ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ลดลงเหลือ 29 ราย เสียชีวิตยังมี 3 ราย อายุยังไม่มาก แต่มีโรคประจำตัว ป่วยสะสม 2,672 ราย กลับบ้านแล้ว 1,593 ราย เผย 25 จังหวัดไม่มีผู้ป่วยรายงานใน 14 วัน ย้ำอย่าเพิ่งสบายใจ หากผ่อนคลายไม่รักษามาตรการ 14 วันข้างหน้าอาจมีคนติดเชื้อเพิ่ม
วันนี้ (16 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงข่าวประจำวันที่ 16 เม.ย. ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 29 ราย กลับบ้านเพิ่ม 96 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 2,672 ราย กระจาย 68 จังหวัด โดยกลับบ้านรวม 1,593 ราย ยังรักษาใน รพ. 1,077 ราย เสียชีวิตรวม 46 ราย ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ ได้แก่ 1. ชายชาวมาเลเซีย อายุ 55 ปี อาชีพไกด์ทัวร์ ไม่มีโรคประจำตัว โดยเป็นไกด์ไปประเทศจอร์เจีย วันที่ 13-19 มี.ค. โดยมีลูกทัวร์ป่วยโรคโควิด-19 เมื่อผู้ป่วยกลับมาไทยวันที่ 19 มี.ค. และเริ่มป่วยวันที่ 21 มี.ค. มารับการรักษาใน รพ.แห่งหนึ่งใน กทม. มีอาการไอ เหนื่อย ออกซิเจนในเลือดลดเหลือ 88% เอกซเรย์พบปอดอักเสบ และผลออกมายืนยันว่าเป็นโควิด-19 โดย 2 สัปดาห์อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนวันที่ 14 เม.ย. เสียชีวิตไป
2. หญิงไทยอายุ 45 ปี เป็นพนักงานบริษัท มีโรคเบาหวาน ไขมันในเลือดสูง แต่รักษาไม่ต่อเนื่อง เริ่มป่วยวันที่ 20 มี.ค. มีอาการไอ เหนื่อย มารับการรักษาครั้งแรกที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง รับยากลับไปทานที่บ้าน แต่ไม่ดีขึ้น กลับมารักษาอีกครั้งวันที่ 26 มี.ค. ด้วยอาการไอมากขึ้น เหนื่อยมากขึ้น เอกซเรย์พบปอดอักเสบรุนแรง ติดเชื้อในกระแสเลือด วันที่ 27 มี.ค. ผลตรวจออกมาเป็นโควิด-19 ระหว่างรักษามีอาการเหนื่อยมากขึ้น แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตวันที่ 15 เม.ย.
และ 3. ชายไทยอายุ 37 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปขับรถแบ็กโฮ มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง อ้วน ประวัติเสี่ยง คือ ภรรยาทำงานร้านอาหารย่านสุขุมวิท หลังปิดร้านกลับมาอยู่ที่ปราจีนบุรีวันที่ 18 มี.ค. โดยวันที่ 22 มี.ค. เริ่มมีไข้สูง ทอนซิลอักเสบ รักษาคลินิกแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี ระหว่างนั้นมีอาการมากขึ้น รับการรักษาที่คลินิก 4-5 ครั้ง แต่ไม่ดีขึ้น จึงแนะนำให้ตรวจ รพ.ใน จ.ปราจีนบุรี วันที่ 6 เม.ย. แรกรับมีอาการไข้สูง 39.1 องศาเซลเซียส หน้ามืด แพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจในวันนั้น ส่งตรวจหาเชื้อยืนยันโควิด-19 จากนั้นเสียชีวิตวันที่ 15 เม.ย.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 29 ราย พบว่า เป็นกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้าจำนวน 14 ราย คนไทยกลับจากต่างประเทศ 2 ราย ไปสถานที่ชุมชน 1 ราย กลุ่มอาชีพเสี่ยง 2 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 10 ราย ทั้งนี้ จังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยในช่วง 14 วัน มี 25 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี จันทบุรี นครนายก บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด ราชบุรี ลพบุรี ลำพูน ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม สระบุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี อย่างไรก็ตาม พบว่า กทม. และ นนทบุรี กราฟเริ่มกลับมาสูงขึ้นในช่วง 2-3 วันมานี้ ต้องพยายามทำให้ดียิ่งขึ้นทั้งเคอร์ฟิว และรักษาระยะห่าง ส่วนต่างจังหวัดก็ลดลง
“คนอาจมองว่าตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ลดลงอีกแล้ว หลายคนบอกสบายใจ ผ่อนคลายไปชุมนุม นั่งก๊ง ก็จะเกิดสิ่งที่เป็นปัญหาตามมา คือ ใกล้ชิดกันเกินไป ก็จะเกิดปัญหาประเด็นถัดไปได้ ที่เราดีขึ้นทุกวันนี้ เพราะวันประกาศเคอร์ฟิว คือ วันที่ 3 เม.ย. นับแล้ว 14 วันพอดี ผลของวันนี้ที่ดี มาจากการที่เราทำเมื่อ 14 วันที่แล้ว แล้ววันนี้เราจะผ่อนคลายแล้ว พรุ่งนี้อาจจะยังดีอยู่ แต่ 14 วันข้างหน้าอาจมีคนติดเชื้อเพิ่มก็ได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
