“ดร.เกียรติอนันต์” แนะรัฐใช้เงินกู้อย่างฉลาด สร้างอาชีพให้ประชาชนตามจุดแข็งแต่ละคน ไม่ใช่แค่ยัดเยียดหลักสูตรฝึกอบรมเล็กๆ น้อยๆ แล้วต้อนคนมาเรียน หนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในที่กันดาร แต่ทุกโครงการต้องตอบให้ได้ว่าจำเป็นอย่างไร ชี้ การท่องเที่ยวของไทยได้เปรียบ เชื่อฟื้นตัวเร็วกว่าส่งออก
วันที่ 10 มิ.ย. 2563 ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “โลกหลังโควิด กับ บันได 6 ขั้นสู่ New Normal”
ดร.เกียรติอนันต์ กล่าวว่า เวาลาพูดถึง Disruption บันไดขั้นแรกของมัน คือ Digitization คือ คนได้รับรู้ว่าดิจิทัลเทคโนโลยีช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น เมื่อคนเริ่มชินกับมัน ก็เข้าสู่ขั้นที่ 2 Deception คนประมาณตนว่ามันคงมาไม่เร็วหรอก รอได้อยู่ แต่สักพักมันเข้ามาในชีวิตทันที นั่นคือ ขั้นที่ 3 Disruption แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง มันยังมีอีก 3 ขั้น ที่เราจะเจอ ขั้นที่ 4 Demonetization ต่อไปนี้ไม่ต้องใช้เงินสดก็ได้ ใช้อีเพย์เมนต์ต่างๆ เงินจะหมุนเร็วขึ้น เศรษฐกิจหลังจากนี้จะมีการหมุนของเงินที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ธุรกิจก็ต้องแข่งกันเร็ว ใครอุ้ยอ้ายไปไม่รอด
ก็ไปสู่ขั้นที่ 5 Dematerialization เพื่อลดความอุ้ยอ้าย จากเดิมต้องเปิดปิดร้านตามเวลากำหนด แต่ไม่ทันแล้ว ลูกค้าอยากซื้อของตลอดเวลา ก็มีแพลตฟอร์มให้ลูกค้าซื้อของได้ตลอดเวลา เป็นตัวลดความอุ้ยอ้ายลง ลูกค้าเข้าถึงร้านได้ง่าย ตลาดทำได้ 24 ชั่วโมง จากนั้นไปสู่ขั้นสุดท้าย ขั้นที่ 6 Democratization ประชาชนมีอิสระในการเลือกมากขึ้น เป็นยุคที่การเลือกเป็นไปได้ง่าย คนก็จะแย่งกันเลือก แย่งกันขาย นักการเมืองก็จะแย่งกันทำให้ตัวเองเป็นที่ต้องการของประชาชนด้วย
โควิดไปดึงขั้น Demonetized ให้เข้ามาเร็วขึ้น จากเดิมถือเงินสด ตอนนี้ลดการจับเงินเพราะกลัวติดเชื้อ คือ ขั้นที่ 3 -5 ถูกรวบตึงเข้ามาเร็วมาก จากเดิมคิดว่าใช้เวลาสัก 10 ปี ตอนนี้น่าจะสัก 5 ปี ก็น่าจะเห็นขั้นนั้นแล้ว ไม่ใช่แค่เรา แต่เป็นทั่วโลก
ดร.เกียรติอนันต์ กล่าวถึงเงินกู้ในส่วนฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท ว่า นึกภาพบ้านโดนสิบล้อพุ่งชน เรากู้เงินมาสร้างบ้านใหม่ มีเงินก้อนหนึ่ง เมื่อก่อนอยากทำอะไรแต่ไม่ได้ทำ สร้างใหม่รอบนี้ต้องทำแล้ว แต่ก็มีคนรอเก็บตังค์อยู่ ฉะนั้น ความชาญฉลาดในการใช้เงินสำคัญมาก อย่างจะส่งเสริมการขายออนไลน์ แต่ไม่มีเน็ต ถนนไม่มี โครงสร้างพื้นฐานต้องไป ส่วนพื้นที่ที่มีพร้อมแล้วก็ไม่ต้อง
รัฐบาลต้องรักษาคนเจ็บก่อน ต้องทำให้เขายืนขึ้นมาได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีอาชีพ ไม่ใช่แค่ฝึกอบรมทำดอกไม้ ทำอาหาร เล็กๆ น้อยๆ ต้องเปลี่ยนนโยบายแบบเหมาโหล เป็นแบบรายบุคคล ว่าจุดแข็งของแต่ละคนคืออะไร ฝึกอะไรได้บ้าง แล้วฝึกคนตามความสามารถที่เขามี ไม่ใช่ใช้หลักสูตรของตัวเองแล้วต้อนคนมาเรียน
ในขณะที่ด้านหนึ่งช่วยคนไม่ให้ตาย อีกด้านก็ต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน แต่ต้องตอบให้ได้ ว่าทำไมต้องลง อย่างเช่น ถนน ต้องตอบได้ว่าทำไปทำไม โครงการจำนวนมากมีหลักการชัดเจนไหม ความโปร่งใสต้องมี แล้วจะเป็นนิวนอร์มัลในการบริหารจัดการภาครัฐด้วย
ดร.เกียรติอนันต์ ยังกล่าวด้วยว่า การส่งออกอาจฟื้นตัวช้ากว่าการท่องเที่ยว เพราะทุกประเทศเจ็บหมด กำลังซื้อหดหมด แต่คนถูกกักตัวนานอยากเที่ยว เมื่อความปลอดภัยกลับมา ซึ่งเราได้เปรียบตรงนี้ น่าจะฟื้นได้เร็ว แต่ในระยะสั้นก็ต้องขับเคลื่อนทั้งส่งออก และท่องเที่ยว แต่อย่าหวังว่าจะดีพร้อมกัน ช่วงนี้ให้น้ำหนักไปกับการพัฒนาการท่องเที่ยวให้ดีกว่าเดิม
