เพจ “Sean Buranahiran - ฌอน บูรณะหิรัญ” ชี้แจงกรณีหลังถูกทีมอาสาร่วมดับไฟป่าเชียงใหม่ ฝากเพจสายดาร์กอย่าง “แหม่มโพธิ์ดำ” ถามหาเงินบริจาคที่หายไป ล่าสุดไลฟ์โค้ชชื่อดังออกมาชี้แจงว่านำเงินช่วยแก้ปัญหาวิกฤตไฟป่า และ Covid-19 ยืนยันลงพื้นที่จริง พร้อมโชว์ใบเสร็จในการซื้ออุปกรณ์ต่างๆ
จากกรณี “ฌอน บูรณะหิรัญ” ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ถูกทีมอาสาร่วมดับไฟป่าที่เชียงใหม่ ฝากเพจสายดาร์ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ถามหาเงินบริจาคที่หายไป ระบุเปิดรับบริจาคใหญ่โต คนแชร์เพียบ กดไลก์เป็นแสน แต่ไม่เคยมีการเปิดเผยยอดบริจาค และไม่เคยได้รับสิ่งของจากฌอนเลย (อ่านข่าวเพิ่มเติม : ทัวร์ลงซ้ำ! "แหม่มโพธิ์ดำ" แฉ "ฌอน บูรณะหิรัญ" รับบริจาคช่วยดับไฟป่า แต่ จนท. ไม่เคยได้)
ล่าสุด วันนี้ (27 มิ.ย.) เพจ “Sean Buranahiran - ฌอน บูรณะหิรัญ” ออกมาโพสต์รูปภาพพร้อมชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น เผยว่า ยอดบริจาคจากแฟนเพจเพื่อช่วยแก้ปัญหามี 2 วิกฤต โดยผู้โพสต์ระบุว่า “สรุปยอดบริจาคที่ฌอน บูรณะหิรัญได้รับ จากแฟนเพจที่ไว้วางใจเพื่อช่วยแก้ปัญหาวิกฤต มี 2 วาระคือ 1. ด้านไฟป่า 2. เรื่องไวรัส Covid-19 แจกแจงรายละเอียดในช่วงการรับบริจาค ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม 2563 จนถึง 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
ทุกกระบวนการมีการตรวจสอบตั้งแต่เดือนที่แล้ว ฌอน บูรณะหิรัญ ได้แสดงหลักฐานพร้อมความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา ยอดบริจาคจากผู้ติดตาม [ตั้งแต่ 30 มี.ค.- ปิดรับบริจาค 1 พ.ค. ] เป็นจำนวนเงิน 875,741.53 บาท แนวทางการดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยครอบคลุมทั้ง 3 ส่วน คือ กำลังสมอง กำลังคน และกำลังทรัพย์ ดังนี้
1. เรียนรู้ ทำความเข้าใจปัญหาจากราก จากทุกฝ่าย ทั้งทางเอกชน หน่วยงานราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กรมป่าไม้ ชาวเผ่าประกาเกอะญอ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ (ระยะเวลาในการดำเนินการคาดว่า 2 ปีขึ้นไป ใช้งบประมาณส่วนตัวในการดำเนินการ และเดินทางมาโดยตลอด)
2. ทำสื่อเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เผยแพร่ความรู้ และนำเสนอแนวทางผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นๆ เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และยูทูป ฌอน บูรณะหิรัญ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ทีมงาน ตัดต่อ และโปรโมตโพสต์ มูลค่า 254,516.53 บาท สำหรับ 2 คลิปที่เกี่ยวข้องกับการบริจาค ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเชิงนโยบายมาลงพื้นที่ เกิดความตระหนักรู้ในวงกว้าง อันจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ทำให้ผู้รับชมได้นำไปต่อยอดเรียนรู้ ช่วยเหลือปัญหาในแบบของตัวเอง (ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ใช้พลังทรัพย์ส่วนตัวในการผลิตสื่อเชิงสร้างสรรค์ให้ผู้ชมได้รับชมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาตลอดระยะเวลา 4 ปี และ ยังจะทำต่อเนื่องแม้ว่าปิดการรับบริจาคแล้ว)
3. ลงพื้นที่ บริจาคกำลังทรัพย์ ช่วยเหลือเร่งด่วน
3.1 ส่งทีมงานไปเป็นอาสาสมัครร่วมกับจิตอาสาในพื้นที่รอบเชียงใหม่ วัดผาลาด, ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ (ส่งอาสาสมัครไปบริจาคเจลล้างมือ หน้ากาก ในช่วง Covid-19 เป็นช่วงรักษาระยะห่าง ทางสังคม covid-19 และไม่มีการเก็บภาพใดๆ (ใบเสร็จต่างๆในการซื้ออุปกรณ์อยู่ในอัลบั้มรูปนี้)
3.2 ส่งตัวแทนบริจาคเป็นสิ่งของตามที่โรงพยาบาลและหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ ที่ขอความอนุเคราะห์เข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร มูลค่า 621,225 บาท (มีใบเสร็จทั้งหมดและเอกสารขอบคุณ) + ค่าขนส่งเอกชน 5,000 บาท
3.3 บริจาคด้วยเงินส่วนตัวด้านอาหารสำหรับผู้ขาดแคลนในเชียงใหม่ที่ต้องเจอทั้งสองวิกฤตในคราวเดียวกัน จำนวน 100,000 บาท (อุดหนุนร้านในท้องถิ่นและดำเนินการแจกจ่าย ทั้งออกนามและไม่ออกนาม ในวันที่ 29 เม.ย. - 17 มี.ค.ที่ผ่านมา)
ตัวอย่างการลงพื้นที่เรียนรู้เพื่อร่วมแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนที่ผ่านมาของฌอน บูรณะหิรัญ
- 19 เม.ย. อำเภอสะเมิงใต้ จังหวัดเชียงใหม่ กับชนเผ่าประกาเกอะญอ และมีการวางแผนที่จะไปเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไร่หมุนเวียนอีกในอนาคตเรียบร้อยแล้ว
- ร่วมทีมทำสารคดี กับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านในประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นมา เพื่อผลิตสื่อเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ นำเสนอวิธีการที่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ประสบปัญหา เช่น เกษตรทฤษฎีใหม่, ไร่หมุนเวียน, ปัญหา PM 2.5, ปัญหาขยะ, ปัญหาด้านไฟป่า (ทำมาอย่างต่อเนื่อง 1 ปี และจะทำต่อไปแม้ปิดรับบริจาคแล้ว)
- 29 เม.ย. แจกอาหารให้ชาวเชียงใหม่ ที่ Bronco Kids มูลค่า: 30,000 บาท
- 4 พ.ค. ศึกษาดูงาน ณ ฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และจะเดินทางไปอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเป็นงานจิตอาสาไม่ได้รับค่าจ้างใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงโครงการอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังเข้าร่วม
สำหรับสื่อที่นำเสนอข่าวนี้ ผมเข้าใจคุณ ผมรู้ว่าคุณก็กำลังทำเพื่อสังคมเช่นกัน หากมีโอกาสในอนาคตที่เราจะร่วมมือกันในทางใดทางหนึ่งได้ ผมยินดีเสมอและไม่ถือสาใดๆ ครับ ผมดีใจที่สื่อต่างๆ รับรู้ถึงวิกฤตเหล่านี้ในประเทศเพราะเราสูญเสียชีวิตไปมากมาย โดยเฉพาะเรื่องไฟป่า มลพิษเกิดขึ้น ซ้ำกว่า 10 ปี PM 2.5 ที่ขึ้นอันดับ 1 ของโลกที่เชียงใหม่ ส่งผลกระทบ ต่อนักศึกษาให้ต้องหยุดโรงเรียน มหาวิทยาลัยทุกปี และผลกระทบอื่นๆ อีกมากที่กล่าวไม่หมด
ทั้งนี้ ผมและทีมงานจะยังยืนยันที่จะเรียนรู้ให้ลึก ให้กว้างขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน เพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาในระยะยาวให้ประเทศไทยร่วมกับทุกฝ่ายโดยปราศจากอคติ และ มีเจตนาบริสุทธิ์ต่อไปครับ
ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มีให้พวกเรามาโดยตลอดครับ นี่ไม่ใช่จุดจบ เพราะไฟป่าเกิดขึ้นทุกปี คนเสียชีวิตทุกปี สถานศึกษาต้องปิดทุกปี เด็ก เยาวชนต้องหายใจเอามลพิษเข้าปอดทุกปี ผมดีใจที่ทั้งประเทศรับรู้ถึงเรื่องนี้หวังว่าทุกคนจะคอยช่วยกันในรูปแบบของตนเองอีกครั้งในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคมปีหน้านะครับ”