ศบค.แจงแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” ต้องสแกนหลายรอบ เวลาสอบสวนโรคจะได้ติดตามเฉพาะร้านค้า

แถลงสถานการณ์โควิด-19 พบผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย เชฟอาหารไทยกลับจากบาห์เรน แต่ไม่แสดงอาการ พบจำนวนผู้ใช้งานไทยชนะกว่า 5 ล้าน แจงที่ให้สแกนหลายรอบ เพราะเวลาสอบสวนโรคจะได้เจาะกลุ่มเฉพาะร้านค้า ส่วนที่เก็บข้อมูล 60 วัน เพราะผู้ติดเชื้อมีรุ่นที่ 1-4 ระยะฟักตัว 14 วัน ใช้ประสบการณ์จากเคสสนามมวย แนะกลุ่มที่ยังไม่ได้คลายล็อกเตรียมพร้อมตามหลักการ 5 ข้อ อยู่ในหลักชีวิตวิถีใหม่

วันนี้ (20 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวัน พบผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,034 ราย หายป่วยสะสม 2,888 ราย รักษาอยู่ 90 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 56 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ เป็นเพศชาย อายุ 45 ปี อาชีพเชฟอาหารไทย เดินทางมาจากประเทศบาห์เรน ถึงไทยวันที่ 15 พ.ค. และเข้า State Quarantine ที่กรุงเทพมหานคร ตรวจพบโควิด-19 เมื่อ 18 พ.ค. แต่ไม่มีอาการ เมื่อพิจารณาข้อมูลสถานกักกันโรคของรัฐ พบเดินทางมาจากบาห์เรน 238 ราย จำนวนผู้ป่วยยืนยันรวม 2 ราย แต่ที่พบผู้ป่วยมากที่สุดคือ อินโดนีเซีย ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ สหรัฐอเมริกา

จำนวนตรวจทางห้องปฏิบัติการโควิด-19 มีห้องปฏิบัติการเครือข่ายของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 167 แห่งทั่วประเทศ ตรวจ 328,073 ตัวอย่าง คิดเป็น 4,926 รายต่อ 1 ล้านประชากร แต่พบเพียงแค่ 0.92% ต่างจากอิตาลีที่พบผู้ติดเชื้อ 7.63% แสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มตรวจสอบได้กว้างๆ

สถานการณ์โลก ผู้ป่วยยืนยันสะสม 4,986,332 ราย รักษาตัว 45,425 ราย รักษาหายแล้ว 1,957,902 ราย เสียชีวิต 324,910 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ป่วยสะสม 1,579,583 ราย เสียชีวิตสะสม 93,533 ราย เฉพาะวัน 1,552 ราย รองลงมารัสเซีย สเปน ส่วนประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 70 ส่วนอินเดียผู้ป่วยแตะแสนรายเป็นวันที่สอง แนวโน้มประเทศต่างๆ สหรัฐอเมริกา ลดลงเล็กน้อย แต่บราซิลแนวโน้มสูงขึ้น รัสเซีย และ อินเดีย ยังทรงตัว

ประเด็นที่น่าสนใจในประเทศ วัคซีนโควิด-19 จะใช้ได้ปีหน้า ผลงานของศูนย์วัคซีน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผ่านการทดสอบในหนู เตรียมใช้กับลิงในสัปดาห์หน้า ส่วนผลสำรวจจากบริษัท YouGov ประเทศอังกฤษ เผยคนไทยมีพฤติกรรมใส่หน้ากากและล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์สูงที่สุดในอาเซียน

สรุปการใช้งาน แพลตฟอร์มไทยชนะ จำนวนร้านค้าที่ลงทะเบียน 67,904 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 5,077,978 คน จำนวนการเข้าใช้งาน เช็กอิน 8,584,803 ครั้ง เช็กเอาต์ 6,359,921 ครั้ง ประเมินร้าน 3,984,691 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้ให้บริการลงทะเบียนร้านค้ามากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี โดยมีร้านอาหารมากที่สุด 17,362 ร้านค้า รองลงมา ห้างสรรพสินค้า และ ซูเปอร์มาร์เก็ต มากที่สุด ประเภทกิจการที่ผู้รับบริการเข้าใช้บริการสูงสุด คือ ห้างสรรพสินค้า รองลงมาคือ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหาร จังหวัดที่ผู้รับบริการเข้าใช้บริการสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร ผลการประมินร้านค้า พบ 5 คะแนน ร้านอาหารมากที่สุด

ผลการตรวจตามมาตรการผ่อนคลาย จำนวน 17,588 ราย ไม่ปฏิบัติตามาตรการ 5 ราย ปฏิบัติไม่ครบ 1,863 ราย มากที่สุดคือ โทรทัศน์ กองถ่าย รองลงมาคือ สถานออกกำลังกาย ร้านตัดผม และห้องสมุด โดยพบปัญหาการเว้นระยะห่าง จำนวนผู้ใช้บริการ สบู่และแอลกอฮอล์ ส่วนผลการปฏิบัติช่วงเคอร์ฟิว พบออกนอกเคหะสถานโดยไม่มีเหตุสมควร 301 ราย รวมกลุ่ม ชุมนุม หรือมั่วสุม 26 ราย มาจากดื่มสุรา ลักลอบเล่นการพนัน

