โฆษก ศบค.เผยสถานการณ์ท่องเที่ยวระยอง ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวเข้าพักโรงแรมแล้ว 50% เตรียมจัดเตะไทยลีก ออลสตาร์ 8 ส.ค.-วิ่งมาราธอน 9 ส.ค. พร้อมเสนอจัดแข่งขันปั่นจักรยานเส้นทางเลียบทะเล ระบุการทดลองโมเดลกิจการ กิจกรรม จังหวัดระยอง เป็นโอกาสดึงความเชื่อมั่น หวังจัดกิจกรรมที่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป
วันนี้ (18 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์การโควิด-19 ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 7 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,246 ราย หายป่วยสะสม 3,096 ราย รักษาอยู่ 92 ราย ซึ่งไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 58 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 7 ราย โดย 2 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 64 ปี อาชีพแม่บ้าน และชายไทย อายุ 66 ปี อาชีพข้าราชการบำนาญ เดินทางมาจากสหรัฐอเมริกาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 ก.ค. เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐที่ กทม. ผลตรวจพบเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 15 ก.ค. โดยผู้ป่วยหญิงมีอาการคอแห้ง และผู้ป่วยชายมีเสมหะ
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 35 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาจากประเทศบาห์เรน ถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 ก.ค. เข้าพักสถานที่กักตัวของรัฐที่จ.ชลบุรี ผลตรวจพบเชื้อโควิดวันที่ 16 ก.ค.แต่ไม่มีอาการ และรายที่ 4-7 ทั้งหมดเป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 20,24 ( 2 ราย) และอายุ 29 ปี เดินทางมาจากประเทศอียิปต์ ถึงประเทศไทยวันที่ 17 ก.ค. โดยผ่านการคัดกรอง ณ ด่านควบคุมโรค พบว่ามีอากการเข้าเกณฑ์ Pui ผลตรวจพบเชื้อโควิดวันที่ 17 ก.ค. ส่งตัวไปเข้าการรักษาที่โรงพยาบาลในจ.สมุทรปราการ พบว่ามีอาการนำมูก ไอและเจ็บคอ สำหรับสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 14,189,018 ราย รักษาหายแล้ว 8,455,165 ราย เสียชีวิต 599,339 ราย โดยจะเห็นว่าจากวันที่ 13 ก.ค.ที่มีผู้ติดเชื้อ 13 ล้านคน วันที่ 18 ก.ค.ตัวเลขขยับไปถึง 14 ล้านคน เพียง 5 วันตัวเลขสูงขึ้นไป 1 ล้านคนถือว่าเร็วมาก สถานการณ์โลกยังวิกฤตเราจึงต้องคุมเข้มคนที่จะเดินทางมาประเทศไทย โดยจะปิดข้อต่อต่างๆ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างเต็มที่
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ความคืบหน้าผู้ป่วยทหารชาวอียิปต์และเด็กหญิงซูดานนั้น ล่าสุดคณะกรรมการวิชาการของพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงจะได้รับการแพร่เชื้อคือผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยเท่านั้น กรณีทหารอียิปต์ที่ จ.ระยองมี 12 คน กรณีเด็กหญิงซูดานมี 7 คน ส่วนผู้ที่ไปสถานที่เดียวกับทั้งสองกรณีถือเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ หากไม่สบายใจก็ให้สังเกตอาการ14วันถ้าไม่มีอะไรผิดปกติถือว่าปลอดภัย หากพบอาการผิดปกติบ่งชี้ให้รีบไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน และขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ ที่ จ.ระยอง ถือว่าเริ่มกลับมาแล้ว วันจันทร์ที่ 20 ก.ค.โรงเรียนจะเปิดเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่การท่องเที่ยว จ.ระยอง จากข่าวที่ออกมาว่ามีคนยกเลิกการเดินทางเกือบทั้งหมดนั้น จากการตรวจสอบล่าสุดอัตราการเข้าพักรวม 50 เปอร์เซ็นต์ แหลมแม่พิมพ์อัตราการเข้าพัก 40 เปอร์เซ็นต์ หาดแม่รำพึง 20 เปอร์เซ็นต์
