xs
xsm
sm
md
lg

'ฌอน บูรณะหิรัญ'แจงปมเงินบริจาคดับไฟป่า พร้อมโชว์หลักฐาน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จากกรณีแหม่มโพธิ์ดำ เปิดข้อความจากทีมอาสาดับไฟป่า ฝากถึง ฌอน บูรณะหิรัญ ตั้งข้อสงสัยกรณีเปิดรับเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่

ล่าสุดเฟซบุ๊ก Sean Buranahiran - ฌอน บูรณะหิรัญ โพสต์ข้อความระบุว่า สรุปยอดบริจาคที่ฌอน บูรณะหิรัญได้รับ จากแฟนเพจที่ไว้วางใจเพื่อช่วยแก้ปัญหาวิกฤติ มี 2 วาระคือ 1.ด้านไฟป่า 2.เรื่องไวรัส Covid-19 แจกแจงรายละเอียดในช่วงการรับบริจาค ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.2563 จนถึง 1 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

ทุกกระบวนการมีการตรวจสอบตั้งแต่เดือนที่แล้ว ฌอน บูรณะหิรัญ ได้แสดงหลักฐานพร้อมความบริสุทธิ์ใจ ต่อเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563ที่ผ่านมา ยอดบริจาคจากผู้ติดตาม
[ตั้งแต่ 30 มี.ค.- ปิดรับบริจาค 1 พ.ค ]
เป็นจำนวนเงิน 875,741.53 บาท แนวทางการดำเนินการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน
โดยครอบคลุมทั้ง 3 ส่วนคือ กำลังสมอง กำลังคน และ กำลังทรัพย์ ดังนี้

1.เรียนรู้ ทำความเข้าใจปัญหาจากราก จากทุกฝ่าย ทั้งทางเอกชน หน่วยงานราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กรมป่าไม้ ชาวเผ่าประกาเกอะญอ และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ( ระยะเวลาในการดำเนินการคาดว่า 2 ปีขึ้นไป ใช้งบประมาณส่วนตัวในการดำเนินการ และเดินทางมาโดยตลอด )

2.ทำสื่อเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เผยแพร่ความรู้ และนำเสนอแนวทางผู้เชี่ยวชาญทางด้านนั้นๆ เผยแพร่ทางเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม และ ยูทูป ฌอน บูรณะหิรัญ (ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ทีมงาน ตัดต่อ และโปรโมทโพสต์ มูลค่า 254,516.53บาทสำหรับ 2 คลิปที่เกี่ยวข้องกับการบริจาค) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเชิงนโยบายมาลงพื้นที่ เกิดความตระหนักรู้ในวงกว้าง อันจะเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ทำให้ผู้รับชมได้นำไปต่อยอดเรียนรู้ ช่วยเหลือปัญหาในแบบของตัวเอง

(ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ใช้พลังทรัพย์ส่วนตัวในการผลิตสื่อเชิงสร้างสรรค์ให้ผู้ชมได้รับชมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาตลอดระยะเวลา 4 ปี และ ยังจะทำต่อเนื่องแม้ว่าปิดการรับบริจาคแล้ว )

3.ลงพื้นที่ บริจาคกำลังทรัพย์ ช่วยเหลือเร่งด่วน

3.1 ส่งทีมงานไปเป็นอาสาสมัครร่วมกับจิตอาสาในพื้นที่รอบเชียงใหม่ วัดผาลาด , ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ (ส่งอาสาสมัครไปบริจาคเจลล้างมือ หน้ากาก ในช่วงCovid-19 เป็นช่วงรักษาระยะห่าง ทางสังคม covid 19 และไม่มีการเก็บภาพใดๆ (ใบเสร็จต่างๆในการซื้ออุปกรณ์อยู่ในอัลบั้มรูปนี้)

3.2 ส่งตัวแทนบริจาคเป็นสิ่งของตามที่โรงพยาบาลและหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ ที่ขอความอนุเคราะห์เข้ามาเป็นลายลักษณ์อักษร มูลค่า 621,225 บาท (มีใบเสร็จทั้งหมดและเอกสารขอบคุณ) + ค่าขนส่งเอกชน 5,000 บาท

