พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กให้ความมั่นใจ พนักงานการบินไทย ว่า ทางโรงพยาบาลยังรับใบส่งตัวพนักงานการบินไทย เพื่อใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้เหมือนเดิม แม้จะเปลี่ยนสถานะ จากสิทธิพนักงานรัฐวิสาหกิจ ไปสู่สิทธิผู้ประกันตนตามระบบประกันสังคม
จากกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 19 พ.ค.เห็นชอบให้บริษัท การบินไทย เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ภายใต้คำสั่งศาลทันทีและเห็นชอบให้กระทรวงการคลัง ลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ต่ำกว่า 50% ซึ่งจะทำให้บริษัท การบินไทย พ้นจากสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจโดยเด็ดขาดนั้น ล่าสุด ได้มีผลกระทบต่อพนักงานการบินไทย
นอกจากนี้ สำนักงานแพทย์ (IM) บริษัท การบินไทย ได้แจ้งต่อพนักงานการบินไทย ถึงสิทธิในการรักษาพยาบาล ว่า กรณีการส่งตัวไปรักษาต่อโรงพยาบาลอื่นนั้น ขณะนี้มี 2 โรงพยาบาล คือ โรงพยาบาลวิภาวดี และ โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่แจ้งของดรับใบส่งตัวจากบริษัท การบินไทย แล้ว โดยพนักงานที่ต้องการรักษากับ 2 โรงพยาบาลดังกล่าว ต้องทำการสำรองจ่ายเองแล้วทำการเบิกภายหลัง ดังนั้น ทางสำนักงานแพทย์จะไม่ออกใบส่งตัวไปยัง 2 โรงพยาบาลดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 27 พ.ค. พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “เหรียญทอง แน่นหนา” ถึงพนักงานของการบินไทย ยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ยังรับรักษาพนักงานบินไทยเหมือนเดิม โดยได้ระบุข้อความว่า
“เรียน พนักงานการบินไทยเพื่อโปรดทราบทั่วกันว่า ผมได้พบกับผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้รับผิดชอบด้านการรักษาพยาบาลเมื่อ 27 พ.ค. 63 แล้ว ผมขอเรียนให้ทราบทั่วกันดังนี้
1. รพ.คู่สัญญาของการบินไทยที่มีอยู่เดิมยังคงให้เครดิตและรับใบส่งตัวพนักงานการบินไทย เพื่อใช้สิทธิรักษาพยาบาลได้เหมือนเดิมครับ ดังนั้น พนักงานการบินไทยจึงสมควรใช้บริการกับ รพ.คู่สัญญาเดิมซึ่งดีอยู่แล้วต่อไปนะครับ
2. หากสิทธิรักษาพยาบาลของพนักงานการบินไทยต้องเปลี่ยนสถานะไปจากเดิมจากสิทธิพนักงานรัฐวิสาหกิจ ไปสู่สิทธิผู้ประกันตนตามระบบประกันสังคมเมื่อไหร่แล้ว รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็พร้อมรองรับพนักงานการบินไทยทุกคนครับ
3. ในกรณีพนักงานการบินไทยที่ต้องเกษียณอายุ หรือกรณีพนักงานที่ลาออก หรือถูกเลิกจ้างจากความจำเป็นของแผนการฟื้นฟูกิจการในอนาคต รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็ยินดีรับขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรทองโดยตรงให้ด้วยเช่นกันครับ
4. ผู้เยาะเย้ยถากถางซ้ำเติมองค์กร หน่วยงาน หรือบุคคลที่กำลังได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจสังคมจากสถานการณ์โควิด-19 ดังเช่น กรณีที่เกิดกับการบินไทย จงหยุดพฤติกรรมเลวๆ นั้นเสีย เพราะวิกฤตเศรษฐกิจสังคมรุนแรงในขณะนี้ อาจกำลังเกิดขึ้นกับคุณ หรือคนที่คุณรัก หรือคนในครอบครัวของคุณในเร็วๆ นี้ด้วยเช่นกัน เมื่อถึงวันนั้นคุณจะรู้สึก
5. สำหรับผู้ใช้ชื่อเฟซว่า “ช่างแอร์ ในตำนาน” ที่เข้ามาท้าทายผมนั้นได้ปิดเฟซหนีหายไปตั้งแต่ผมโพสต์รับคำท้าในการพร้อมรับการบินไทยแล้ว ผู้ใช้ชื่อเฟซเหมือนกัน คือ “ช่างแอร์ ในตำนาน” รายอื่นๆ ตามที่ปรากฏในเฟซบุ๊กนั้น ไม่ใช่รายเดียวกับที่มาท้าทายผมนะครับ”