ศบค. แถลง พบติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 29 ราย รวมยอดสะสม 2,672 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมไทยมีผู้เสียชีวิต 46 ราย
วันนี้ (16 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 29 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,672 คน จำนวนผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้วรวมทั้งสิ้น 1,593 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ. 1,077 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 3 คน รวมเป็นผู้เสียชีวิตสะสม 46 คน
ผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายชาวมาเลเซียวัย 55 ปี อาชีพไกด์ ไม่มีโรคประจำตัว โดยมีประวัติเดินทางไปประเทศจอร์เจียในช่วงวันที่ 13-19 มี.ค.มีลูกทัวร์ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เดินทางกลับมาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.เริ่มป่วยตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.แต่เข้ารับการรักษาใน รพ.ที่ กทม.เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ด้วยอาการไอ เหนื่อย ออกซิเจนในเลือดลดเหลือ 88% พบปอดอักเสบ และมีผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด อีก 2 สัปดาห์ต่อมาอาการแย่ลงจนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 14 เม.ย.
รายที่ 2 เป็นหญิงไทยวัย 35 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน และไขมันในเลือดสูงแต่รักษาไม่ต่อเนื่อง เริ่มป่วยในวันที่ 20 มี.ค.ด้วยอาการ ไอ หอบเหนื่อย เข้ารักษาครั้งแรกใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง และได้รับยาไปกินที่บ้าน ต่อมาในวันที่ 26 มี.ค.กลับเข้ามารักษาตัวใน รพ.ด้วยอาการไข้สูงขึ้น หอบเหนื่อยมากขึ้น ปอดอักเสบรุนแรง และติดเชื้อในกระแสเลือด จากนั้นในวันที่ 27 มี.ค.ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโควิด มีอาการเหนื่อยมากขึ้นจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ต่อมาเสียชีวิตในวันที่ 15 เม.ย.
รายที่ 3 เป็นชายไทยวัย 37 ปี อาชีพรับจ้างขับรถแบ็กโฮ มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วน ประวัติเสี่ยง คือ ภรรยาทำงานร้านอาหารย่าสุขุมวิทใน กทม.เมื่อร้านปิดให้บริการก็กลับไปอยู่ด้วยกันใน จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ต่อมาวันที่ 22 มี.ค.พบว่ามีไข้สูง ทอนซิลอักเสบ เข้ารักษาอาการที่คลินิกใน จ.ปราจีนบุรี ระหว่างนั้นมีอาการป่วยมากขึ้น และเข้ามาที่คลินิกอีก 4-5 ครั้ง จนกระทั่งแพทย์แนะนำให้ไปตรวจที่ รพ.ประจำจังหวัดในวันที่ 6 เม.ย.มีไข้สูง 39.1 องศา และหน้ามืด แพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและตรวจพบติดเชื้อโควิด มีอาการแย่ลง จากนั้นเสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย.