xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : สู้โควิด-19 ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก | ซัมเมอร์เซลค่าไฟ 30-50% | #ยานเกราะพ่องง สไตรเกอร์ 4,515 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 12 - 25 เม.ย. 2563)


อันดับ 1 : ไม่ประมาทการ์ดอย่าตก! ลุ้นไทยคลายล็อกโควิด-19 "ประยุทธ์" ส่งจดหมาย 20 เศรษฐีช่วยฝ่าวิกฤต

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยยังลดลงอย่างต่อเนื่อง ณ วันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,907 ราย ใน 68 จังหวัด หายป่วยสะสม 2,547 ราย รักษาอยู่ 309 ราย เสียชีวิตสะสมรวม 51 ราย ส่วนต่างประเทศพบผู้ป่วยยืนยันสะสม 2.83 ล้านราย รักษาตัว 5.85 หมื่นราย รักษาหายแล้ว 7.98 แสนราย เสียชีวิต 1.97 แสนราย สหรัฐอเมริกายังเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากข้อจำกัดในการตรวจวินิจฉัยในช่วงแรกของการแพร่ระบาด แต่พบว่าในเอเชีย สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากแรงงานต่างด้าว

ด้านความเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่งจดหมายถึง 20 มหาเศรษฐีไทย สาระสำคัญคือขอโครงการช่วยเหลือประชาชนทุกภาคส่วน โดยใช้ศักยภาพที่มีอยู่ช่วยเหลือ ส่วนการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินจะมีการประชุม ศบค. ในวันที่ 27 เม.ย. ก่อนเสนอในที่ประชุม ครม.วันที่ 28 เม.ย. ซึ่งจะพิจารณาไปถึงการผ่อนปรนให้บางธุรกิจที่เกี่ยวข้อกับชีวิตประจำวัน ขณะที่กระทรวงการคลัง ปิดการลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่านเว็บไซต์เราไม่ทิ้งกัน เมื่อวันที่ 22 เม.ย. มียอดรวม 28.84 ล้านคน ส่วนการเยียวยาเกษตรกรจะเสนอเข้า ครม.วันที่ 28 เม.ย.


อันดับ 2 : อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เจอค่าไฟแพงระงมโซเชียล รัฐบาลลดกระหน่ำซัมเมอร์เซล 30-50%

สัปดาห์ที่ผ่านมาในโลกโซเชียลมีประชาชนที่ได้รับบิลค่าไฟประจำเดือน เม.ย. ที่ผ่านมาต่างร้องเรียนว่าค่าไฟฟ้าสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ภาครัฐรณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่กลับลดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสุทธิที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเพียง 3% แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง ขณะที่การไฟฟ้าฯ ชี้แจงว่า สาเหตุที่ค่าไฟฟ้าแพงมีอยู่ 2 ปัจจัย คือ ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าส่วนที่ลอยตัว (ค่าเอฟที) และการคิดอัตราค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้า ประกอบกับสาเหตุอื่นๆ เช่น การใช้เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องฟอกอากาศ พัดลมไอน้ำ ซึ่งในช่วงฤดูร้อนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะทำงานหนักกว่าปกติ

ที่สุดแล้ว นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ได้เสนอที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 21 เม.ย. และมีมติรับทราบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟ ระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า 22 ล้านครัวเรือน โดยใช้งบประมาณ 23,688 ล้านบาท ประกอบด้วย มิเตอร์ไม่เกิน 5 แอมป์ ขยายใช้ไฟฟรีจาก 90 หน่วยเป็น 150 หน่วย ส่วนขนาดเกิน 5 แอมป์ขึ้นไป จะคำนวนจากค่าไฟเดือน ก.พ. 2563 หากใช้มากกว่าแต่ไม่เกิน 800 หน่วย ให้จ่ายเท่ากับเดือน ก.พ., ใช้ไฟเกิน 800-3,000 หน่วย ส่วนเกินลด 50% และใช้ไฟเกิน 3,000 หน่วยขึ้นไป ส่วนเกินลด 30% โดยคนที่จ่ายค่าไฟไปแล้วจะหักลบกลบหนี้ในรอบบิลถัดไป


อันดับ 3 : #ยานเกราะพ่องง เอกสารโผล่จัดซื้อ "สไตรเกอร์" 4,515 ล้าน กองทัพบกแจงหั่นแล้วหั่นอีก

ในโลกโซเชียลเกิดแฮชแทก #ยานเกราะพ่องง สืบเนื่องมาจากกรมสรรพาวุธทหารบกเผยแพร่ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้าง ประจำปีงบประมาณ 2563 เรื่อง ยานเกราะล้อยาง (สไตรเกอร์) พร้อมระบบอาวุธ และการบริหารทางเทคนิค ฯลฯ จากสหรัฐอเมริกา จำนวน 50 คัน โดยวิธี FMS (Foreign Military Sales) งบประมาณ 4,515 ล้านบาท เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากพรรคการเมืองฝ่ายค้านว่าจำเป็นหรือไม่ ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประชาชนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ทุกข์ยากแสนสาหัส แต่รัฐบาลและกระทรวงกลาโหมกลับเดินหน้าจัดซื้ออาวุธซ้ำเติมวิกฤต

ภายหลังทีมโฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า กระทรวงกลาโหมปรับลดงบประมาณในปี 2563 นำไปเป็นงบกลางเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท กองทัพบกตัดโครงการที่ไม่ได้เป็นงบประมาณผูกพันทั้งหมด เช่น รถถัง VT-4 ของจีน ต้องชะลอโครงการออกไปก่อน แต่ยานเกราะล้อยางอยู่ในกลุ่มของโครงการงบประมาณผูกพันข้ามปี 2563-2565 ปีนี้จะถูกตัดงบลง 50% จะใช้จ่ายได้ 450 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ยินดีที่จะปรับลดงบประมาณ แต่ได้เตือนว่าขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายเสนอข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริง เพราะไม่อยากใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการ


อันดับ 4 : ทหารเดือด! พิษคลิป "จ่าจำปา" ปะทะคารมผู้ว่าฯ ตรัง ถูกสั่งจำขัง 45 วัน สังคมเรียกร้องจนเหลือ 7 วัน

สังคมทหารชั้นผู้น้อยและประชาชนทั่วไปไม่พอใจ เมื่อ จ.ส.อ.พีรศักดิ์ จำปา หรือ “จ่าจำปา” ทหารประจำหมวดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 5 กองพลทหารราบที่ 5 ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถูกสั่งลงทัณฑ์จำขัง 45 วัน ฝึกธำรงวินัย และงดบำเหน็จประจำปี 2563 (ครึ่งปีหลัง) หลังมีข่าวและคลิปในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กล่าวหาว่าโต้เถียงกับนายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ที่ด่านตรวจโควิด-19 บนถนนสายรองที่ อ.รัษฎา จ.ตรัง ระหว่างกำลังรีบกลับไปที่บ้านใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อพาแม่ที่ป่วยหนักไปโรงพยาบาล เกิดตั้งคำถามว่าบทลงโทษรุนแรงไปหรือไม่

ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ยืนยันว่ายังคงลงโทษจ่าจำปาต่อไป แต่สั่งการให้ทหารไปดูแลแม่แทน สังคมเกิดความไม่พอใจและเรียกร้องความยุติธรรม เพราะจ่าจำปาไม่ได้แหกด่าน ยอมกลับไปอ้อมใช้เส้นทางหลักแทนแล้ว กองทัพภาคที่ 4 พยายามลดกระแสด้วยการปล่อยจ่าจำปาไปเยี่ยมแม่ 1 วัน ส่วนวันต่อมาเอาเตียงและรถเข็นเก่ามาให้ใช้ แต่กระแสเรียกร้องยังไม่หมดไป แถมมีไลน์หลุดนายทหารระดับ "พันโท" ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งลงโทษ ระบุว่า “กระแสพวกนายสิบปล่อยมัน เดี๋ยวก็เงียบ” ยิ่งเติมเชื้อไฟมากขึ้น ที่สุดแล้ววันที่ 23 เม.ย. ได้ลดโทษจำขังจากเดิม 45 วันเหลือ 7 วัน และปล่อยตัวไปแล้ว


อันดับ 5 : คลิปเก่าก็ไม่รอด! ตำรวจเอาผิด ผอ.โรงเรียนที่เพชรบูรณ์ อนาจารนักเรียนหญิงหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์

กลายเป็นคลิปที่ฮือฮากันในสังคมออนไลน์ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. มีวีดีโอคลิปแอบถ่ายผู้อำนวยการโรงเรียนรายหนึ่งกำลังทำอนาจารกับนักเรียนหญิงรายหนึ่งระหว่างใช้งานคอมพิวเตอร์ เหตุเกิดที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ หลังคลิปนี้แพร่กระจายออกไป ตำรวจ สภ.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ตรวจสอบจนทราบตัวผู้เสียหาย จึงได้เชิญตัวนักเรียนและผู้ปกครองมาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เด็กหญิงรับว่าบุคคลในคลิปดังกล่าวคือตนจริง โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนยอมรับว่าเป็นคนเดียวกับในคลิป แต่ไม่ได้ลวนลามเด็ก แค่สงสัยว่าเปิดคอมพิวเตอร์ทำไมจึงเข้าไปถามแค่นั้น

