอย่างเต็มที่ แต่เป็นไปได้ยากที่จะทำให้ 100% ต้องขอความร่วมมือประชาชนเป็นหูเป็นตาร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางอากาศได้ตรวจเข้ม พยายามทำเต็มที่ ในความเสี่ยงนั้นไม่สามารถการันตีได้ว่าเป็นศูนย์ แต่การเจ็บไข้ได้ป่วยต้องเป็นหลักที่ไม่มาก และสามารถควบคุมโรคได้จริง
ในช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่าข้อกังวลแรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาในประเทศไทย จะคุมเข้มอย่างไร ชี้แจงว่า เมื่อวานนี้มีการเสนอมาตรการ รับทราบว่าจะมีแรงงาน 2 ประเภท คือ มีใบอนุญาตและวีซ่า และไม่มีใบอนุญาต เกี่ยวข้องกับกิจการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น แรงงานก่อสร้าง อีกชุดหนึ่งคือเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร มาตรการก็คือทำให้คล้ายกับมีหนังสือรับรอง และใบรับรองแพทย์ Fit 2 Travel ส่วนผู้ประกอบการจะต้องวางเงินประกัน ส่วนการเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องประทับวีซ่า ตรวจเชื้อโควิด ตรวจสุขภาพ กักตัวแบบ Local Quarantine หรือ Organizational Quaranzine 14 วันและต้องลงแอปฯ ติดตามตัว การทำใบอนุญาตการจ้างงานต้องมีการอบรม มีการรับใบอนุญาตเมื่อครบกำหนดการกักตัว และนายจ้างต้องจัดยานพาหนะมารับแรงงานต่างชาติ ซึ่งนายจ้างจะต้องรายงานให้สาธารณสุขจังหวัดทราบและจัดทำชุดข้อมูลเพื่อตรวจติดตาม เป็นข้อเสนอในที่ประชุมเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ถ้าเข้ามาจำนวนมากๆ อยากจะให้ถูกกฎหมายทั้งหมดและตรวจสอบดูแลได้
ข้อสงสัยว่าจะจัดกิจกรรมกระตุ้นพื้นที่จังหวัดระยอง เช่น การวิ่งมาราธอน การปั่นจักรยาน การแข่งขันฟูตบอลไทยลีก ถ้ามีคนดูได้แบบนี้จังหวัดอื่นจัดได้ไหม ชี้แจงว่า อยากให้กิจการ กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายเกิดขึ้นเร็ว เพื่อให้ประชาชนกลับมาสู่ภาวะปกติตามชีวิตวิถีใหม่ แต่ ศบค. กังวลเพราะเป็นเรื่องใหม่ เป็นการประชุมพูดคุยกัน มีคนเสมอ ทดลองโมเดล เรียนรู้ร่วมกัน ถ้าใช่และเห็นชอบด้วยต้องเก็บเข้ามา จึงต้องใช้พื้นที่หนึ่งในการทำงานตรงนี้ก่อน ที่ระยองถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเยียวยา ดึงความเชื่อมั่น แม้ ณ วันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อ แต่เกิดผลของความตื่นตัว จึงใช้โอกาสทดสอบรูปแบบ ถ้าผู้จัดและประชาชนมั่นใจ เกิดที่จังหวัดไหนก็ได้ ขอให้รอสักนิดหนึ่ง
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ความตื่นตัวเป็นเรื่องที่มีความสำคัญจำเป็นที่เราจะใช้ให้ประโยชน์ แต่ในเชิงการสื่อสารเป็นความยากหากยืนอยู่ตรงนี้ ตนค่อนข้างลำบากใจ ตัวเลขเดิมที่เป็นศูนย์นั้น การรายงานและการสื่อสารต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย ก่อนหน้านี้เราไม่ค่อยรู้จักโรคนี้เลย ใช้เวลา 7 เดือนที่เรารู้เยอะ ประชาชนตื่นตัวมากขึ้น ถือเป็นเรื่องดีแต่ถ้าประชาชนตื่นตระหนกก็เปลี่ยนแปลงการพูดคุยตามสถานการณ์ เหมือนไปหาหมอ ถ้าคนไม่ดูแลสุขภาพ มีความเสี่ยงสูง แพทย์ก็จะแนะนำมากขึ้น แต่ถ้าวิตกกังวลจนย้ำคิดย้ำทำ ก็ต้องผ่อนคลายให้ลดลง การบาลานซ์สองอย่าง ตอนนี้ต้องดูแลอารมณ์ของทั้งสังคม เป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง พยายามปรับตัวและเผชิญหน้ากับโรคนี้ คำว่าการ์ดตกถ้าจำเป็นก็ต้องพูด ถ้าการ์ดตกก็ต้องยกขึ้น แต่ถ้าทำสุขภาพดีแล้วก็ไม่ต้องตื่น สิ่งที่เตือนมีเจตนาให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดี ขอให้ช่วยกันเพื่อให้มีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าวันนี้