3.3 บริจาคด้วยเงินส่วนตัวด้านอาหารสำหรับผู้คลาดแคลนในเชียงใหม่ที่ต้องเจอทั้งสองวิกฤติในคราวเดียวกัน จำนวน 100,000 บาท (อุดหนุนร้านในท้องถิ่นและดำเนินการแจกจ่าย ทั้งออกนามและไม่ออกนาม ในวันที่ 29 เม.ย. -17มี.ค.ที่ผ่านมา)
 
ตัวอย่างการลงพื้นที่เรียนรู้เพื่อร่วมแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนที่ผ่านมาของฌอน บูรณะหิรัญ

- 19 เม.ย. อำเภอสะเมิงใต้ จังหวัดเชียงใหม่ กับชนเผ่าประกาเกอะญอ และ มีการวางแผนที่จะไปเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไร่หมุนเวียนอีกในอนาคตเรียบร้อยแล้ว

-ร่วมทีมทำสารคดี กับผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านในประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นมา เพื่อผลิตสื่อเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ นำเสนอวิธีการที่เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ประสบปัญหา เช่น เกษตรทฤษฎีใหม่ ,ไร่หมุนเวียน,ปัญหาPM2.5 , ปัญหาขยะ, ปัญหาด้านไฟป่า (ทำมาอย่างต่อเนื่อง1ปี และ จะทำต่อไปแม้ปิดรับบริจาคแล้ว)

- 29 เม.ย. แจกอาหารให้ชาวเชียงใหม่ ที่ Bronco Kids มูลค่า: 30,000 บาท

- 4 พ.ค. ศึกษาดูงาน ณ ฟาร์มตัวอย่างต้านภัยโควิด

อำเภอ จอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และจะเดินทางไปอีกครั้งในเดือน กรกฎาคมนี้ โดยเป็นงานจิตอาสาไม่ได้รับค่าจ้างใดๆทั้งสิ้น
รวมถึงโครงการอื่นๆอีกมากมายที่กำลังเข้าร่วม

สำหรับสื่อที่นำเสนอข่าวนี้
ผมเข้าใจคุณ
ผมรู้ว่าคุณก็กำลังทำเพื่อสังคมเช่นกัน
หากมีโอกาสในอนาคตที่เราจะร่วมมือกันในทางใดทางหนึ่งได้
ผมยินดีเสมอและไม่ถือสาใดๆครับ

ผมดีใจที่สื่อต่างๆ รับรู้ถึงวิกฤติเหล่านี้ในประเทศเพราะเราสูญเสียชีวิตไปมากมาย โดยเฉพาะเรื่องไฟป่า มลพิษเกิดขึ้น ซ้ำกว่า10ปี PM2.5ที่ขึ้นอันดับ 1ของโลกที่เชียงใหม่ ส่งผลกระทบ ต่อนักศึกษาให้ต้องหยุดโรงเรียน มหาวิทยาลัยทุกปี และ ผลกระทบอื่นๆอีกมากที่กล่าวไม่หมด

ทั้งนี้ผมและทีมงานจะยังยืนยันที่จะเรียนรู้ให้ลึก ให้กว้างขึ้นจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละด้าน เพื่อช่วยสิ่งแวดล้อม แก้ปัญหาในระยะยาวให้ประเทศไทยร่วมกับทุกฝ่ายโดยปราศจากอคติ และ มีเจตนาบริสุทธิ์ต่อไปครับ

ขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มีให้พวกเรามาโดยตลอดครับ

นี่ไม่ใช่จุดจบ
เพราะไฟป่าเกิดขึ้นทุกปี คนเสียชีวิตทุกปี
สถานศึกษาต้องปิดทุกปี
เด็ก เยาวชนต้องหายใจเอามลพิษเข้าปอดทุกปี
ผมดีใจที่ทั้งประเทศรับรู้ถึงเรื่องนี้
หวังว่าทุกคนจะคอยช่วยกันในรูปแบบของตนเองอีกครั้งในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ มีนาคมปีหน้านะครับ