MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 26 เม.ย. - 2 พ.ค. 2563)
อันดับ 1 : คลายล็อกประเทศไทย! ผ่อนปรนมาตรการโควิด-19 "ตลาด-ร้านอาหาร-ตัดผม" รอลุ้นประเมินอีก 14 วัน
หลังจากที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร มาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 2563 ที่ผ่านมา เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และได้มีการต่ออายุไปถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563 เมื่อสถานการณ์โดยภาพรวมมีผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยลง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จึงได้ออกมาตรการผ่อนปรน ประเภทกิจการและกิจกรรม 6 ประเภท อาทิ 1. ตลาด 2. ร้านจำหน่ายอาหาร 3. กิจการค้าปลีก-ส่ง 4. กีฬา สันทนาการ 5. ร้านตัดผม เสริมสวย และ 6. อื่นๆ ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ เริ่ม 3 พ.ค. 2563
ขณะเดียวกัน ยังผ่อนปรนร้านอาหารและเครื่องดื่มซึ่งจำหน่ายสุรา ให้เปิดได้แต่ห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น รวมทั้งให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตจังหวัด เว้นแต่มีความจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งต้องรับการตรวจคัดกรอง และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดอันอาจทำให้การเดินทางต้องใช้เวลามากกว่าปกติ โดย ศบค. ชี้แจงว่ามาตรการผ่อนปรนจะประเมินผลทุก 14 วัน ถ้าตัวเลขกลับมาเพิ่มก็ต้องทบทวนใหม่
อันดับ 2 : ไทยยืนผู้ป่วยเลขหลักเดียว นาน 6 วัน สหรัฐฯ สูงสุดแต่รัสเซีย-บราซิลระบาดแรง สิงคโปร์นำในอาเซียน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่เพียงหลักเดียว เริ่มจาก 9 ราย มาตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา และเริ่มทยอยมีผู้ป่วยรักษาหายแล้วกลับบ้านได้ ทำให้ตัวเลข ณ วันที่ 2 พ.ค. มีผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,966 ราย ใน 68 จังหวัด ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 2,732 ราย และผู้ป่วยรักษาอยู่ 180 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 54 ราย โดยพบว่า 10 จังหวัดแรกที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต นนทบุรี ยะลา สมุทรปราการ ชลบุรี ปัตตานี สงขลา เชียงใหม่ และปทุมธานี
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อสะสม 3,401,002 ราย รักษาอยู่ 51,355 ราย รักษาหายแล้ว 1,081,005 ราย เสียชีวิต 239,602 ราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ติดเชื้อสะสม 1,131,452 ราย เสียชีวิตสะสม 65,766 ราย แต่พบว่าเริ่มมีแนวโน้มผู้ป่วยใหม่สูงขึ้นจากรัสเซีย บราซิล สหราชอาณาจักร สเปน เปรู และอินเดีย ขณะที่โซนเอเชียและตะวันออกกลาง พบผู้ติดเชื้อใหม่ที่อินเดีย ตุรกี ปากีสถาน ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน สิงคโปร์ โดยพบว่าผู้ป่วยรายใหม่ในอินเดียมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสิงคโปร์แม้จะมีแนวโน้มลดลง แต่สูงกว่าในกลุ่มประเทศอาเซียน ผู้ติดเชื้อสะสม 17,101 ราย เสียชีวิตสะสม 16 ราย
อันดับ 3 : "น้องปลายฝน" เหยื่อการเมือง! ภาพวาด "บิ๊กตู่" ทำโหนศพโจมตีรัฐบาล "ทักษิณ" ดอดเป็นเจ้าภาพ
การเสียชีวิตของ น.ส.ปลายฝน อ่ำสาริกา อายุ 19 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล เมื่อพบภาพวาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมเขียนข้อความระบายความอัดอั้นตันใจ และอ้างว่าแม้แต่ตนก็ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน ทำให้โลกโซเชียลต่างแชร์และวิจารณ์ถึงรัฐบาลในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ถึงกระนั้นพบว่า น.ส.ปลายฝน ได้เงินเยียวยา "เราไม่ทิ้งกัน" ไปตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่นายวิชัย เหมหิม แฟนใหม่ของ น.ส.ปลายฝน ยอมรับว่านำเงินไปผ่อนรถจักรยานยนต์ 4,000 บาท เหลือกินใช้เพียง 1,000 บาทเท่านั้น
ขณะเดียวกันยังพบว่า มีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เข้ามาเป็นเจ้าภาพงานสวดพระอภิธรรมศพ ที่วัดแสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในนั้นคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทยเป็นประธานแทน แต่พบว่าในวันงานมอบหมายให้ ส.ส.เพื่อไทยเป็นตัวแทน นอกจากนี้ยังมี นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งมีพวงหรีดจากนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ศพของ น.ส.ปลายฝน จะฌาปนกิจในวันที่ 3 พ.ค. เวลา 16.00 น.
อันดับ 4 : กระทรวงการคลังวุ่น! สาวใหญ่กินยาเบื่อหนู ร้อนใจไม่ได้ 5 พัน "พงศ์พิชาญ" เจ้าเก่าโผล่แต่ดวงเฮง
มาตรการเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน สำหรับลูกจ้างและอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ได้รับสิทธิ และเปิดให้ยื่นทบทวนสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน.com ก่อนหน้านี้ พบว่าเกิดเรื่องสลดขึ้น เมื่อวันที่ 27 เม.ย. น.ส.อัญกาญจน์ บู๊ประเสริฐ อายุ 59 ปี กินยาเบื่อหนูฆ่าตัวตายที่หน้ากระทรวงการคลัง ซอยอารีย์สัมพันธ์ เขตพญาไท กรุงเทพฯ หลังไปร้องเรียนเรื่องไม่ได้รับเงินเยียวยาแล้วไม่มีใครสนใจ โชคดีที่มีพลเมืองดีเรียกรถนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอย่างปลอดภัย ภายหลังพบว่าเป็นผู้ที่มีสิทธิได้รับเงิน 5,000 บาท และได้รับเงินในวันที่ 29 เม.ย.
ภายหลังพบว่ามีชาวบ้านเคลื่อนไหวที่หน้ากระทรวงการคลัง ขู่จะฆ่าตัวตายเพื่อให้หันมาสนใจปัญหาของตน เช่น นางวิไล จันทร์เพ็ง อายุ 54 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้า นอนขวางหน้าประตู นายกิมจิ๋ว แซ่ตั้ง อายุ 76 ปี พ่อค้า ขู่จะผูกคอตาย ภายหลังนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง สั่งตั้งโต๊ะหน้าประตูรับเรื่องร้องเรียน ที่ฮือฮาก็คือ นายพงศ์พิชาญ ธนาถิรพงศ์ อายุ 57 ปี คนขับรถแท็กซี่ที่เคยก่อความวุ่นวายที่ทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาเพื่อเรียกร้องเงินเยียวยาจากการสลายชุมนุม ก็มาที่กระทรวงการคลัง ถึงขั้นปีนกำแพงขู่จะเอาศีรษะทิ่มรั้วเหล็ก แต่ตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ที่มีสิทธิได้รับเงิน 5,000 บาท และจะได้รับเงินในวันที่ 7 พ.ค.
อันดับ 5 : พลังประชารัฐตีกันนัว กดดันเปลี่ยนหัวหน้าพรรค "สิระ" ไล่ "ธรรมนัส" เคลียร์ตัวเองก่อนประสานรอยร้าว
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ สืบเนื่องจากมีกระแสข่าวว่ากลุ่มนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ร่วมกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี ประธาน ส.ส.พรรค และ พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา หรือ บิ๊กอ้น ส.ว.สรรหา พยายามผลักดันให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค เปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค จากนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เพื่อเปิดทางให้เปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค หวังผลให้ปรับคณะรัฐมนตรีเกลี่ยตำแหน่งกันใหม่ ท่ามกลางหลายฝ่ายวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตโควิด-19
นอกจากนี้ยังพบว่า นายสุชาติแสดงออกในไลน์กลุ่ม 20 ส.ส.ตำหนิหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคอย่างรุนแรง เรื่องนี้ทำให้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่าปัญหาจบแล้ว และไม่มีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค นอกจากศึกใหญ่แล้วยังมีศึกย่อย เมื่อมีกระแสข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ พยายามประสานความขัดแย้งภายในพรรค ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ไล่ให้ ร.อ.ธรรมนัส ไปเคลียร์ปัญหาตัวเองให้ภาพลักษณ์เป็นที่ยอมรับก่อน เพราะจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งที่ผ่านมา ประชาชนยังเคลือบแคลงสงสัย อีกทั้งยังไม่มีบารมีมากพอที่จะมาเคลียร์ปัญหาให้ผู้ใหญ่ภายในพรรค
