“รศ.ดร.วิวัฒน์ชัย” ค้านกู้แหลก อัดเงินสู้วิกฤตโควิด-19 เพราะสุดท้าย “คนชั้นกลาง” ต้องแบกภาระใช้หนี้ จ่ายภาษีหนักอยู่ฝ่ายเดียว ชี้ เป็นหนี้ได้แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญช่วยกลุ่มที่เดือดร้อนหนักสุดก่อน ไม่ใช่เน้นที่คนรวย เสนอหยุดซื้ออาวุธ หัก 30% จากเงินเดือน ส.ส.- ส.ว.- เบี้ยรัฐวิสาหกิจ เอาเงินเข้ากองทุนกอบกู้วิกฤตชาติ
วันที่ 14 เมษายน 2563 รศ.ดร.วิวัฒน์ชัย อัตถากร คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “บันทึกเศรษฐกิจโลกยุควิกฤตโควิด-19 หายนะหนี้โลก”
โดย ดร.วิวัฒน์ชัย กล่าวถึงกรณีมาตรการดูแลและเยียวยาโควิด-19 วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ว่า การก่อหนี้มันต้องมีคนรับภาระ ถามว่าโครงสร้างการกระจายรายได้ของประเทศไทย เป็นโครงสร้างที่เหลื่อมล้ำสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่จ่ายภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างคนชั้นกลาง ดังนั้น การก่อหนี้จะตกอยู่ที่คนชั้นกลางเป็นหลักในการชำระหนี้
บางทีคนชอบทึกทักเวลาเกิดวิกฤต คนตกงาน เราต้องอัดเงินเข้าไปเลย ฟังดูเร้าใจ แต่มันต้องดูมิติต่างๆ ข้อดีข้อเสียอย่างไร เม็ดเงินเรามีจำกัดในการก่อหนี้ เราจะให้คนไหนก่อนหลังอย่างไร ตนไม่เห็นการจัดลำดับความสำคัญของรัฐบาลเลย คิดว่าเป็นจุดอ่อนในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ นี่คือวิกฤตการณ์การบริหารภายใต้วิกฤต แต่เท่าที่เห็น เป็นการเอาคนตัวใหญ่ไว้ก่อน คนมีรายได้น้อยถูกวางไว้หลังเสมอ ก่อหนี้อย่างไร ในอนาคตต้องมีคนใช้หนี้ แล้วก็คือคนชั้นกลาง มหาเศรษฐี คนรวยหุ้นต่างๆ ไม่ได้มีโอกาสที่มาจ่ายตรงนี้ได้เต็มที่
ดร.วิวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า ครม.อนุมติออก พ.ร.ก. 3 ฉบับ บางอันก็สมเหตุสมผลที่ต้องกู้ แต่ต้องจัดลำดับความสำคัญ ต้องอธิบายผลประโยชน์ทางสังคม ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว ได้ ถ้าไม่รอบคอบจะเกิดปัญหาในอนาคต แล้วนี้ไม่รู้ขัดต่อ พ.ร.บ.วินัยการคลังหรือไม่
ดร.วิวัฒน์ชัย ยังกล่าวด้วยว่า ทางออกของเมืองไทย ตอนนี้ไม่มีทางออกสว่างไสว แต่หัวจิตหัวใจคนออกแบบทางออก ยืนอยู่บนคนกลุ่มไหนเป็นหลัก ถ้าอยู่บนคนรายได้น้อย ก็จะออกแบบนโยบายที่คำนึงถึงคนเหล่านี้เสมอ
ตนอยากเสนอทางออก ดังนี้ 1. งดซื้ออาวุธ พอได้แล้ว ความมั่นคงชาติกับความมั่นคงชีวิต ตอนนี้ความมั่นคงชาติต้องเป็นรองชีวิตมนุษย์ แล้วอยากเสนอให้รัฐบาลตั้งกองทุนหนึ่งขึ้นมา ชื่อว่า กองทุนแห่งชาติกอบกู้วิกฤติชาติ หยุดซื้ออาวุธ แล้วเอาเงินมาไว้ในกองทุนนี้
2. ครม. ส.ส. ส.ว. ลดเงินเดือน 30 เปอร์เซ็นต์ 1 ปี ผู้ช่วย ส.ส. ต่าง ๆ ด้วย เพื่อเอาเงินเข้ากองทุน
3. รัฐวิสาหกิจ พวกค่าตอบแทน เบี้ยประชุม โบนัส หักมา 30 เปอร์เซ็นต์ เอาเงินทาเข้ากองทุน