กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม
จัดโครงการประกวดทำคลิปเผยแพร่ “มารยาทไทย แก้ไขปัญหาจราจร” ในหัวข้อ “สัญจรดี วิถีไทย” ชิงทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม จัดการประกวดทำคลิปเผยแพร่ “มารยาทไทย แก้ไขปัญหาจราจร” ในหัวข้อ “สัญจรดี วิถีไทย” ชิงทุนการศึกษามูลค่ารวมกว่า 600,000 บาท เพื่อปลูกจิตสำนึกให้คนรุ่นใหม่และประชาชนทั่วไปให้ความสำคัญกับมารยาทไทยและวินัยจราจร เปิดโอกาสให้ได้มีการใช้พื้นที่การแสดงออกทางความรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์บนโลกโซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และเพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงการใช้มารยาทไทยแก้ไขปัญหาจราจร
น.ส.อัจฉราพร พงษ์ฉวี รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า “โครงการจัดการประกวดทำคลิปเผยแพร่ “มารยาทไทย แก้ไขปัญหาจราจร” ในหัวข้อ “สัญจรดี วิถีไทย” เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐหลายภาคส่วน เพื่อที่จะให้การสร้างวินัยการจราจรเป็นวาระแห่งชาติ ความเร่งรีบต่างๆ ทำให้คนทะเลาะเบาะแว้งกัน การขาดน้ำใจไมตรีบนท้องถนน บางส่วนไม่เคารพกฎจราจร โดยเฉพาะการใช้สื่อโซเซียลเผยแพร่ความไม่เหมาะสมต่างๆ จากปัญหาที่เกิดขึ้นภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพยายามบูรณาการร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ความร่วมมือปลุกจิตสำนึกการใช้รถใช้ถนน นำความเป็นไทย สร้างวินัยจราจรให้สังคมเร่งจัดทำแนวทางกิจกรรมการรณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สร้างวินัยจราจรในระดับชาติ ประชาสัมพันธ์สร้าง ความรู้ความเข้าใจ ให้ประชาชนตระหนักและเห็นคุณค่าในการใช้รถใช้ถนนด้วยความปลอดภัย มีจิตสำนึก รับผิดชอบ มีน้ำใจ และเอื้ออาทรให้แก่กันบนท้องถนน มีมารยาทที่ดีในการขับขี่ยานพาหนะ กระตุ้นจิตสำนึก โดยใช้มารยาทไทยควบคู่กับวินัยจราจร มีน้ำใจไมตรี และการไหว้ขอบคุณและขอโทษ ซึ่งกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเคยรณณรงค์ในเรื่องนี้มาแล้ว การรณรงค์เรื่องวินัยจราจรให้เป็นรูปธรรม ต้องอาศัยเวลาแต่ถ้าทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เชื่อว่าจะสำเร็จผลอย่างยั่งยืน โดยโครงการจัดการประกวดทำคลิปเผยแพร่ “มารยาทไทย แก้ไขปัญหาจราจร” ในหัวข้อ “สัญจรดี วิถีไทย” นั้น จะมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านสื่อและช่องทางต่างๆ อยากให้น้องๆที่สนใจร่วมส่งผลงานมาประกวดกันมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้รับทุนการศึกษาแล้ว ยังได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการช่วยเหลือให้สังคมไทยมีมารยาทและวินัยจราจรอีกด้วย” รองอธิบดีฯ กล่าว.