xs
xsm
sm
md
lg

“ปธ.กก.หอการค้าไทย” เผยอีกไม่นานปลดล็อกธุรกิจ เชื่อวิกฤต ศก.รอบนี้เจ็บไม่มาก ห่วงก็แต่รายย่อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.กก.หอการค้าไทย เผยอีกไม่นานจะเริ่มปลดล็อกธุรกิจ ดึงแอป หมอชนะ ช่วยในการติดตามโรค ยันยังต้องให้ความสำคัญชีวิตคนอันดับหนึ่ง เชื่อวิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ เจ็บไม่มาก เพราะบทเรียนจากต้มยำกุ้งทำให้ระวังตัวกันมากขึ้น คาด ธุรกิจใหญ่ไม่กระทบหนัก ห่วงก็แต่รายย่อย




วันนี้ (15 เมษายน 2563) นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ กับรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ปลดล็อกเศรษฐกิจ รีสตาร์ตธุรกิจ ฝ่าโควิด อย่างไร ?”

โดย นายกลินท์ กล่าวว่า เบื้องต้นแบ่งเป็น 2 มิติ มิติแรก คือ เรื่องของพื้นที่ มีหลายจังหวัดที่คนติดเชื้อน้อยมาก ถือเป็นสีเขียว ส่วนติดประปราย เป็นสีเหลือง ติดหนาแน่น เป็นสีแดง แต่ละโซนการเปิดก็จะแตกต่างกัน หากเปิดสีเขียว ก็กลัวเกิดโรคระบาดซ้ำ ก็มีการเสนอให้โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดตัว ซึ่งสามารถติดตามได้ว่าคนอยู่จังหวัดนี้ตอนนี้ไปอยู่ตรงไหนบ้าง แล้วตรงไหนเป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงการไปพื้นที่นั้น

มิติที่สอง คือ ด้านธุรกิจ อันไหนมีความเสี่ยงสูง คนหนาแน่น ไม่สามารถควบคุมได้ ก็อาจชะลอไปก่อน ธุรกิจไหนสามารถควบคุมได้ ให้ดิสแทนซิงได้ ก็สมควรเปิด ยกตัวอย่างร้านอาหาร ต้องวางโต๊ะเว้นโต๊ะ คนเสิร์ฟ คนทำอาหาร ต้องปิดหน้ากากอนามัย อากาศต้องถ่ายเท ห้างสรรพสินค้าก็เช่นกัน

นายกลินท์ กล่าวอีกว่า เรายกโมเดลจากจีนมาเป็นหลัก เอาเรื่อง Track & Trace มา ดูเรื่องเศรษฐกิจให้ไปได้ และสังคมไปได้ด้วย แต่สาธารณสุขสำคัญสุด ชีวิตคนต้องมาอันดับหนึ่ง โรคนี้คงอยู่กับเราไปสักพักหนึ่ง ส่วนเงื่อนเวลาในการปลดล็อกธุรกิจ เท่าที่ประชุมกัน คงไม่นานเกินรอ

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวต่ออีกว่า ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เราต้องถามว่าเราเก่งอะไร ไทยเก่งเรื่องอาหาร บ้านเราสมบูรณ์ ส่งออกอาหารช่วงนี้จะหยุดนิ่งไป แต่บริโภคในประเทศ สามารถช่วยกันได้ ผลไม้ออก เอกชนรายไหนจะซื้อไปแจกจ่ายก็ทำได้ อะไรที่ช่วยกันได้ให้ช่วยกันเป็นเรื่องดี

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวด้วยว่า วิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้หนัก รอบก่อนต้มยำกุ้งก็เจ็บตัวพอสมควร แต่ทำให้เรามีบทเรียน ระมัดระวังกันมากขึ้น ทำให้คราวนี้คงไม่เจ็บมาก การใช้จ่ายแบบพอเพียงหลายบริษัทก็ใช้ ตนคิดว่า บริษัทใหญ่ๆ คงไม่กระทบมาก แต่เป็นห่วงพวกรายย่อยมากกว่า พวกหาเช้ากินค่ำ พวกสตาร์ตอัป ที่น่าเป็นห่วง


กำลังโหลดความคิดเห็น