อย่างไรก็ตาม ตำรวจ สภ.บ้านติ้ว ขออนุมัติศาลจังหวัดหล่มสัก ออกหมายจับนายณรงค์วิทย์ พาคำ อายุ 59 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหัวนาเลา ต.บ้านติ้ว อ.หล่มสัก ข้อหากระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งภายหลังเจ้าตัวได้เข้ามอบตัวกับตำรวจด้วยตัวเอง ให้การปฏิเสธและขอต่อสู้คดีในชั้นศาล ก่อนที่ตำรวจจะให้ประกันตัวโดยใช้ตำแหน่งข้าราชการซี 8 ของตน ขณะที่คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดเพชรบูรณ์เห็นชอบให้นายณรงค์วิทย์ ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการดำเนินคดี พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อไป


อันดับ 6 : ถุงยังชีพที่ไม่ยังชีพ! กระหึ่ม อบจ.ลำพูนแจกแคร์เซตป้องกันโควิด-19 ผงะมีแต่ของใช้ แถมส่อทุจริต

เกิดเรื่องฉาวใน อบจ.ลำพูน ภายใต้การนำของนายนิรันดร์ ด่านไพบูลย์ เมื่อชาวบ้านได้รับถุงยังชีพจาก อบจ.ลำพูน ปรากฎว่ามีแต่สิ่งของไม่จำเป็น และทุกบ้านมีอยู่แล้ว 13 รายการ เช่น จาน ถ้วย ผ้าเช็ดตัว แทนที่จะเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีการจัดซื้อจัดจ้างในราคาเกินจริง เพราะใช้งบประมาณในการจัดซื้อครั้งนี้มากถึง 17 ล้านบาท รวม 27,700 ชุด ตกถุงละ 590 บาทต่อชุด ขณะที่นายนิรันดร์อ้างว่า ชุดแคร์เซตที่มอบให้ไม่ใช่ถุงยังชีพ แต่เป็นสิ่งของเครื่องใช้เพื่อไม่ให้ผู้สูงอายุใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น อีกทั้งอ้างว่ารัฐบาลได้กำหนดมาตรการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้ผู้สูงอายุอยู่ในเคหะสถาน

ภายหลัง นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน สั่งการให้นายนิรันดร์ชี้แจงเรื่องดังกล่าว โดยให้นำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างมาตรวจสอบ หากพบว่าผิดหรือแพงเกินจริงจะเรียกเงินคืน พร้อมทั้งตั้งกรรมการสอบทั้งทางวินัยและอาญา ขณะที่กลุ่มพ่ออุ้ยชาวบ้านทาดอยแช่ ต.ทากาศ อ.แม่ทา ทยอยนำถุงแคร์เซตส่งคืน อบจ.ลำพูน เพราะสิ่งที่นำมาแจกไม่จำเป็นต้องใช้ เรียกร้องให้นำสิ่งของที่จำเป็นมาให้แทน แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนมารับคืน ส่วนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ยื่นเรื่องต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว


อันดับ 7 : อาลัย "พนมเทียน" นักเขียนนวนิยายอมตะเรื่องยาว "เพชรพระอุมา" ด้วยวัย 89 ปี

นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในแวดวงวรรณกรรมไทย เมื่อนายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2540 เสียชีวิตเมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 21 เม.ย. ที่โรงพยาบาลรามคำแหง เนื่องจากโรคชรา สิริอายุได้ 89 ปี ซึ่งนายฉัตรชัยเป็นนักเขียน เจ้าของนามปากกา "พนมเทียน" หนึ่งในผลงานยอดนิยม คือ "เพชรพระอุมา" เรื่องราวการเดินทางและการผจญภัยในดินแดนลึกลับของพรานป่าที่ชื่อ "รพินทร์ ไพรวัลย์" ตีพิมพ์ต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 ปี มีความยาวมากถึง 48 เล่มจบ เคยถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ เมื่อปี 2514 นอกจากนี้ยังได้แต่งนวนิยายเรื่องอื่น อาทิ จุฬาตรีคูณ, เล็บครุฑ, ศิวาราตรี เป็นต้น

สำหรับนายฉัตรชัย เป็นชาวจังหวัดปัตตานี แต่เติบโตที่กรุงเทพฯ เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดสุทธิวราราม ก่อนเข้าเรียนชั้นเตรียมอักษรศาสตร์ สวนกุหลาบวิทยาลัย หลังจากนั้นได้เข้าเรียนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ 1 ปี ก่อนลาออกไปศึกษาต่อในคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยบอมเบย์ ประเทศอินเดีย เคยมีโอกาสคลุกคลีกับนักเลง และเคยรับราชการตำรวจเป็นสายลับ กลายเป็นประสบการณ์ที่นำมาถ่ายทอดเป็นนิยาย สำหรับศพของนายฉัตรชัย หลังพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและสวดพระอภิธรรมที่วัดธาตุทองแล้ว ได้บรรจุศพไว้เพื่อรอสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จึงจะบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น