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า และในการประชุม ศบค.ชุดเล็กวันนี้ได้พูดถึงทั้งสองกรณี เช่นกรณีที่ จ.ระยอง ที่ประชุมมีความมั่นใจในการควบคุมโรคของทาง จ.ระยองเต็มที่ และคนในพื้นที่ จ.ระยอง และคนที่เดินทางไปท่องเที่ยวหากเดินทาไปจังหวัดอื่น จากข้อมูลทางวิชาการและการพิจารณาการบริหารจัดการเห็นตรงกันว่าคนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องกักตัว ทั้งนี้ อยากเห็นกิจกรรมต่างๆ กลับมาเหมือนเดิม เราจึงร่างรูปแบบกิจกรรมโดยกิจกรรมที่เราจะให้เปิดดำเนินการเช่น การเตะฟุตบอลไทยลีกออลสตาร์จะมีขึ้นวันที่ 8 ส.ค. การวิ่งมาราธอนของทางจังหวัดมีขึ้นวันที่ 9 ส.ค. และขณะนี้เริ่มมีกองถ่ายจากประเทศเกาหลีติดต่อเข้าใช้พื้นที่แล้ว และทางจังหวัดยังได้เสนอกิจกรรมปั่นจักรยานเรียบทะเล ทาง ศบค.ชุดเล็กจึงให้ไปทำรายละเอียดเสนอเข้ามา พร้อมกันนี้ในส่วนของผู้ที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อเสริมความงามและปรึกษาเรื่องการมีบุตร เราจะนำเสนอให้ไปท่องเที่ยวต่อ จ.ระยอง ช่วงปลายเดือน ส.ค. ซึ่งร่างกิจกรรมเหล่านี้จะเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 22 ก.ค. ตนอยากสื่อสารไปยังคนระยองและผู้ที่เดินทางไป จ.ระยอง หากมีความเห็นอะไรให้เสนอเข้ามา เราอยากเห็นความตื่นตัวที่เปลี่ยนเป็นกิจกรรมเชิงบวก เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาโดยเร็ว เราจะรับฟังข้อเสนอต่างๆ เพื่อทำให้มีจุดอ่อนน้อยที่สุด
นพ.ทวีศลป์กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศประชุมร่วมกับนักการทูต ชี้แจงความจำเป็นที่ต้องขอความร่วมมือให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาให้อยู่ในสเตทควอรันทีนที่รัฐรับรองแทนการกักตัวในสถานที่พำนักของสถานทูตซึ่งจะมีผลในทันที
เมื่อถามถึงข้อกังวลเรื่องแรงงานต่างด้าว ที่อาจนำเข้าเชื้อมาภายในประเทศ ศบค.จะวางมาตรการเข้มอย่างไร นพ.ทวี ศิลป์กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการผ่อนคลาย ได้มีการพูดคุยกันถึงการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ซึ่งได้มีการจัดทำร่างขึ้นมาก่อนที่จะนำเสนอต่อ ศบค.ชุดใหญ่ ทั้งนี้ เรารับทราบถึงความจำเป็นต้องมีกลุ่มแรงงาน 2 ประเภท คือ กลุ่มที่มีใบอนุญาตในการทำงาน มีวีซ่าแล้ว รอการเดินทางเข้ามา กับกลุ่มที่ยังไม่มีใบอนุญาต ซึ่งถือเป็น 2 กลุ่มสำคัญ มีความจำเป็นเกี่ยวข้องกับกิจการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหารซึ่งจำเป็นต้องใช้แรงงานจึงอนุญาตให้สองกลุ่มแรงงานนี้เข้ามาก่อน ทั้งนี้ เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วก็จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่เคยทำมา คือ 1. จะต้องมีหนังสือรับรองในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร 2. ต้องมีใบรับรองแพทย์ 3. ผู้ประกอบการจะต้องมีการวางเงินประกันค่าใช้จ่ายของแรงงานที่เข้ามา
“การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรก็จะต้องมีการแสตมป์วีซ่า มีการตรวจหาเชื้อโควิด มีการตรวจสุขภาพ ต้องเข้าสู่ Local Quarantine จำนวน 14 วัน และต้องมีการลงแอพติดตามตัวโดยทุกคนต้องผ่านกระบวนการเหล่านี้ทั้งหมด ในส่วนของการทำใบอนุญาตการใจงานก็ต้องมีการอบรมมีการรับใบอนุญาตและเมื่อครบกำหนดการกักตัวนายจ้างจะต้องนำยานพาหนะมารับรายงานทั้งหมดได้กำหนดเป็นร่างขึ้นมา โดยมีการนำเสนอและพูดคุยกัน ซึ่งเมื่อครบทั้งหมดแล้วหลายจ้าจะรับตัวไปทำงานก็ต้องมีการรายงานในพื้นที่ต่อสาธารณสุขจังหวัดให้ทราบจากนั้นสาธารณสุขจังหวัดก็ต้องจัดทำชุดข้อมูลในการตรวจติดตามกรณีที่อาจเกิดประเด็นปัญหาด้านสุขภาพ ทั้งหมดเป็นข้อเสนอจากที่ประชุมเพื่อให้เกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งเพราะถ้ามีการเข้ามาจำนวนมากๆ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อรับรองมาตรการต่อไปเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนชาวไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จังหวัดระยองไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน การวิ่งมาราธอน การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก เพื่อเป็นการกระตุ้นพื้นที่ระยอง กรณีในพื้นที่จังหวัดอื่นจะสามารถจัดกิจกรรมเหล่านี้ได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค.ต้องการให้กิจกรรมต่างๆ หลังมาตรการผ่อนคลายเกิดขึ้นจริงโดยเร็วเพื่อที่ประชาชนจะได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติในวิถีใหม่ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ศบค.มีความกังวลว่ารูปแบบที่จะเกิดขึ้นจะเป็นอย่างไร วันนี้เราต้องเรียนรู้ร่วมกันใหม่ เป็นไปได้อยากให้เกิดในพื้นที่หนึ่งเสียก่อน เพื่อจะได้เรียนรู้ร่วมกันเพื่อให้เกิดความมั่นใจ
“ผมประชุมอยู่ใน ศบค. ยอมรับว่านึกภาพไม่ออกว่าวิธีการใหม่จะเป็นอย่างไร ดังนั้นเราต้องมีการประชุม พูดคุยกันมีการนำเสนอและทดลองโมเดลโดยเรียนรู้ร่วมกัน ถ้าใช่ คนมาเที่ยวมาดูคอนเสิร์ต คนมาแข่งหรือชมกีฬา ชอบและมีอารมณ์ร่วมเหมือนเดิม นักกีฬาก็ปลอดภัย คนเข้ามาดูก็ปลอดภัย ก็ควรใช้พื้นที่หนึ่งในการทำงานก่อน โดย
จังหวัดระยองได้ถูกหยิบยกขึ้นมาเพื่อเป็นโอกาสในการเยียวยาและดึงความเชื่อมั่น แม้วันนี้จะยังไม่มีคนติดเชื้อก็ตาม จึงเป็นโอกาสในการทดสอบรูปแบบการทำกิจการหรือกิจกรรมที่ยังไม่เคยทำ ถ้าผ่านเรื่องนี้ไปได้ ประเมินผลในจังหวัดมีความมั่นใจ ผู้จัดมั่นใจ ประชาชนที่เข้ามามีความมั่นใจ ต่อไปจะเกิดขึ้นที่จังหวัดใดก็ได้แล้ว เป็นเรื่องที่จะค่อยๆทดลอง และผ่อน ขอให้รออีกระยะจะได้กลับมาสนุกสนานเช่นเดิม” นพ.ทวีศิลป์กล่าว
ในช่วงท้าย โฆษก ศบค.กล่าวว่า ในเรื่องความตื่นตัวนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นที่เราจะได้ใช้ให้เป็นประโยชน์ ขณะเดียวกันหลายคนก็เกิดความสงสัยโดยเฉพาะการชี้แจงจาก ศบค. ซึ่งเป็นเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งมีความยาก ตนในฐานะโฆษก ศบค.ก็มีความลำบากใจ เหมือนตัวเลขการติดเชื้อที่เป็นศูนย์ปัจจุบันก็ไม่ได้มีการนำมาพูดอย่างภาคภูมิใจ เพราะการสื่อสารรายงานข้อมูลต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย ช่วงแรกเราต้องสร้างความตื่นตัวเนื่องจากเป็นโรคอุบัติใหม่แต่ถ้ามากเกินไปก็จะกลายเป็นความตื่นตระหนก ก็ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการในการสื่อสาร ตนในฐานะจิตแพทย์ บางครั้งก็ต้องผ่อนคลายให้กับผู้ที่มีความกังวลบางครั้งถ้าปล่อยไปก็จะวิตกกังวลมากเกินไปจนทำให้ไม่สามารถจะกลับมาเป็นปกติได้ อย่าลืมว่าวันนี้เราต้องดูแลอารมณ์คนทั้งสังคมเป็นความท้าทาย จะต้องทำหน้าที่กันให้ดีที่สุด หลายอย่างต้นก็เพิ่งรู้หลายอย่างรู้กันมานานแล้วจึงต้องพยายามปรับตัวและทำให้ได้กับการเผชิญโรคนี้อีกเป็นปีให้ได้
“หลายคนเฝ้าดูว่าเมื่อไหร่ผมจะพูดคำว่าการ์ดตก หรือการ์ดอย่าตกอีก วันนี้ถ้าจำเป็นก็ต้องพูด ถ้าท่านการ์ดตกเราก็ต้องยกขึ้น เหมือนคนบางคนฝนตกเป็นภูมิแพ้แต่ก็ยังไปเดินตากฝน หมอก็ต้องเตือน แต่ถ้ารักษาสุขภาพดีอยู่แล้วเราก็ไม่ต้องเตือน สิ่งที่ทำทั้งหมดก็เป็นเจตนาเพื่อให้คนทั้ง 67 ล้านคนดูแลสุขภาพเป็นอย่างดีและผลที่ออกมาทุกคนก็มีสุขภาพแข็งแรงมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่เพิ่มขึ้นเพราะทุกคนมีใจร่วมกันต่อสู้ ดังนั้นหนักนิดเบาหน่อยขอทุกคนช่วยกันเพื่อเราได้มีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าวันนี้” นพ.ทวีศิลป์กล่าว