อันดับ 6 : แคร์เซตส่อทุจริต! ผู้ว่าฯ เผย อบจ.ลำพูนจัดซื้อมิชอบ เร่งสอบวินัย-ละเมิดเรียกชดใช้คืนกว่า 16 ล้าน
กรณีที่นายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ นายก อบจ.ลำพูน ดำเนินโครงการจัดซื้อชุดแคร์เซตแจกผู้สูงอายุ ระหว่างเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 27,700 ถุง ในราคาถุงละ 590 บาท รวมงบประมาณกว่า 16 ล้านบาท และเป็นที่วิจารณ์ในหมู่ชาวบ้านและสังคมว่า สิ่งของที่นำมาแจกในถุง เช่น แชมพู สบู่ก้อน ยาสีฟัน ช้อนส้อม ชาม จาน แก้วน้ำ ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องใช้ เนื่องจากที่บ้านมีอยู่แล้ว พวกตนจึงต้องการส่งคืนแล้วเรียกร้องให้นำสิ่งของที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง มาให้แทน อีกทั้งการจัดซื้อจัดจ้างส่อไม่ชอบมาพากล ทำให้จังหวัดลำพูนสั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 29 เม.ย. นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้ข้อสรุปว่า การจัดซื้อแคร์เซตของ อบจ.ลำพูนครั้งนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบการช่วยเหลือสาธารณชนด้านสาธารณภัย เป็นผลทำให้เกิดความเสียหายแก่ อบจ.ลำพูนเต็มจำนวน คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 16 ล้านบาทเศษ ซึ่งต่อไปจะสอบวินัยและการละเมิด เพื่อเรียกให้มีการชดเชยภายใน 60 วัน ด้านนายนิรันดร์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หากพูดไปก็จะเป็นการตอบโต้คณะกรรมการสอบฯ และผู้ว่าฯ ซึ่งทาง อบจ.ก็ต้องชี้แจงข้อกล่าวหาตามขั้นตอน หากให้ชดใช้จริง ก็เป็นปัญหาสำหรับตนมากแน่นอน
อันดับ 7 : โซเชียลไฟลุก! อินฟลูเอนเซอร์ดังขายแกงเขียวหวานถุงละ 250 เพื่อนออกโรงป้อง "ไม่ได้ขายคนจน"
กลายเป็นประเด็นที่โลกโซเชียลวิจารณ์สนั่น เมื่ออินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง “นัท สะบัดแปรง” หรือ นิสามณี เลิศวรพงศ์ โพสต์ขายอาหารแบบโฮมเมดของแม่ หนึ่งในนั้นคือแกงเขียวหวาน ราคาถุงละ 250 บาท พบว่าบรรจุภัณฑ์เป็นแกงถุงธรรมดา ถูกวิจารณ์ว่าเหมาะสมหรือไม่ในยุคโควิด-19 แม้นัทนิสาชี้แจงว่าที่ราคาแพงเพราะเลือกใช้แต่วัตถุดิบอย่างดี แต่หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของนัทเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า "จนก็กินแบบจน อย่าพูดมาก คนจน แล้วยังมาด่าคน ชาตินี้จะรวยไหม สงสารนะ กูก็เคยจนค่า แต่ไม่ไปรุมด่าเค้า ไม่มีตังค์ก็ไม่ต้องแ...ก คาดหวังให้ขาย 40 บาทมั้ง เค้าไม่ได้ขายคนจน เค้าขายคนมีตังค์"
ทำเอาชาวเน็ตเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ เกิดกระแสแฮชแท็ก #นัทนิสา และ #แกงเขียวหวาน ขึ้นเทรนด์อันดับต้นๆ ในทวิตเตอร์ ผู้คนต่างเลิกติดตามอินสตาแกรมและยูทูปจนสมาชิกหายไปนับหมื่นราย ในที่สุด นัท สะบัดแปรง รวมถึงกลุ่มเพื่อนต้องออกมาขอโทษสังคม แต่ชาวเน็ตยังไม่หยุดลากไส้ ทั้งกรณีที่นัท สะบัดแปรง เหยียดสีผิวผู้เข้าประกวดมิส ยูนิเวิร์ส 2019 การลอกเลียนคอนเทนต์จากต่างประเทศ และล่าสุดเธอยังเจองานเข้า ไปรับงานถ่ายคลิปโปรโมทเว็บไซต์หนึ่ง ที่พบว่าเป็นการพนันออนไลน์ มีผู้เสียหายนับร้อยราย มูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จนเธอต้องออกมาชี้แจงกับตำรวจว่าไม่มีส่วนรู้เห็น