ในช่วงตอบคำถาม เมื่อถามว่า แพลตฟอร์มไทยชนะ ทำไมเวลาใช้บริการต้องมีการสแกนคิวอาร์โคดหลายรอบ ชี้แจงว่า คนที่เข้าห้าง จุคนได้หลักหมื่น ถ้าเข้าไปในตอนเช้า มีคน 1 คนติดเชื้อ ให้ประวัติว่าไปห้าง จะเอาคนนับหมื่นคนไปตรวจก็กระไรอยู่ แต่ถ้าไปร้านค้าย่อย ติดตามได้ สืบสวนโรคได้ว่าเดินไปตรงไหน จะเหลือเฉพาะคนที่เข้าไปสัมผัสใกล้ชิด เหลือแค่หลักร้อยเท่านั้น แทนที่จะกักคนจำนวนมากก็เหลือจำนวนน้อย เพื่อให้ประชาชนทุกคนได้มีอิสระในการใช้ชีวิตต่อ ขอให้ทุกท่านร่วมมือ

ถ้าร้านค้าไม่ลงทะเบียนกับไทยชนะมีความผิดหรือไม่ ชี้แจงว่า มีการให้คำแนะนำและตักเตือน ไม่อยากให้ปิดแต่ขอความร่วมมือ ไม่ใช่แค่ร้านค้าแต่ต้องระวังตัวเอง เพราะต้องทำกิจการทุกวันกับคนมากหน้าหลายตา น่าจะสบายใจที่ผู้มารับบริการสแกนที่ร้านค้า การลงทะเบียนเป็นประโยชน์ทั้งร้านค้า ผู้รับบริการ และสังคม ส่วนคนที่ใช้บริการถามว่า ทำไมต้องเก็บข้อมูลถึง 60 วัน ชี้แจงว่า อธิบดีกรมควบคุมโรคใช้ข้อมูลจากสนามมวย มีการติดจากรุ่นที่ 1-4 โดยรุ่นหนึ่งใช้เวลา 14 วัน จึงต้องวางประมาณ 2 เดือน โดยใช้ประสบการณ์จากที่เคยมีมาก่อน

ส่วนความกังวลที่ว่า มีผู้ติดเชื้อเพียง 20% แต่ 80% ไม่แสดงอาการ ในประวัติมีอยู่ 3,000 กว่าราย เท่ากับจะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวกว่า 12,000 คน ชี้แจงว่า ไม่ใช่ตัวเลขเทียบเคียงบัญญัติไตรยางค์ มีปัจจัยที่คิดและคำนวณมากมาย ตัวเลขที่ติดเชื้อแม้จะมีกว่า 3,000 คน คนที่ติดแรกๆ ก็หายไปแล้ว เพราะมีระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 14 วัน แต่ตัวเลขจะเท่าไหร่จะต้องมีนักระบาดวิทยาและนักคลินิก ซึ่งจะไปสอบถามให้ แต่ใช้ตัวเลขยืนยันจากคนที่ติดเชื้อรายวันและตัวเลขสะสม ซึ่งมีกระบวนการคิดต่างๆ แต่ไม่ใช่ตัวเลขที่สรุปง่ายๆ ขอให้ใช้ตัวเลขทางการจากกระทรวงสาธารณสุขดีที่สุด

ส่วนผู้ประกอบการหลายกลุ่มที่ยังไม่ได้คลายล็อกดาวน์ เริ่มเดือดร้อนและเคลื่อนไหว มีข้อแนะนำอย่างไร ชี้แจงว่า เป็นที่รับทราบว่าต้องหาเลี้ยงชีพ แต่ ศบค. ได้พูดคุยชุดคณะกรรมการ กับกรม กอง กระทรวงต่างๆ มีชุดข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจทั้งสิ้น อย่างน้อยขอให้ปฏิบัติตนให้ได้อย่างดีเพื่อให้ปลอดโรค ปลอดภัยและไปต่อ ห้วงเวลานี้ถ้าตัวเลขหลักเดียวไปเรื่อยๆ ก็มีโอกาสจะได้รับโอกาสผ่อนคลาย สิ่งสำคัญฝากช่วยคิด ช่วยดูที่ร้าน นำหลักการ 5 ข้อ ไปปรับใช้กับที่ร้านอย่างไร อาจจะไปสำรวจกับกิจการอื่นๆ แล้วมาปรับกับกิจการ ผับบาร์จะมีมาตรการใหม่หรือไม่เพื่อสร้างความมั่นใจ รอให้ช่วยกันคิดและแก้ไข สามารถจัดกระบวนการเตรียมพร้อมได้ตั้งแต่วันนี้ เชื่อว่ากิจการมีแม้จะมีความเสี่ยงสูง อยู่ที่วินัยของทุกคนที่ดูแลอย่างดีที่จะกลับมาเปิดกิจการ แต่ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่ ฝากทุกคนช่วยกัน