"พิชาย" เชื่อม็อบนักศึกษามีแรงขับเคลื่อนไม่หยุด จ่อออกจากมหาวิทยาลัยลงท้องถนน ขึ้นอยู่กับเชื้อเพลิงที่มักมาเติมแบบไม่คาดฝัน ฝากคนรุ่นเก่าไม่ต้องคิดแทนเด็ก แค่ให้กำลังใจต่อสู้แบบสันติอย่ารุนแรงก็พอ
วันที่ 27 ก.พ. 63 รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อ.ประจำหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมสนทนาในรายการ "คนเคาะข่าว" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง "นิวส์วัน" ในหัวข้อ "อ่านปรากฏการฤณ์ Flash Mobs"
โดย ดร.พิชาย กล่าวว่า ก่อนยุบพรรคอนาคตใหม่ก็มีนักวิชาการประเมินกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก็มีฝ่ายที่มองว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเอาอดีตเป็นตัวอย่าง ตอนยุบพรรคไทยรักไทยและพลังประชาชน ตอนนั้นก็ไม่ปรากฎว่ามีผู้สนับสนุนของพรรคนั้นออกมามากมาย เลยสรุปว่าอนาคตใหม่ก็คงคล้ายคลึงในอดีต ประการสอง มองจากแบบแผนการกระทำของเยาวชนในปัจจุบันว่าเป็นแค่นักเลงคีย์บอร์ด ทนลำบากในการไปชุมนุมไม่ได้ แต่พอหลังยุบพรรค ปรากฎว่าประเมินผิดอย่างสิ้นเชิง ประเมินพลังนักศึกษาต่ำเกินจริง
ดร.พิชาย กล่าวอีกว่า มีวาทกรรมโจมตีนักศึกษาว่าถูกชักใย ถูกครอบงำ จากประสบการณ์ของตน การเคลื่อนไหวของนักศึกษาจะคิดกันเองคุยกันเอง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ยิ่งปัจจุบันมีข้อมูลข่าวสารเยอะแยะให้ค้นหาได้ ไม่ต้องกลัวว่านักศึกษาจะโดนหลอก การทำงานผ่านโซเชียลฯเขาเก่งมาก การที่ไปบอกว่านักศึกษาถูกหลอกคือหลอกตัวเอง
ดร.พิชาย กล่าวด้วยว่า มีเงื่อนไขหลักอยู่ 5 ประการที่ทำให้นักศึกษาออกมาชุมนุมอย่างแพร่หลาย ประการแรก ความอึดอัดคับข้องใจกับบรรยากาศการเมืองที่ไม่มีเสรีภาพ คนรุ่นนี้เขาเติบโตมาในรัฐบาล คสช. ซึ่งมีการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น คนวัยนี้ก็เลยอยากสร้างการยอมรับ อยากมีเสรีภาพในการพูด การแสดงออก แล้วพอมีอนาคตใหม่มานำเสนอชุดความคิดที่ตรงกับความเชื่อและอุดมการณ์ เป็นเหตุให้ไปเลือกอนาคตใหม่ แล้วมองว่าได้มีส่วนร่วมสร้างพรรคนี้ขึ้นมา เป็นตัวแทนความคิดของเขา
ประการที่สอง ความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล ความั่งคั่งรวมศูนย์ที่เศรษฐีไม่กี่ตระกูล สภาพทางเศรษฐกิจก็ปรากฎชัดว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ประการที่สาม การใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม 4-5 ปีที่ผ่านมามีการสร้างมาตรฐานใหม่ของหน่วยงานรัฐ โดยเอาความไร้มาตรฐานเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ เลือกปฏิบัติ คนของตัวเองก็จะใช้กฎหมายอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ใช่คนของตัวเองก็จะใช้กฎหมายอีกอย่างหนึ่ง
ประการที่สี่ ความปรารถนาของสังคมหนุ่มสาว ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม - การเมือง แล้วมองว่าอนาคตใหม่ไม่ทำให้เขาผิดหวัง ยังคงขับเคลื่อนผลักดันนโยบายต่าง ๆ ที่เสนอไว้
ประการที่ห้า การยุบพรรค เหมือนเป็นการทำลายตัวแทนทางความคิดของคนหนุ่มสาว รวมไปถึงเหตุการณ์วันนี้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เห็นชัดที่ ส.ส.อนาคตใหม่ไม่ให้อภิปรายในสภา 3 คน กับแค่ยืดเวลาอีกสัก 2-3 ชั่วโมงก็ไม่ได้ ทำให้เกิดกระแสต่าง ๆ มากขึ้น และหมดหวังกับสภาฯ
ดร.พิชาย กล่าวว่า ตนไม่มองว่าจะเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง แต่เชื่อว่าจะมีแรงขับเคลื่อนที่ไม่หยุด มีการสะสมในเชิงปริมาณไปเรื่อย ๆ จะมีการคิดรูปแบบการเคลื่อนไหวที่หลากหลายมากขึ้น เมื่อถึงจุดหนึ่งก็เป็นไปได้ที่จะออกนอกมหาวิทยาลัยแล้วลงถนน อาจไม่เร็ว ๆ นี้ ขึ้นกับสถานการณ์ที่มักมาแบบไม่คาดฝัน คอยมาเติมเชื้อเพลิงอยู่เรื่อย ๆ
ดร.พิชาย ยังกล่าวปิดท้ายว่า นักเคลื่อนไหวรุ่นเก่าไม่ต้องไปคิดแทน เด็กสมัยนี้มีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเรา ๆ เสียอีก แค่คอยติดตามดู ให้กำลังใจต่อสู้แบบสันติ อย่ารุนแรง ถ้าสันติก็เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ถ้ายังยึดติดกับแบบแผนเก่า ๆ เราก็จะไม่เข้าใจว่าสังคมเปลี่ยนไปแล้ว อาจตีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนได้